หลังจากได้นำเสนอไปก่อนหน้านี้ว่าได้เริ่มมีกองถ่ายหนังและซีรีส์ในต่างประเทศได้คิดหาแนวปฏิบัติเพื่อให้สามารถกลับมาถ่ายทำได้อย่างปลอดภัยและได้รับอนุญาติจากภาครัฐ มาวันนี้เรามีอีก 2 ตัวอย่างของกองถ่ายในต่างประเทศ โดยกองแรกจะเป็นซีรีส์ไซไฟ 8 ตอนของ Netflix เรื่อง Katla ที่ได้ Baltasar Kormakur ผู้กำกับชาวไอซ์แลนด์ที่เคยมีผลงานอย่าง Everest และ Contraband กลับมาทำงานที่บ้านเกิด และกองถ่าย Children of the corn หนังจากนิยายของ Stephen King โดยโปรดิวเซอร์ Lucas Foster ที่ไปถ่ายกันในออสเตรเลีย
ระบบแถบสีบนแขนเสื้อของ Kormakur
สำหรับ Katla เป็นโพรเจกต์ซีรีส์ไซไฟฟอร์มยักษ์ 8 ตอนจบที่จะสตรีมทาง Netflix เป็นเรื่องราวของผู้คนในเมืองเล็ก ๆ ที่ต้องเผชิญกับภัยจากภูเขาไฟกึ่งธารน้ำแข็ง ซึ่งในเดือนมีนาคมที่ผ่านมาทาง Baltasar Kormakur ได้ถ่ายหนังไปแล้ว 4 วันในพื้นที่ถึง 50,000 ตารางเมตรในเมือง เรกยาวิก ก่อนรัฐบาลจะสั่งปิด จนเขาต้องคิดวิธีการให้ทีมงานกลับมาถ่ายทำได้อย่างปลอดภัยในช่วงที่สังคมกำลังเป็นห่วงเรื่องการระบาดของไวรัสแบบนี้ จนเขาสามารถคิดระบบแบ่งสีปลอกแขนเสื้อ โดยแต่ละสีจะบ่งบอกลักษณะหน้าที่ไว้ชัดเจนดังนี้
สีเหลือง สำหรับ นักแสดง เป็นสีที่แสดงว่าอยู่ในตำแหน่งที่ใกล้กับกล้องที่สุด
สีดำ สำหรับฝ่ายที่ต้องเตรียมการส่วนใหญ่อยู่ด้านนอกเซ็ต สำหรับ ช่างแต่งหน้า ทำผม และ ฝ่ายเสื้อผ้า
สีแดง สำหรับฝ่ายที่ต้องทำงานบริเวณ มอนิเตอร์ สำหรับ โปรดิวเซอร์ สคริปต์ซูเปอร์ไวเซอร์ (จดความต่อเนื่อง) และทีมงานวิชวลเอฟเฟกต์.
และสีฟ้า สำหรับเข้า ออก ได้ทุกที่ในบริเวณถ่ายทำ ที่จะจำกัดไว้เพียงทีมงานไม่กี่คน
ซึ่งนอกจากระบบสีปลอกแขนเสื้อแล้วก็ยังมีการจำกัดคนให้แต่ละกลุ่มมีจำนวนทีมงานไม่เกิน 20 คนเพื่อให้ง่ายต่อการตรวจสอบเรื่องระยะห่างและมั่นใจได้ว่าจะไม่มีทีมงานคนไหนเตร็ดเตร่นอกบริเวณที่ตนเองได้รับอนุญาต
แต่ก่อนระบบปลอกแขนสีนี้จะได้ปฏิบัติการคงต้องยกประโยชน์ให้กับนโยบายตรวจหาโรคของไอซ์แลนด์ที่ได้ผลจนทาง Netflix ยอมควักทุนให้ทางผู้กำกับได้ดำเนินการด้านความปลอดภัยรอบด้าน (นอกเหนือจากที่ได้จ่ายเงินชดเชยช่วงกองถ่ายถูกพักกองจาก COVID-19 แล้ว) โดยผ่านระบบการตรวจทีมงานและนักแสดงถึง 80 ชีวิตเพื่อหาเชื้อไวรัส ก่อนถ่ายต้องตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย มีการแจกอาหารกล่องแทนการจัดอาหารแบบเดิม ทำความสะอาดลูกบิดประตู ห้องน้ำ และพื้นผิวต่าง ๆ แบบรายชั่วโมง ทีมงานส่วนใหญ่จะสวมหน้ากากอนามัย (ยกเว้นนักแสดงตอนเข้าฉาก) ช่างแต่งหน้า และ ฝ่ายออกแบบงานสร้าง จะสวมถุงมือทำงาน
โดยผลจากการปรับระบบทำงานดังกล่าวทำให้ซีรีส์กลับมาถ่ายทำได้ 4 สัปดาห์แล้ว แต่ยังเลี่ยงถ่ายฉากที่นักแสดงจะต้องใกล้ชิดกัน โดยผู้กำกับตั้งใจว่าจะเลื่อนฉากที่นักแสดงจะต้องมีการสัมผัสทางกายออกไปก่อนจนกว่าจะมีการผ่อนคลายมาตรการควบคุม แต่หากไม่มีการเปลี่ยนแปลงก็จะมีการตรวจสุขภาพนักแสดงและประเมินอีกครั้งก่อนถ่ายทำต่อไป
ซึ่งในขณะนี้มีทีมงานเพียง 2 คนที่พบว่ามีอุณหภูมิสูงและพบว่ามีเชื้อ COVID-19 จึงถูกส่งกลับไปรักษาและกักตัว 2 สัปดาห์ และถึงตอนนี้ยังไม่มีทีมงานคนไหนป่วยเพิ่มอีกเลย โดยเป้าหมายต่อไปคือการพาทีมงานต่างชาติเข้าประเทศ ซึ่ง Kormakur ก็ตั้งใจจะหาที่พักให้ทีมงานที่เดินทางมาจากนอกไอซ์แลนด์ได้มีที่สำหรับกักตัวและตรวจเชื้อก่อนทำงานต่อไป และจนถึงขณะนี้ทั้งประเทศไอซ์แลนด์มีผู้ป่วย COVID-19 เพียง 3 คนเท่านั้น.
กักตัวยกกองหนังสยอง Children of the corn ที่ออสเตรเลีย
สำหรับกองถ่าย Children of the corn ฉบับหนังสยองขวัญอินดีงบประมาณ 10 ล้านเหรียญที่พา Lucas Foster ข้ามประเทศจาก ลอสแองเจลลิส สหรัฐอเมริกา มาสู่ ริชมอนด์ นิวเซาธ์เวลส์ ออสเตรเลีย เพื่อให้ได้ภาพของทุ่งข้าวโพดในเดือนพฤศจิกายนและก็กลายเป็นการถ่ายทำช่วงเกิดวิกฤติ COVID-19 ร่วมกับ Kurt Wimmer ผู้เขียนบท – กำกับหนัง (เคยมีผลงานหนัง Equilibrium) ซึ่งหนังกำลังจะถ่ายทำเสร็จในวันที่ 28 พฤษภาคมนี้แล้ว
และก็เหมือนกองถ่าย Katla ของ Kormakur ที่ก็มีแนวปฏิบัติทั้งการแบ่งพื้นที่ให้แต่ละหน้าที่ มีแพทย์ พยาบาลมาประจำกองถ่าย ทีมงานและนักแสดงจะต้องกรอกแบบสอบถามด้านสุขภาพ มีการตรวจวัดอุณหภูมิ ทำความสะอาดพื้นผิวต่าง ๆ ฉากที่ถ่ายทำตอนกลางคืนจะให้นักแสดงสวมชุดที่เข้ากับสีผิวไว้ภายในเพื่อให้ความอบอุ่นและป้องกันเชื้อโรคด้วยอีกทาง (ตามนโยบายของกองถ่ายออสเตรเลีย เวลากล้องเดินจะไม่มีการใช้มาตรการเว้นระยะห่าง 2 เมตร) และแจกจ่ายเจลล้างมืออย่างทั่วถึง
ฟังดูแล้วเหมือนนโยบายทั่ว ๆ ไป แต่ที่ทำให้โปรดิวเซอร์อย่าง Foster ต้องเครียดหนักคือการตัดสินใจควัก 20% จากทุนสร้างอันแสนจำกัดจำเขี่ยมาจ่ายเป็นค่าที่พักเพื่อกักตัวทีมงาน นักแสดง ซึ่งมีนักแสดงเด็กถึง 25 คน แม้กระทั่งหมาของนักแสดงก็จะมีที่ไว้สำหรับกักตัวด้วย ซึ่งสถานที่ถ่ายทำมักเป็นไร่ เป็นฟาร์ม ดังนั้นจึงต้องจองพวกกระต๊อบ โรงแรม และที่พักแบบต่าง ๆ ผ่าน Air bnb ให้นักแสดงอยู่รอบ ๆ เซ็ต
และหากคิดว่าอุปสรรคที่ Foster ต้องเผชิญมีแค่เรื่องที่พักล่ะก็ ไม่ใช่เลย เพราะก่อนหน้านี้เขาต้องเผชิญปัญหาการต้องเปลี่ยนตัวนักแสดงกะทันหันมาแล้วทั้งนักแสดงเด็กอายุ 12 ที่ไม่กล้าขึ้นเครื่องบินจากลอสแองเจลลิสมาที่ออสเตรเลีย หรือ นักแสดงออสเตรเลียที่ซิดนีย์ก็ไม่ยอมเดินทางมายัง ริชมอนด์ และยังต้องหดตารางการทำงานลงเพื่อให้เหมาะกับการทำงานร่วมกับเยาวชน อีกทั้งข่าวช่วง COVID-19 ระบาดที่ส่งผลต่อสภาพจิตใจทีมงานและนักแสดงจนแทบไม่มีกะจิตกะใจจะทำงานกันเลย
จนกระทั่ง Foster ตัดสินใจเสนอแนวคิดตัดขาดโลกภายนอกแล้วทำงานร่วมกันในเมืองชนบทเล็ก ๆ อย่างริชมอนด์ ดูข่าวให้น้อยลงและคุยกันให้มากขึ้น โดยยังเน้นมาตรการด้านสุขอนามัยอยู่ก็ทำให้กองถ่ายเดินมาได้จนเกือบจะปิดกล้องได้ในเร็ววันนี้ เพื่อประคองสภาพจิตใจซึ่งถือเป็นจุดสำคัญของคนทำงานสร้างสรรค์อย่างภาพยนตร์
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส