ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส Covid-19 ช่วงที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน Beartai ได้เคยนำเสนอรายงานข่าวเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมจากหลาย ๆ ที่ทั่วโลกที่พอจะเป็นหลักฐานที่บ่งชี้ได้ว่า โลกของเราได้ฉวยโอกาสที่ผู้คนกักตัวอยู่บ้านในสภาวะล็อกดาวน์ทั้งโลกถึง 1 ใน 3 ของประชากรทั้งหมด หยุดกิจกรรมทางสังคมและการสัญจรเกือบทั้งหมด ฟื้นตัวจากภาวะมลพิษและถูกทำลายมานานปี
ซึ่งวันนี้ก็มีภาพบรรยากาศของเมืองต่าง ๆ ทั่วโลกที่เป็นการเปรียบเทียบระหว่างช่วงปกติที่ไม่มีสถานการณ์ Covid-19 กับในช่วงนี้มาให้ดูกันชัด ๆ อีกครั้ง รายงานยังเปิดเผยอีกว่า ก๊าซไนโตรเจนไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศลดลงมากกว่า 50% ในเมืองปารีสของฝรั่งเศส แมดริดของสเปน เมืองมิลานและโรมของอิตาลี รวมถึงองค์การนาซาก็รายงานว่า มลพิษในอากาสในอเมริกาเหนือและประเทศจีนลดลงกว่า 30% อีกด้วย
เมืองนิวเดลี ประเทศอินเดีย
ประตูอินเดีย (India Gate) หรือชื่อเดิม อนุสรณ์สถานแห่งสงครามทั้งปวงของอินเดีย (All India War Memorial) ภาพบนถูกถ่ายไว้เมื่อ 17 ตุลาคมปีที่แล้วเทียบกับภาพล่าง 8 เมษายนปีนี้หลังจากการประกาศล็อกดาวน์ของประเทศอินเดีย 21 วัน สำนักข่าวรอยเตอร์ได้ลงคำบรรยายภาพไว้ว่า “ช่วงเวลาที่อากาศสะอาดยาวนานที่สุดที่เคยมีมาของอินเดีย”
เมืองนิวเดลี ประเทศอินเดีย
ภาพมุมสูงของเมืองนิวเดลี เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายนเมื่อปีก่อน และภาพล่าง 8 เมษายนปีนี้อีกเช่นกัน เมืองนิวเดลีจัดเป็นเมืองที่มีประชากรสูงที่สุดในโลกที่ประกาศล็อกดาวน์กับจำนวนประชากร 1.3 พันล้านคน และเป็นประเทศอินเดียก็เป็นประเทศที่มาตการลงโทษกับประชาชนที่ฝ่าฝืนเคอร์ฟิวอย่างจริงจังมากที่สุดประเทศหนึ่ง
แม่น้ำยมุนา เมืองนิวเดลี ประเทศอินเดีย
เมื่อปีที่แล้ว ประเทศอินเดียติดอันดับเมืองที่มลพิษทางอากาศสูงที่สุดในโลกจำนวน 14 เมืองจากทั้งหมด 20 เมืองโดยค่าของฝุ่นพิษถึงขนาดก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ ภาพบรรยากาศและอากาศที่สดในขึ้นผิดหูผิดตาในช่วงนี้ของแม่น้ำยมุนา เมืองนิวเดลี อาจพอทำให้คนอินเดียในย่านนั้นได้หายใจหายคอเอาอากาศสดใสเข้าปอดบ้าง
เมืองลอสแอนเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา
เมืองลอสแอนเจลิสที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่การจราจรหนาแน่นและต้องเจอภาวะควันพิษบ่อยครั้ง สำนักข่าว Business Insider ได้ลงภาพเมืองนี้เมื่อวันที่ 14 เมษายน ที่เผยให้เห็นภูเขา San Gabriel อยู่ไกลออกไป รวมถึงรถบนถนนภายในเมือง ซึ่งปกติควันพิษที่ปกคลุมทำให้มองอะไรในระยะไกลแทบไม่เห็นเลย
เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี
เมืองมิลานของประเทศอิตาลีเป็นเมืองที่มีมลพิษทางอากาศสูงที่สุดของทวีปยุโรปเมื่อปี 2008 และยังคงเป็นปัญหาที่ไม่ได้รับการแก้ไขมาจนถึงปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม ภาพที่ถูกเผยแพร่โดยสำนักข่าว BBC ก็เผยบรรยกาศของเมืองในช่วงล็อกดาวน์ เมื่อวันที่ 17 เมษายนที่การสัญจรของชาวเมืองลดลง ทำให้ท้องฟ้าสดใสขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับเมื่อ 4 เดือนก่อน
เมืองเวนิส ประเทศอิตาลี
หลายคนอาจได้เห็นหลายข่าวที่ว่าแม่น้ำในเมืองเวนิส ประเทศอิตาลีกลับมาใสสะอาดขนาดนี้สัตว์ทะเลต่าง ๆ ได้กลับมาใช้ชีวิตในลำคลองกันได้ตามปกติ ภาพนี้ที่ถูกถ่ายจากดาวเทียม Copernicus Sentinel-2 ได้ถ่ายภาพมุมสูงลงมาให้เห็นเมืองเวนิสที่ไร้การสัญจรของเรือต่าง ๆ ก็เป็นอีกสาเหตุนึงที่อธิบายการฟื้นตัวของทะเลที่ติดกับเมืองแห่งนี้ของอิตาลี ภาพบนล่างเมื่อ 19 เมษายน ปี 2019 ส่วนภาพบนถ่ายเมื่อ 13 เมษายนปีนี้ หรือเกือบหนึ่งปีต่อมา
เมืองเวนิส ประเทศอิตาลี
เส้นทางที่เป็นคลองหลักของเมืองเวนิส (Grand Canal) ดูแปลกตาไปเลยเมื่อเอาภาพของวันที่ 6 มกรคา 2018 ด้านบนมาเทียบกับภาพด้านล่างที่ถ่ายเมื่อ 17 เมษายนที่ผ่านมา ตอนสถานการณ์ล็อกดาวน์ของประเทศอิตาลี ขนาดที่น้ำใสเหมือนคริสตัลตามที่สื่ออย่าง CNN รายงาน
เมืองจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย
เมืองจาการ์ตา เมืองหลวงของประเทศอินโดนีเซียจัดเป็นประเทศที่มีค่าฝุ่นพิษสูงที่สุดในโลก แต่ภาพที่ถูกถ่ายเปรียบเทียบกันระหว่างของวันที่ 26 กรกฎาคม ปี 2018 กับเมื่อวันที่ 16 เมษายนที่ผ่านมาก็แสดงให้เห็นความแตกต่าง
เมืองจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย
จาการ์ตาโพสต์ สื่อท้องถิ่นของประเทศอินโดนิเซียเผยแพร่ภาพของเมืองจาการ์ตา ที่เป็นเมืองที่ฝุ่นพิษสูงที่สุดอันดับ 5 ของโลก กับภาพด้านล่างของเมืองเดียวกันที่อากาศเริ่มสะอาดและสดใสขึ้นตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคมหลังจากเริ่มมีมาตรการล็อกดาวน์ และได้ถ่ายภาพไว้ด้านล่างไว้เมื่อวันที่ 16 เมษายนที่ผ่านมา
เมืองอิสลามาบัด ประเทศปากีสถาน
สื่อท้องถิ่นของปากีสถานอย่าง Dawn เผยแพร่ภาพด้านล่างที่ถูกถ่ายไว้เมื่อวันที่ 20 เมษายน ที่คุณภาพของอากาศดีขึ้นภายหลังมาตรการล็อกดาวนที่เริ่มมาตั้งแต่ 2 เมษายน ในช่วงเวลาใกล้เคียงกับประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก ภาพนี้ถ่ายที่จุดชมวิว Daman-e-Koh ที่เห็นเมืองอิสลามาบัดได้ 360 องศา ส่วนภาพบนถ่ายจากจุดเดียวกันเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม ปี 2017