วันที่ 26 กรกฎาคมที่ผ่านมา สำนักข่าว KCNA ของประเทศเกาหลีเหนือ รายงานว่า คิมจองอึน ผู้นำสูงสุดได้ออกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน หลังทางการตรวจพบผู้ป่วยต้องสงสัยติดโควิด-19 รายแรกของประเทศ หลังการแพร่ระบาดผ่านมานานเกือบ 7 เดือนและไม่เคยตรวจเจอผู้ป่วยมาก่อน
โดยผู้ป่วยรายนี้ชื่อว่านายคิมกียมฮยอค เป็นชาวเกาหลีเหนือที่อพยพไปเกาหลีใต้เมื่อ 3 ปีก่อน ก่อนที่จะลักลอบเดินทางกลับเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมายอีกครั้งเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่แล้วผ่านเส้นทางเมืองแกซอง ต่อมาเกาหลีเหนือได้ประกาศปิดเมืองแกซองชั่วคราวและจำกัดการเข้าออก พร้อมกักตัวและตรวจสอบผู้ที่เคยใกล้ชิดผู้ป่วยรายนี้ทั้งหมด
นายคิมกียมฮยอควัย 24 ได้เคยให้สัมภาษณ์ในรายการโทรทัศน์ของเกาหลีใต้ไว้ก่อนจะพยายามหนีกลับไปเกาหลีเหนืออีกครั้งว่า การหลบหนีออกจากเกาหลีเหนือของเขานั้น ใช้เส้นทางธรรมชาติไต่ข้ามภูเขาม้าขาว (White House) ที่ใกล้กับหมู่บ้านของเขา บริเวณเมืองแกซองที่ติดชายแดนของเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ โดยเขาต้องนอนบนภูเขาถึง 2 คืน ก่อนจะข้ามมาถึงบริเวณรั้วลวดหนามของแนวกั้นของเส้นละติจูดที่ 38 องศาเหนือที่กั้นระหว่างสองประเทศ และเจอกับแม่น้ำที่จะพาเขาเข้าไปในเกาหลีใต้ หลังจากนั้นเขาก็ลอยตัวโดยใช้ขยะพลาสติกทำเป็นเสื้อชูชีพ พอตกดึกเขาก็เริ่มว่ายเข้าไปในแม่น้ำประมาณ 7 ชั่วโมงครึ่ง ซึ่งขากลับที่ทำให้เขาต้องสงสัยว่าจะพาเชื้อโควิดเข้าเกาหลีเหนือ เขาก็ใช้แม่น้ำสายนี้เป็นเส้นทางกลับเช่นเดิม
ก่อนหน้านี้ก็มีรายงานข่าวว่า เกาหลีเหนือได้รับเครื่องตรวจเชื้อโควิด-19 จำนวนหลายพันชุดจากรัสเซียและจากประเทศอื่นด้วย ร่วมถึงได้สั่งปิดพรมแดนกับจีนและเกาหลีใต้ทันทีหลังมีข่าวโควิดระบาดทั่วโลก ในช่วงที่ผ่านมา คนเกาหลีเหนือหลายพันคนถูกกักบริเวณ และเพิ่งจะมีการผ่อนคลายมาตรการที่เข้มข้นเมื่อไม่นานมานี้
หากทางการเกาหลีเหนือประกาศว่า ผู้ป่วยรายนี้ติดเชื้อจริงในเร็ว ๆ นี้ เขาจะกลายเป็นผู้ป่วยโควิด-19 รายแรกของประเทศอย่างเป็นทางการ และจะส่งผลให้พบผู้ติดเชื้อแล้วอย่างน้อยใน 182 จาก 193 ประเทศทั่วโลก โดยจะเหลือเพียง 11 ประเทศในโลกเท่านั้นที่ยังไม่พบรายงานผู้ติดโควิด-19 รายแรกอย่างเป็นทางการ ซึ่งเกือบทั้งหมดของ 11 ประเทศนี้เป็นประเทศที่มีลักษณะเป็นเกาะ และเป็นประเทศที่มีพื้นที่เล็กมาก ๆ
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส