ย้อนเวลากลับไปในวันที่ 22 พฤษภาคม 1980 นั่นคือช่วงเวลาที่ Pac-Man หนึ่งในแฟรนไชส์เกมอาร์เขตรุ่นบุกเบิกวงการที่มีเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใครด้วยการที่ผู้เล่นรับบทเป็นสิ่งมีชีวิตรูปทรงวงกลมสีเหลืองงับทุกอย่างที่ขว้างหน้าได้ถือกำเนิดขึ้น! (ซึ่งใครก็ได้ช่วยบอกทีว่ามันคือตัวอะไร…) ในโอกาสดีงามแบบนี้ เรามาดูกันดีกว่าครับว่าตลอด 40 ปีที่ผ่านมา Pac-Man ได้ทิ้งสิ่งที่น่าจดจำและน่าสนใจอะไรเอาไว้ในวงการเกมกันบ้าง
1. Pac-Man ได้แรงบันดาลใจมาจากอะไร?
Pac-Man ถูกออกแบบขึ้นมาหรือว่าง่าย ๆ คือให้กำเนิดโดยคุณ โทรุ อิวาทานิ ( Toru Iwatani) โดยแรงบันดาลใจในนั้น เกิดขึ้นจากตอนที่เขากำลังสร้างเกมนี้ขึ้นมานี่แหล่ะที่ก็ใช้เวลาต่อวันราว ๆ 24 ชั่วโมงเต็ม! วันหนึ่งแกก็กินพิซซ่าอาหารที่โปรดปรานแล้วดันไปเตะตาเข้ากับพิซซ่าที่ถูกหยิบไปแล้ว 2 ชิ้น คุณโทรุก็เลยนำสิ่งเห็นไปออกแบบเป็นตัวละคร Pac-Man นั่นเอง!
2. ทำไมถึงชื่อ Pac-Man?
สืบเนื่องจากข้อแรกคุณ โทรุ แกได้ดีไซน์มาแล้วใช่ไหมครับ คราวนี้ก็เป็นทีของชื่อกันบ้าง คือหลังจากที่แกสร้างตัวละครที่เราจะได้บังคับเสร็จ แกก็วางคอนเซปต์ต่อเลยว่าตัวละครของแกจะเก็บคะแนนในฉากด้วย “การกิน” ทีนี้แกก็เลยคิดว่าคำไหนจะเหมาะกับคอนเซปต์ของเกม จนในที่สุดก็นึกออกด้วยการถอดคำว่า paku paku หรือการเคี้ยวในภาษาญี่ปุ่นจนออกมาเป็นคำว่า Pac-Man
3. คอนเซปต์ของเกมได้แรงบันดาลใจมาจาก Popeye และ Casper
ในเกมยุคสมัยนั้นคอนเซปต์ที่ว่าด้วยการกินมันยังไม่ได้มีเยอะมากละนะครับ ซึ่งนั่นก็ทำให้เกม Pac-Man เป็นที่น่าจดจำและแตกต่างจากเกมอื่น ๆ แต่ทั้งนี้ต้นตอความคิดของตัวเกม คุณโทรุ ก็ได้เปิดเผยว่า แกได้รับแรงบันดาลใจมาจากหนังสือการ์ตูนคอมิกในปี 1929 ที่มีชื่อว่า “Popeye” (แต่เรา ๆ น่าจะทันกันในเวอร์ชันแอนิเมชันซีรีส์จากปี 1960 กันมากกว่าละนะ) ซึ่งก็นำไอเดียจากเวลาที่ป๊อปอายกินผักโขมแล้วมีพลังนั่นเองครับ
ส่วนทำไมต้องมีผีเป็นศัตรูในฉาก? อันนี้คุณโทรุแกก็บอกว่าได้แรงบันดาลใจมากจากหนังสือการ์ตูนคอมิกเหมือนกันครับ โดยมาจากสองเรื่องด้วยกันอย่างผีน้อย Casper และ Obake no Q-Taro
4. เกมแรกที่มีคัตซีน?
ข้อนี้อาจไม่ได้ชัวร์ 100 เปอร์เซ็นต์นะครับ แต่ก็มีชุดข้อมูลบอกจากหลายแหล่งว่า Pac-Man อาจเป็นเกมแรกหรือเกมยุคแรก ๆ ที่มีคัตซีน โดยหากใครจำกันได้จะเป็นภาพสั้น ๆ นี่แหล่ะที่เจ้า Pac-Man จะไล่งับผีหรือศัตรูในเกมพร้อมมีฉากที่เจ้าจอมงับของเราก็โกยเสียเอง
5. กว่า 93 เปอร์เซ็นต์ของอเมริกันชนรู้จัก Pac-Man
ข้อมูลจาก Guinness Book of World Records Game Edition 2010 ได้ระบุว่ากว่า “93% ของประชาชนในอเมริการู้จัก Pac-Man แม้จะไม่เคยเล่นมากก่อน” ก็ไม่แปลกใจเท่าไหร่ละนะครับว่าทำไมภาพยนตร์หรือสื่อต่าง ๆ ถึงมีการให้เกียรติหรือกล่าวถึงเจ้าจอมงับนี้หลายเรื่อง (แต่จากเรื่อง PIXELS ชัดสุดเลยมาเป็นตัว ๆ)
6. เกมแรก ๆ ที่ AI ศัตรูมีแบบแผน
ถ้ามองแบบผิวเผิน ก็อาจจะคิดว่าเจ้าเหล่าผีหลากสีในเกม Pac-Man เป็นแค่ศัตรูที่ให้เราหนีและไล่งับกลับธรรมดาใช่ไหมครับ แต่เอาเขาจริง ๆ แต่ละตัวมีรูปแบบการกวนใจผู้เล่นแตกต่างกันออกไปนะ แดง Blinky กับชมพู Pinky จะไล่กวดเราแบบตรงไปตรงมา (ตามหลังมาติด ๆ ) ซึ่งก็จะจับทางได้ไม่ยากเย็นนัก ส่วนเจ้าฟ้า Inky จะมีการรอจังหวะของผู้เล่นเพื่อหาโอกาสซุ่มโจมตี และปิดท้ายด้วยเจ้าสีส้ม Clyde ที่ดูจะร้ายกาจที่สุดเพราะการไล่ลาของมันจะมาในรูปแบบสุ่ม
7. เปิดตลาดให้ผู้หญิงสนใจในเกม
ก่อนหน้าการมาของ Pac-Man ในยุคเดียวกันนั้นเกมจากภาพยนตร์อย่างเอเลี่ยน (Aliens: 1990) และ Space Invaders (1978) คือดาวเด่นในร้านเกมอาร์เขตที่ก็ต้องโจทย์วัยรุ่นเพศชายมาก ๆ เลยละครับ แต่ทีนี้คุณโทรุ มองว่าเกมควรเข้าถึงได้ทุกเพศทุกวัย และมากไปกว่านั้น แกยังอยากเห็นว่าผู้หญิงก็สนุกไปกับการเล่นเกมได้ Pac-Man เลย “ถูกออกแบบมาให้สามารถเข้าถึงได้ทุกกลุ่มรวมไปถึงการมีอยู่ของ Pac-Girl ด้วยนั่นเอง” ซึ่งเจตนารมร์ดังกล่าวก็ได้ถูกเปิดเผยในบทสัมภาษณ์จากสื่อต่างประเทศ The Wired ในวาระครบรอบ 30 ปี Pac-Man
8. ส่งอิทธิพลไปถึงวงการเพลง
เพื่อเป็นการยืนยืนอีกหนึ่งข้อว่าเจ้าพิซซ่าเกือบจะครึ่งซีกของเราฮิตติดลมบนจริง ๆ ในปี 1982 ได้มีนักแต่งเพลง Buckner และ Garcia ได้ปล่อยผลงานเพลงที่เคารพให้กับเกมดังกล่าวพร้อมให้เครดิตเต็มด้วยชื่อเพลง Pac-Man Fever ด้วยนะ เพราะไม่เพราะก็ลองฟังกันดูนะจ๊ะ
9. เคยได้รับรางวัลเกมตู้ที่ประสบความสำเร็จที่สุด
ไม่เพียงแค่ในปี 2010 ที่ Pac-Man ได้รับรางัวลจาก Guinness World Records: Game Edition แต่ในปี 2005 เจ้าจอมงับของเรายังเคยได้รับรางวัล “เกมตู้ที่ประสบความสำเร็จที่สุด” โดยหลังจากที่ตัวเกมออกสู่สายตาประชาชี 15 เดือน Namco (ที่ปัจจุบันเป็น Bandai Namco) ก็สามารถส่งออกตู้อาร์เขตในสหรัฐได้มากถึง 100,000 เครื่อง และมีแฟนเกมใช้หยอดเหรียญเล่นรวม ๆ แล้วมากกว่า 1 พันล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ ส่งผลให้ ณ เวลานั้น Pac-Man ถูกนับเป็นหนึ่งในป๊อปคัลเจอร์แห่งยุคด้วยไปโดยปริยาย
10. คนจริง ๆ มีฉายาว่า Pac-Man
จากความโด่งดังในวัยเยาว์ของใครหลายคน ได้ส่งผลให้มันกลายเป็นชื่อในวงการของนักกีฬาจำนวนหนึ่งด้วยนะ โดยเจ้าแรกของ แมนนี่ ปาเกียว (Manny Pacquiao) ที่พี่แกก็มีฉายาในวงการว่า Pac-Man แต่ไม่ใช่เพราะแกสวาปามคู่ต่อสู้ได้นะ แต่เป็นเพราะนามสกุลในภาษาอังกฤษของแกมันมีคำว่า Pac แต่กับอีกคนเนี้ยสิของจริงนั่นคือพ่อหนุ่ม Adam “Pacman” Jones นักกีฬาอเมริกันฟุตบอลชื่อดัง
11. เห็นแบบนี้มีหนังสือบทสรุปด้วยนะ
ขอย้ำอีกรอบว่า Pac-Man ดังมาก ๆ ถึงขั้นมีเทคนิควิธีการเล่นบนนิตยสารหลายเล่มในช่วงเวลาที่เกมกำลังบูมแตก แต่ที่ดูจะได้รับความนิยมในหมู่ผู้เล่นมากที่สุดคงจะหนีไม่พ้นเล่มนี้ที่มีชื่อว่า “Mastering Pac-Man” ที่ผู้ประพันธ์ขึ้นมาคือ Ken Uston นักเขียนที่เรียนจบจากมหาวิทยาลัยชื่อเสียงโด่งดัง Yale และ Harvard เลยนะเออ
12. เคยถูกทำออกมาเป็นการ์ตูนด้วยนะ
ตามลูกสูตรของอะไรก็ตามที่ประสบความสำเร็จเลยที่จะถูกแตกแขนงต่อยอดทำออกมาเป็นสื่อที่หลากหลายประเภท ซึ่งหนึ่งในนั้น Pac-Man ก็เคยถูกทำออกมาเป็นเวอร์ชันการ์ตูนในปี 1981 – 1982 ซึ่งผลตอบรับก็โอเคประมาณหนึ่งนะ
13. Pac-Man เลี้ยงหมาด้วยนะ…
สืบเนื่องจากข้อที่ 12 ที่ว่าด้วย Pac-Man ในเวอร์ชันการ์ตูน พี่แกเลี้ยงน้องหมาด้วยนะ โดยมันมีชื่อว่าเจ้า Chomp- Chomp หน้าตาคือเป็นหมาเนี้ยแหล่ะแต่จะมีเอกลักษณ์ของความเป็น Pac-Man คือจะตัวกลม ๆ ก็น่ารักดี แถมยังต่อยอดไปปรากฎตัวในเวอร์ชันเกมด้วยนะ
14. Pac-Man ก็มีเวอร์ชันบอร์ดเกมนะ
ไม่เพียงแค่ถูกทำออกมาเป็นการ์ตูน แต่ความประสบความสำเร็จของ Pac-Man ยังต่อยอดให้กลายมาเป็นบอร์ดเกมได้อีกด้วย แต่รูปแบบการเล่นเป็นยังไง สนุกหรือไม่สนุก อันนี้บอกตามตรงว่าผู้เขียนน่าจะเกิดไม่ทันเล่น…
15. Pac-Man ถูกนำมาเล่นนอกเกม
ในปี 2014 แบรนด์เครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ Bud Light ได้จัดแคมเปญสุดเฟี้ยวฟ้าวขึ้นมาด้วยการจำลองด่านของเกม Pac-Man ที่ก็เป็นคลิปไวรัลน่ารัก ๆ อยู่ช่วงหนึ่ง และก็ไม่ต้องห่วงว่าถ้าโดนผีแตะตัว “เราไม่ตายจริงนะ” (ฮ่า ๆ)
แหล่งข้อมูล: Wikia
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส