Twitter ได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมจากเหตุการณ์การถูกโจมตีทางไซเบอร์โดยแฮกเกอร์ ที่สามารถแฮก Twitter ของเหล่าคนดังจำนวนมากของสหรัฐฯ เมื่อสัปดาห์ก่อนว่า ในจำนวนผู้ใช้งานกว่า 130 รายที่ตกเป็นเหยื่อ มีผู้ใช้งานมากถึง 36 รายที่ถูกเข้าถึงข้อมูลการสนทนาใน DM หรือ Direct Message และหนึ่งในนั้นเป็นบัญชี Twitter ของเจ้าหน้าที่หน่วยงานราชการในประเทศเนเธอร์แลนด์ด้วย “เรากำลังทำงานร่วมกับผู้ใช้งานที่บัญชีได้รับผลกระทบอย่างใกล้ชิด” ตัวแทน Twitter ให้ข้อมูลผ่าน Blog Post
ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงต่างพากันกังวล ถึงช่องโหว่ด้านความปลอดภัยที่เกิดจากทางผู้ให้บริการเอง ไม่ใช่จากผู้ใช้งาน โดยเฉพาะกับช่วงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ปลายปีนี้ กลุ่มแฮกเกอร์อาจสร้างความปั่นป่วนให้การเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในวันที่ 3 พฤศจิกายนปีนี้ พวกเขามองกันว่า ระบบยืนยันตัวตนสองขั้นตอน หรือ Two-Factor Authentication ที่มั่นใจว่าป้องกันการแฮกบัญชีได้ ก็ยังไม่เป็นเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพมากพอจะป้องกันการถูกแฮ็ก
“ถ้าหากแฮกเกอร์เข้าถึงระบบหลังบ้านของ Twitter หรือเจาะเข้าถึงระบบฐานข้อมูลได้โดยตรง ก็ไม่มีอะไรจะหยุดยั้งพวกเขาจากการขโมยข้อมูลเพื่อนำไปใช้ทำเรื่องเลวร้ายได้” Michael Borohovski ผู้อำนวยการฝ่ายวิศวกรรมซอฟต์แวร์ของบริษัทเทคโนโลยีความปลอดภัย Synopsys บอก
ในข่าวที่เกี่ยวข้องกับการแฮกบันลือโลกช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา กระทรวงยุติธรรมของสหรัฐฯ ก็ได้ตั้งข้อหา 2 แฮกเกอร์ชายชาวจีน ชื่อ หลี่เสี่ยวหยู (Li Xiaoyu) วัย 34 ปี และต่งเจียจื้อ (Dong Jiazhi) วัย 33 ปี อดีตนักศึกษาวิศวกรรมไฟฟ้า พวกเขาถูกตั้งข้อหาขโมยความลับทางการค้าและสมคบคิดกระทำการอันทุจริตผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ หลังจากสัปดาห์ที่แล้ว ทั้งสหรัฐฯ อังกฤษและแคนาดา ต่างออกมากล่าวหาว่า รัสเซีย ก็พยายามขโมยข้อมูลงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาวัคซีนสำหรับเชื้อโควิด-19 จากบริษัทผลิตยาและสถาบันวิชาการหลายแห่งโดยใช้แฮกเกอร์เจาะข้อมูลเช่นกัน ต่อมารัฐมนตรีกระทรวงการคลังของรัสเซีย ได้ออกมาปฏิเสธ
นักแฮกชาวจีนทั้งสองพยายามจารกรรมข้อมูลการวิจัยวัคซีนจากหลายบริษัทเอกชนสหรัฐฯ รวมถึงแฮกข้อมูลบริษัททั้งในสหรัฐฯ และต่างประเทศอีกหลายบริษัท โดยในจำนวนนั้น หลายแห่งก็เป็นบริษัทคู่สัญญาของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ นอกจากนี้ยังพยายามสอดส่องข้อมูลของนักเคลื่อนไหวทั้งในสหรัฐฯ จีน และฮ่องกงอีกด้วย ทั้งสองคนเริ่มสอดส่องข้อมูลของบริษัทเทคโนโลยีชีวภาพในรัฐแมสซาชูเซตส์ บริษัทแห่งหนึ่งในรัฐแมริแลนด์ที่ทำการวิจัยแนวทางรักษาการติดเชื้อโควิด-19 ก่อนหน้านี้ ทั้งสองคนยังเคยขโมยข้อมูลความลับทางการค้าและ ข้อมูลทางธุรกิจที่มีค่าอื่น ๆ รวมมูลค่าหลายร้อยล้านเหรียญฯ มาตั้งแต่ปี 2009
รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมยังเปิดเผยอีกว่า เชื่อว่าตอนนี้ทั้งสองคนอยู่ในประเทศจีน และน่าจะได้รับความช่วยเหลือเป็นครั้งคราวจากสายลับรัฐบาลจีน รวมถึงเจ้าหน้าที่กระทรวงความมั่นคงแห่งรัฐของจีนในการปฏิบัติภารกิจแฮกข้อมูล ซึ่งหลายครั้งทำไปเพื่อประโยชน์ของรัฐบาลจีน “จีนเข้ามาแทนที่รัสเซีย อิหร่าน และเกาหลีเหนือ ในการเป็นชาติที่ให้แหล่งหลบซ่อนสำหรับเหล่าอาชญากรทางไซเบอร์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว” John Demers กล่าว
อย่างไรก็ตาม ฝั่งประเทศจีนก็ออกมาตอบโต้สหรัฐฯ ทันควัน โดยหลิวเสี่ยวหมิง ทูตจีนประจำประเทศอังกฤษ ได้ออกมาระบุว่า ข้อกล่าวหาของสหรัฐฯ เรื่องแฮกเกอร์ชาวจีนนั้นเป็นเพียงการกล่าวหาที่ไร้เหตุผล ไม่ให้เกียรติต่อนักวิทยาศาสตร์จีนที่ประสบความสำเร็จในการพัฒนาวัคซีน และยังบ่อนทำลายความร่วมมือระหว่างประเทศด้านการวิจัยและพัฒนาวัคซีนด้วย
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส