ก่อนหน้านี้ สหรัฐฯ ที่ถูกรัฐบาลจีนออกมาโจมตีว่า พยายามแทรกแซงกิจการภายในประเทศด้วยการใช้ไต้หวันเป็นเครื่องมือ ได้วิจารณ์ถึงแถลงการณ์ของจีนว่า “ไม่เหมาะสม” ก่อนเคลื่อนไหวด้วยการส่งเรือบรรทุกเครื่องบินและกองเรือรบแล่นเข้าสู่ทะเลจีนใต้ทันที หลังจากฝูงบินรบจีนบินประชิดน่านฟ้าไต้หวัน โดยให้เหตุผลว่าสหรัฐฯ จะช่วยทำให้เห็นถึงสิทธิเสรีภาพในการเดินเรือในน่านน้ำที่ไม่ได้เป็นของใครคนใดคนหนึ่ง และปฏิบัติตามพันธกิจภายใต้กฎหมายความสัมพันธ์ สหรัฐอเมริกา-ไต้หวัน จนทำให้กองทัพจีนโต้ตอบด้วยการซ้อมรบในทะเลจีนใต้
รัฐบาลจีนยังคงยืนยันจะใช้มาตรการแข็งกร้าวกับไต้หวัน หากไต้หวันต้องการจะแยกตัวออกจากจีนแผ่นดินใหญ่อย่างจริงจัง และเตือนนานาชาติอีกครั้งว่าอย่าเข้ามายุ่งเกี่ยวกับกิจการภายในประเทศ หลังจากเมื่อ 24-25 มกราคม จีนได้ส่งฝูงเครื่องบินรบหลายสิบลำบินประชิดน่านฟ้าของไต้หวัน และหลังจากนั้นไม่กี่วัน โฆษกกระทรวงกลาโหมของจีนก็ออกแถลงการณ์ต่อเหตุการณ์ครั้งนั้นว่าเป็นความจำเป็นของจีนที่จะต้องแสดงแสนยานุภาพเพื่อปกป้องอธิปไตยและความมั่นคงของชาติ
นอกจากนี้ โฆษกกลาโหมยังเตือนรัฐบาลไต้หวัน ภายใต้การนำของประธานาธิบดี Tsai Ing-wen ด้วยข้อความว่า “อย่าเล่นกับไฟ เพราะไฟจะไหม้ตัวเอง” เนื่องจากเชื่อมั่นว่าประธานาธิบดี Tsai กำลังเตรียมดำเนินนโยบายพาไต้หวันไปสู่เอกราชอย่างจริงจังขึ้นกว่าที่แล้วมา ก่อนกล่าวทิ้งท้ายสำทับว่า “การพยายามประกาศเอกราชเพื่อแยกตัว หมายถึงการทำสงคราม” ทางด้านประธานาธิบดี Tsai เคยกล่าวว่าไต้หวันนั้นเป็นเอกราช และไม่ขึ้นกับประเทศจีนมานานแล้ว
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส