บรรดาเจ้าหน้าที่ในแวดวงสาธารณสุขของสหรัฐฯ ต่างออกมาวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเหมาะสม สำหรับสิ่งที่ทรัมป์ (Donald Trump) ประธานาธิบดีได้แถลงความในใจที่มีต่อบรรดาเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ในสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด 19 ขณะเดินทางไปเยือน Owen & Minor, Inc. Distribution Center เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2020 ที่ผ่านมา
ประธานาธิบดีทรัมป์ได้เดินทางไปหาเสียงที่ศูนย์กระจายอุปกรณ์การแพทย์ในมลรัฐเพนซิลเวเนีย และประกาศนโยบายต่าง ๆ เช่นการปรับปรุงสต็อก และการขนส่งอุปกรณ์การแพทย์ให้แก่โรงพยาบาลต่าง ๆ ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมทั้งการเพิ่มชุดตรวจ ยารักษาโรคที่จำเป็น ให้เพียงพอกับการใช้งานภายในช่วง 90 วันนี้
และเขาจะบังคับใช้กฎหมายใหม่ต่อหน่วยงาน U.S. International Development Finance Corporation (DFC) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ทรัมป์เป็นผู้อนุมัติให้ก่อตั้งในปี 2018 เพื่อลงทุนในโปรแกรมพัฒนาเศรษฐกิจสำหรับประเทศกำลังพัฒนา แต่ทรัมป์กำลังจะออกกฎใหม่เพื่อเปลี่ยนให้หน่วยงานนี้ หันมาสนับสนุนด้านการเงินแก่บริษัทในสหรัฐฯแทน
นอกจากนี้ทรัมป์ยังกล่าวพาดพิงไปถึงนายโจ ไบเดน ซึ่งเคยเป็นผู้ช่วยของอดีตประธานาธิบดีโอบามา และลงแข่งเลือกตั้งประธานาธิบดีในครั้งนี้ จึงถือเป็นหนึ่งในคู่แข่งคนสำคัญ โดยทรัมป์กล่าวอ้างว่า สมัยที่มีการแพร่ระบาดของไวรัสไข้หวัดนก H1N1 โจ “รับมือสถานการณ์ได้ไม่ดีเอาเสียเลย”
ทรัมป์กล่าวในขณะที่ตัวเลขยอดผู้เสียชีวิตจากวิกฤตไวรัสโควิด 19 พุ่งสูงขึ้นทุกวัน ซึ่งต่างกันอย่างเทียบไม่ได้กับผลลัพท์ที่เกิดจากไวรัสไข้หวัดนก H1N1
เป็นที่น่าสังเกตว่า ตลอดระยะเวลาที่ทรัมป์เยี่ยมชมศูนย์ รวมถึงช่วงแถลงข่าว เขาเลือกที่จะไม่สวมหน้ากากอนามัย ขณะที่ทีมงานของเขาต่างสวมหน้ากากอนามัยกันทุกคน
และช่วงหนึ่งของการแถลงข่าวนี้เกิดประโยคคำพูดหนึ่งที่กลายเป็นประเด็นร้อน ทำให้บรรดาชาวเน็ต และผู้มีชื่อเสียงในวงการ ต่างออกมาโจมตีทรัมป์อย่างรุนแรงถึงประโยคที่เขาหลุดพูดออกมา
“พวกเขา (หมอและพยาบาล) ต่างวิ่งเข้าสู่ความตาย ไม่ต่างกับเหล่าทหาร ที่วิ่งเข้าหากระสุน…ซึ่งเป็นภาพที่สวยงามที่ได้เห็นอะไรแบบนั้น”
เป็นคำพูดที่หลายคนไม่เชื่อว่าจะได้ยิน โดยเฉพาะจากปากของผู้นำสหรัฐฯ ซึ่งพูดขึ้นมาระหว่างสถานการณ์การแพร่ระบาดยังอยู่ในขั้นวิกฤติ โรงพยาบาลหลายแห่งขาดแคลนอุปกรณ์ในการทำงานและบุคลากรทางการแพทย์ต้องทำงานอย่างหนัก เต็มไปด้วยความเสี่ยงและแรงกดดัน ผู้คนจำนวนมากจึงต่างแสดงความไม่พอใจ และไล่ให้ทรัมป์ไปอยู่ในสถานการณ์เดียวกันกับเหล่าบุคคลากรทางการแพทย์!
หลายคนกล่าวถึงความเหมาะสมของประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดยตั้งคำถามว่า ทรัมป์ สามารถคิด และพูดได้เพียงแค่นั้นจริง ๆ หรือ? หรือต้องดูบริบททั้งหมดจากแถลงการณ์ฉบับเต็มเพื่อจะเข้าใจสิ่งที่ซ้อนอยู่ภายใต้คำพูดนี้ ซึ่งทรัมป์กล่าวว่า
“ทันทีที่ไวรัสร้ายกาจเหล่านี้มาเยือนถิ่นของเรา พวกคุณทุกคน (ทีมงานของบริษัท Owen & Minor, Inc.) ก็อุทิศตัวทำงานเพื่อจัดหาอุปกรณ์การแพทย์ที่จำเป็นให้เหล่านักรบแห่งวงการสาธารณสุขของเราอย่างเต็มที่…”
หลังจากนั้นทรัมป์ก็หยุดอ่านสคริปต์ และกล่าวว่า “พวกเขา (แพทย์และพยาบาล) คือนักรบใช่หรือไม่? ดังนั้นเมื่อพวกเขาก้าวเข้าไปในโรงพยาบาล และสวมชุดที่พวกคุณจัดส่งไปให้ แม้ว่าพวกเขายังไม่พร้อม ซึ่งในความจริงไม่ควรเป็นเช่นนั้น แต่พวกเขาก็เดินผ่านประตูเหล่านั้นไป พวกเขาต่างวิ่งไปสู่ความตาย เหมือนเหล่าทหารที่วิ่งเข้าหากระสุน ผมเห็น เช่นเดียวกับที่แพทย์และพยาบาลเห็น และผู้คนมากมายที่ไปโรงพยาบาลก็ได้เห็นเช่นกัน …ช่างเหลือเชื่อ และเป็นสิ่งที่สวยงามที่ได้เห็นอะไรแบบนี้”
ถ้อยแถลงทั้งหมดอาจพอทำให้เห็นได้ว่า ‘ทรัมป์’ มีความตั้งใจที่จะยกย่องเจ้าหน้าที่ทุกคนที่เกี่ยวข้องกับการทำงานเพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของไวรัส แต่ถ้อยคำที่เลือกใช้กลับขาดความละเอียดอ่อนต่อความรู้สึกของผู้คนที่อ่อนไหวเป็นพิเศษในช่วงนี้ และการด้นสดระหว่างแถลงการณ์ก็แสดงให้เห็นว่า ไม่ช่วยเรียกคะแนนนิยมได้อย่างที่ควรจะเป็น เพราะแทนที่จะส่งเสริม แต่ดูเหมือนทรัมป์จะยอมรับความผิดกลาย ๆ ว่า ที่เจ้าหน้าที่ทั้งหลายต้องมาเป็นแนวหน้าในสนามรบ ก็เพราะการกระจายอุปกรณ์ที่ไม่เพียงพอ และควรหรือไม่ที่แพทย์ และพยาบาลจะต้องมาเสี่ยงชีวิตจากการจัดการที่ล้มเหลวของรัฐบาลโดยไม่จำเป็น
อ้างอิง: Forbes, News18, NYdailynews, CNN
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส