Kickstarter นั้นเป็นเหมือนแดนสวรรค์ของนักพัฒนาเกม ที่สามารถนำต้นแบบเกมมานำเสนอเพื่อระดมจากผู้อยากเล่นเกมนั้นทั่วโลก ซึ่งถ้าเป็นเกมฟอร์มดี หรือผู้สร้างมีชื่อเสียงอยู่แล้วอย่างเกม Mighty No. 9 จาก Keiji Inafune อดีตผู้สร้างเกม Rockman ที่ระดมทุนไปได้กว่า 4 ล้านเหรียญ หรือเกม Torment: Tides of Numenera เกมต่อของเกม RPG ฝรั่งชื่อดังอย่าง Planescape: Torment ที่สามารถระดมทุนไปได้กว่า 4 ล้านเหรียญเช่นกัน
แต่สิ่งหนึ่งที่ผู้ลงทุนผ่าน Kickstarter และเว็บ Crowdfunding อื่นๆ พึ่งระลึกไว้คือโครงการที่ระดมทุนเหล่านี้มักเสร็จไม่ทันตามระยะเวลาที่ระบุไว้ตั้งแต่ตอนแรก (ทีมงานแบไต๋เองก็โดนเลื่อนส่งของจนชาชิน ก็พยายามลืมๆ ไปแล้วว่าเคยสั่งอะไรเมื่อไหร่ 555)
ด้วยความที่ Kickstarter ส่งของช้าจนช้าชิน จึงมีคนสนใจว่าตั้งแต่ปี 2009 โปรเจกเกมใน Kickstarter ที่ระดมทุนสำเร็จแล้ว สามารถพัฒนาเกมจนแล้วเสร็จได้แค่ไหน บล็อกเกอร์ชื่อว่า Undub ได้ค้นข้อมูลกลับไปแล้วพบว่ามีโครงการพัฒนาเกมเพียง 1 ใน 3 หรือราว 37% เท่านั้นที่ทำเกมเสร็จทันเวลาที่ระบุไว้
แล้วถึงแม้ว่าจะรวมเกมที่พัฒนาเสร็จบางส่วน ออกได้แค่รุ่น Alpha, Beta เมื่อถึงกำหนดเวลา ก็ยังสำเร็จราวครึ่งหนึ่งของโครงการพัฒนาทั้งหมดเท่านั้น ข้อสงสัยแรกของ Undub คือผู้สร้างระดมทุนน้อยเกินไป จนไม่สามารถพัฒนาเกมให้เสร็จทันเวลา
แต่ข้อสงสัยนี้ก็ตกไปเมื่อข้อมูลบอกว่าเกมที่ขอระดมทุนน้อยๆ ดันมีเปอร์เซนต์สำเร็จมากกว่าล้มเหลว ผิดกับเกมที่ขอระดมทุนสูงๆ โดยเฉพาะช่วงเกิน 100,000 เหรียญขึ้นไปที่มักติดโรคเลื่อน ซึ่งก็ไม่ได้แปลกอะไรในวงการเกมที่ขนาดสตูดิโอยักษ์ใหญ่ก็ยังเลื่อนวันจัดจำหน่ายเกมเป็นแถวๆ
แต่ที่อันตรายที่สุดสำหรับผู้ลงทุนคือโครงการที่ได้รับเงินไปเสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่พัฒนาไม่สำเร็จอย่างเกม CLANG ที่ได้รับเงินไปกว่า 500,000 เหรียญ แต่สุดท้ายเงินก็หมดก่อนที่จะพัฒนาเกมฟันดาบรูปแบบใหม่ออกมาสำเร็จ ทิ้งผู้ลงทุนให้คว้างกันไป
ที่ผ่านมา Kickstarter ได้กลายเป็นแหล่งเงินทุนของนักพัฒนามากขึ้นเรื่อยๆ จากในปี 2009 ที่มีโปรเจกทำเกมเพียง 5 โปรเจกเท่านั้น แต่ในปี 2012 มีมากถึง 207 โปรเจก ผู้ลงทุนควรศึกษาความเสี่ยง ก่อนลงเงินให้โปรเจกใดๆ
และคำแนะนำส่วนตัวจากทีมงานคือโปรเจกอย่างเกมหรือซอฟต์แวร์ต่างๆ ถ้าไม่ต้องการของชำร่วยหรือไอเท็มพิเศษที่นักพัฒนามักแถมตอนระดมทุน การรอซื้อหลังจากที่เกมเสร็จแล้ว วางจำหน่ายแล้ว ก็น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า แล้วถ้าคิดว่ารอจนของเสร็จแล้วมันจะขายแพง ก็ท่องไว้ในใจว่า “สักวันมันก็ต้องลดราคา”
ที่มา: DailyDot