Blue Origin ประสบความสำเร็จในการทำภารกิจ NS-14 (New Shepard 14) เพื่อทดสอบเที่ยวบินไร้ลูกเรือเดินทางสู่ขอบอวกาศด้วยบูสเตอร์และแคปซูลที่ปรับปรุงใหม่เป็นครั้งแรก เมื่อบูสเตอร์ได้ขับเคลื่อนออกจากฐานปล่อยจรวดขึ้นไปได้ 2 นาทีครึ่งก่อนที่จะถึงระดับความสูง 100 กม. ในแนวขอบอวกาศ (Karman line) ซึ่งเครื่องยนต์ก็จะดับลง ต่อมาส่วนของแคปซูลผู้โดยสารก็ได้แยกออกจากบูสเตอร์ จากนั้นบูสเตอร์ก็ได้บินกลับลงมาจอดบนพื้นดินในแนวดิ่งได้อย่างนิ่มนวล และต่อมาไม่นานส่วนของแคปซูลได้ลงจอดด้วยร่มชูชีพสู่พื้นโลกอย่างปลอดภัยโดยใช้เวลาเดินทางทั้งหมด 10:15 นาที
New Shepard เป็นจรวดที่บินขึ้นสู่อวกาศในแนวตั้งและบินกลับลงมาจอดบนพื้นโลกในแนวตั้งเพื่อการนำกลับมาใช้ใหม่ ผลิตโดยบริษัท Blue Origin ที่ก่อตั้งโดย Jeff Bezos ประธานบริษัท Amazon สำหรับการท่องเที่ยวในอวกาศเชิงพาณิชย์ ส่วนปลายของจรวดจะมีแคปซูลห้องผู้โดยสารที่มีหน้าต่างสำหรับการชมวิวของอวกาศ
New Shepard มาจาก Alan Shepard ชื่อของนักบินอวกาศคนแรกของสหรัฐฯ ได้เริ่มภารกิจบินครั้งแรก NS-1 เมื่อเมษายน 2015 ที่ระดับความสูง 90 กม. จากนั้นภารกิจ NS-2 ได้บินออกสู่อวกาศที่ไร้ลูกเรือในระดับ 100.5 กม. เมื่อพฤศจิกายน 2015 และบินกลับมาลงจอดในแนวดิ่งได้สำเร็จเป็นครั้งแรก และล่าสุดการบินทดสอบสู่อวกาศครั้งนี้เป็นภารกิจครั้งที่ 14 หรือ NS-14
NS-14 มีความพิเศษที่แคปซูลสำหรับผู้โดยสาร 6 คนได้ถูกอัปเกรดใหม่ ซึ่งมีชื่อเรียกว่า RSS First Step ที่ย่อมาจาก“Reusable Spaceship” ยานอวกาศที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่โดยมีความตั้งใจว่าจะนำมาใช้ในเที่ยวบินพาผู้โดยสารเริ่มท่องไปสู่อวกาศในปีนี้
แคปซูลได้ปรับปรุงสภาพแวดล้อมใหม่เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับผู้โดยสาร โดยมีลำโพงพร้อมไมโครโฟนให้ผู้โดยสารใช้พูดคุยติดต่อกับส่วนควบคุมภาคพื้นดิน ตรงที่นั่งจะมีระบบแจ้งเตือนความปลอดภัย ตัวยานได้หุ้มด้วยวัสดุกันกระแทก และอุปกรณ์ลดเสียงรบกวน พร้อมด้วยระบบระบายความร้อนและควบคุมความชื้น
Blue Origin มีแผนจะปล่อยภารกิจ NS-15 เพื่อตรวจสอบความพร้อมของซอฟต์แวร์ และคาดว่าจะปล่อยเที่ยวบินแรกของการพา 6 ผู้โดยสารเยี่ยมชมอวกาศในช่วงเดือนเมษายน ก็ขอให้ติดตามความคืบหน้ากันต่อไป
ที่มา : engadget
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส