ยังคงเป็นกระแสให้พูดถึงอย่างต่อเนื่องกับเกม ‘Resident Evil’ เกมในดวงใจของใครหลาย ๆ คนที่ได้เล่น ยิ่งในภาคล่าสุดอย่าง ‘Resident Evil Village’ ที่ความสนุกของตัวเกมก็สามารถดึงผู้เล่นที่ไม่ชอบมุมมองบุคคลที่ 1 ที่เห็นแค่ปืนให้หามาเล่นกันได้ รวมถึงเนื้อเรื่องที่มีการผูกปมทิ้งประเด็นต่าง ๆ ที่น่าสนใจออกมาออกมาอย่างมากมายให้เราคนเล่นได้ค้นหา รวมถึงตอนจบที่สานต่อเรื่องราวไปยังภาคต่อ ๆ ไปได้อย่างลงตัว ซึ่งสิ่งที่เกม ‘Resident Evil’ ทิ้งเอาไว้ในภาคหลัง ๆ คือตัวละครที่ผ่านการติดเชื้อแต่ก็รอดมาได้พร้อมพลังพิเศษ ซึ่งถ้าเราย้อนกลับไปในภาคก่อน ๆ ก็มีตัวละครที่ผ่านการติดเชื้อแต่รอดมาได้อยู่หลายคน วันนี้เรามาดูกันดีกว่าว่าในซีรีส์ ‘Resident Evil’ มีตัวละครหลักคนไหนที่ผ่านการติดเชื้อแล้วรอดมาได้บ้าง และตัวละครเหล่านั้นเป็นอย่างไรในตอนนี้ถ้าพร้อมแล้วก็มาดูกันเลย
คำเตือน.เนื้อหาในบทความมีการเปิดเผยเนื้อเรื่องในเกม
Rosemary Winters ติดเชื้อจากเกม Resident Evil Village
เริ่มต้นตัวละครแรกกับความหวังใหม่ของซีรีส์ ‘Resident Evil’ ที่จะสานต่อเรื่องราวไปในอนาคต กับตัวละครสาวน้อยโรสแมรี่ วินเทอร์ส (Rosemary Winters) ลูกสาวคนเดียวของอีธาน วินเทอร์ส (Ethan Winters) ที่ถ้าใครเคยเล่นเกม ‘Resident Evil’ ภาคที่แล้วจะทราบดีว่าตัวของพ่อแม่ของโรสนั้นติดเชื้อไวรัส ‘Mold’ ซึ่งแน่นอนว่าสิ่งนี้ต้องตกไปถึงลูกสาวแบบเต็ม ๆ ยิ่งช่วงท้ายเกมที่อีธานทราบว่าตนเองนั้นเสียชีวิตไปแล้วตั้งแต่เมื่อ 3 ปีก่อน และสิ่งที่ทำให้เขายังมีชีวิตอยู่เพราะเชื้อ ‘Mold’ ในตัว นั่นก็ยิ่งยืนยันกับเราว่าโรสนั้นมีเชื้อ ‘Mold’ ในตัว โดยข้อมูลบอกว่าตัวของโรสนั้นเกิดวันที่ 2 สิงหาคมปี 2020 และช่วงที่เกิดการลักพาตัวในเกม ‘Resident Evil Village’ โรสมีอายุเพียง 6 เดือน ก่อนที่เธอจะถูกมิแรนด้า (Miranda) จับตัวไปเพื่อใช้เป็นร่างใหม่เพื่อให้กำเนิดลูกสาวของตน แต่ด้วยพลังของโรสที่มีอยู่มากมายจึงทำให้มิแรนด้าพลาดท่าถูกดูดพลังไป และว่ากันว่าโรสนั้นคือเอเวอลีน (Eveline) ที่สมบูรณ์แบบ นับจากนี้ไปเราต้องมาดูกันว่าเธอจะมีพลังแบบไหนและมีบทบาทอย่างไรในอนาคตกัน
Natalia Korda ติดเชื้อจากเกม Resident Evil Revelations 2
มาต่อกันที่อีกหนึ่งสาวน้อยที่เรียกว่าเด็กที่สุดในซีรีส์ ที่ต้องมาเจอเรื่องเลวร้ายหนีตายอย่างโดดเดี่ยวบนเกาะที่มีแต่สัตว์ประหลาด ซึ่งโรสใน ‘Resident Evil Village’ ไม่นับเพราะเธอไม่ได้มาหนีตายแบบตัวละครคนอื่น แถมใครที่ได้เล่นเกม ‘Resident Evil Revelations 2’ ต่างก็หลงรักในความไร้เดียงสาของเธอ กับนาตาเลีย คอร์ดา (Natalia Korda) เด็กสาวที่ไร้ซึ่งความกลัว เพราะเธอนั้นต้องมาเห็นครอบครัวถูกฆ่าตายไปต่อหน้าต่อตา จนทำให้เด็กสาวไร้ซึ่งความหวาดกลัวในทุกเรื่อง จึงทำให้เธอเหมาะที่จะเป็นร่างใหม่ให้กับอเล็กซ์ เวสเกอร์ (Alex Wesker) ที่ต้องการถ่ายโอนความทรงจำลงไปในร่างที่เหมาะสมผ่านเชื้อไวรัส ‘T- Phobos’ ซึ่งก่อนจะทำการย้ายความทรงจำนั้นเด็กน้อยต้องถูกฉีดไวรัส ‘T- Phobos’ และผ่านการทดสอบว่ามีความกลัวอยู่รึไม่ จนสุดท้ายเธอก็ถูกฝังจิตของอเล็กซ์ลงไปจนได้ นั่นจึงทำให้เธอมีอีกหนึ่งจิตสำนึกอยู่ในตัว จึวทำให้นาตาเลียมีความสามารถในการมองเห็นไปจนถึงทำลายเชื้อ ‘T- Phobos’ ได้ แต่เจ้าตัวที่เป็นนาตาเลียยังไม่รู้เรื่องนี้ และในตอนจบของเกมนาตาเลียได้รับการเลี้ยงดูโดยครอบครัว ‘เบอร์ตัน’ ที่ก็เริ่มถูกอเล็กซ์ครอบงำจิตใจไปอย่างช้า ๆ ไม่แน่ในอนาคตเราอาจจะได้เห็นเธอในฐานะตัวร้ายก็ได้ใครจะรู้
Sherry Birkin ติดเชื้อจากเกม Resident Evil 2 Remake
มากันที่สาวน้อยที่ต้องเจอเรื่องเลวร้ายอีกหนึ่งคนในวัยเด็ก ทั้งการต้องเห็นพ่อตัวเองกลายเป็นสัตว์ประหลาด โดยคุณลุงใจร้ายตามล่าไปจนถึงแม่ที่ไม่สนใจในตัวเธอแถมยังติดเชื้อ G-Virus ตั้งแต่เด็ก ที่จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากเชอร์รี่ เบอร์กิน (Sherry Birkin) สาวน้อยสุดแกร่งใน ‘Resident Evil 2 Remake’ โดยตัวของเชอร์รี่นั้นเกิดในปี 1986 เป็นลูกสาวของวิลเลี่ยม เบอร์กิน (William Birkin) และเป็นหนึ่งในผู้รอดชีวิตในเหตุการณ์เมือง Raccoon ในปี 1998 ซึ่งตัวของเชอร์รี่นั้นถูกพ่อของตนที่กลายร่างเป็น G สิ่งมีชีวิตที่คิดอย่างเดียวคือการสืบสายพันธุ์ไปยังสิ่งมีชีวิตอื่น ซึ่งต้องเป็นสายเลือดเดียวกันเท่านั้นไวรัสถึงจะให้ผล 100% ซึ่งในฐานะพ่อลูกเชอร์รี่จึงเข้ากับไวรัสได้เป็นอย่างดี(ขณะที่คนอื่นกลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่สมบูรณ์) แต่ด้วยการช่วยเหลือจากแคลร์ เรดฟิลด์ (Claire Redfield) จึงทำให้เธอหายแต่เชื้อ ‘G-Virus’ ยังคงอยู่ในร่างเธอแต่แพร่เชื้อไม่ได้ แถมเชื้อ ‘G-Virus’ กลายเป็นพลังพิเศษช่วยเธอในการรักษาบาดแผลได้ ซึ่งใน ‘Resident Evil 6’ เชอร์รี่ที่โตเป็นสาวได้มาเป็นเจ้าหน้าที่ ‘Division of Security Operations’ (DSO) องค์กรต่อต้านการก่อการร้ายทางชีวภาพ แต่เธอได้พลาดท่าถูกผู้นำ ‘Neo-Umbrella’ จับตัวไปและใช้เลือดไปทดลองจนทำให้ ‘C-Virus’ สมบูรณ์แบบจนสร้างความวุ่นวายในภาคนี้ ปัจจุบันเธอก็ยังคงใช้ความสามารถที่มีช่วยเหลือผู้คนที่เดือดร้อน และเราก็หวังว่าเธอจะมีบทบาทต่อไปในภาคต่อไป
Manuela Hidalgo ติดเชื้อจาก Resident Evil The Darkside Chronicles
อีกหนึ่งหญิงสาวที่มีชีวิตน่าสงสารอีกหนึ่งคนในซีรีส์ ‘Resident Evil’ นั่นคือมานูเอลล่า ฮิดัลโก้ (Manuela Hidalgo) เธอปรากฏตัวครั้งแรกในเกม ‘Resident Evil The Darkside Chronicles’ ในฐานะของหนึ่งในผู้รอดชีวิตในหมู่บ้าน ที่มีลีออน สกอต เคนเนดี (Leon Scott Kennedy) ที่ในตอนนั้นยังเป็นสายลับมือใหม่ที่เพิ่งรับงานสืบสวนมาช่วยไว้ โดยลีออนและคู่หูต้องมาสืบเกี่ยวกับการหายไปของเด็กสาวที่เกี่ยวกับพ่อค้ายารายใหญ่ เมื่อลีออนไปถึงหมู่บ้านก็พบกับเด็กสาวที่กำลังร้องเพลงให้สัตว์ประหลาดฟัง ก่อนจะทราบความจริงว่าสัตว์ประหลาดตัวนั้นคือแม่ของเธอ และตัวของมานูเอล่าก็เป็นลูกสาวของฮาเวียร์ ฮิดัลโก (Javier Hidalgo) ตัวต้นเหตุของหายนะในครั้งนี้ โดยตัวของฮาเวียร์นั้นต้องการรักษาลูกสาวของตนที่เป็นโรคซึ่งรักษาไม่หาย เขาจึงฉีดเชื้อ ‘T- Veronica’ บวกกับเซลของเด็กหญิงรุ่นราวคราวเดียวกันเพื่อไม่ให้มารูเอล่ากลายร่างเป็นสัตว์ประหลาดแบบแม่ของเธอ ซึ่งเมื่อเด็กสาวรู้ความจริงเธอก็ต่อต้านพ่อของเธอ โดยการใช้พลังในการเปลี่ยนเลือดตนเองให้เป็นไฟในการกำจัดพ่อของเธอ ซึ่งเป็นการพัฒนาไปอีกขั้นของไวรัส ‘T- Veronica’ ในปัจจุบันมานูเอลล่ายังคงรักษาตัวอยู่โดยรัฐบาลสหรัฐฯ ที่แม้ตอนนี้จะรักษาเธอไม่หายแต่อย่างน้อยก็ไม่ต้องฆ่าใครเพื่อต่อชีวิตเธออีกแล้ว ซึ่งนั่นคือสิ่งที่เด็กสาวต้องการ
Zoe Baker ติดเชื้อในภาค Resident Evil 7
ยังอยู่กับเรื่องราวของสาว ๆ ในเกม ‘Resident Evil’ ที่ผ่านการติดเชื้อแต่รอดมาได้ หนึ่งในนั้นก็คือโซอี้ เบเกอร์ (Zoe Baker) คนเดียวในครอบครัว Baker ที่ยังคงสติความเป็นมนุษย์อยู่ครบถ้วน เมื่อเทียบกับคนอื่น ๆ ในครอบครัวที่ติดเชื้อ ‘Mold’ จากเอเวอลีน โดยเธอสามารถต้านทานการควบคุมจิตใจของเอเวอลีนได้เนื่องจากความรู้ของเธอที่แอบไปศึกษาเกี่ยวกับเชื้อนี้ เธอจึงไม่ถูกควบคุมจิตใจจนกลายเป็นคนบ้าแบบคนอื่น ๆ ซึ่งดูเหมือนครอบครัวจะไม่สนใจเธอที่ไม่มาร่วมโต๊ะอาหารหรือมีส่วนร่วมในครอบครัว จนเมื่ออีธานมาถึงโซอี้จึงใช้โอกาสนี้ใช้เขาให้ไปหายารักษาเพื่อจะหาทางหนีออกไปจากที่นี่ แต่สุดท้ายเมื่อยาเหลือหลอดเดียวอีธานก็เลือกภรรยาของตน โซอี้ที่ถูกทิ้งจึงถูกเอเวอลีนลงโทษโดยการแพร่เชื้อจนเธอกลายเป็นผลึกสีขาว จนได้โจ เบเกอร์ (Joe Baker) คุณลุงของเธอมาช่วยหายารักษาจนหายและไม่มีอาการตกค้างจากเชื้อ ล่าสุดเธอได้เป็นนักข่าวเพื่อช่วยเหลือผู้คนที่ตกเป็นเหยื่อกับเชื้อชีวภาพ และยังคงติดต่อกับครอบครัววินเทอร์สอยู่จนถึงตอนนี้
Leon Scott Kennedy ติดเชื้อในภาค Resident Evil 4
เปลี่ยนมาดูหนุ่ม ๆ กันบ้างกับสุดยอดสายลับของรัฐบาล ผู้เคยฝ่าดงซอมบี้ลุยกองทัพสัตว์ประหลาดมานับครั้งไม่ถ้วน ทั้งการขับรถตำรวจหนีซอมบี้ ขึ้นเฮลิคอปเตอร์หนีตายในเมืองที่คนขับกลายเป็นซอมบี้ ต่อด้วยเครื่องบินโดยสารที่มีสัตว์ประหลาดบนนั้น หรือจะเป็นการฝ่าฝูงซอมบี้ด้วยรถเมล์ ต่อด้วยการอัดกับสัตว์ประหลาดบนรถไฟฟ้า หนีตายด้วยรถรางในโบราณสถานใต้สุสาน ไปจนถึงขี่มอเตอร์ไซค์สู้หมาซอมบี้ ชายคนนี้ก็ผ่านมาหมดแล้ว ซึ่งทุกอย่างที่ผ่านมือชายคนนี้ต่างพังไม่เหลือซากทั้งสิ้น จนได้ฉายาชายผู้ห้ามขับขี่ยานพาหนะ ที่จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากลีออน สกอต เคนเนดี ซึ่งถ้าใครที่เคยเล่นเกม ‘Resident Evil 4’ มาจะทราบดีว่าตัวของลีออนนั้นเคยติดเชื้อ ‘Plagas’ เข้าไปในช่วงต้นเกม จึงทำให้ในบางช่วงลีออนจะควบคุมตนเองไม่ได้จนร้ายเอด้า (Ada) อยู่หลายครั้ง จนเธอต้องไปหายามาต้านอาการของเชื้อมาให้ จนถึงตอนท้ายเกมลีออนก็สามารถทำลายเชื้อนั้นลงไปได้ และเขาก็ไม่ได้รับผลข้างเคียงใด ๆ จากไวรัสนี้ ปัจจุบันเขาก็ยังคงทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลและกำลังจะมีบทบาทอีกครั้งในฉบับซีรีส์แอนิเมชัน CGI เรื่อง ‘Resident Evil Infinite Darkness’ ที่จะฉายทาง ‘Netflix’
Jill Valentine ติดเชื้อในภาค Resident Evil 3
ถ้าใครที่ติดตามเรื่องราวในซีรีส์ ‘Resident Evil’ มาตลอดจะทราบดีว่าตัวละครหลักหลายคนในเกมซีรีส์นี้นั้นจะติดเชื้อไวรัสระหว่างเนื้องเรื่องอยู่หลายครั้ง ซึ่งทั้งหมดนั้นก็สามารถหาทางรักษาได้ทันเวลาก่อนจะกลายเป็นสัตว์ประหลาดหรือซอมบี้ แต่ก็มีบางคนที่แม้จะรักษาไปแล้ว แต่ก็ยังคงได้รับผลข้างเคียงจากไวรัสแบบเดียวกับที่เชอร์รี่เป็น หนึ่งในนั้นก็คือ จิล วาเลนไทน์ (Jill Valentine) ที่ตัวของเธอนั้นได้ติดเชื้อ ‘T-Virus’ จาก ‘Nemesis’ แต่ก็ได้รับการช่วยเหลือจาก คาร์ลอส โอลิเวียร่า (Carlos Oliveira) หนึ่งในทหารของ U.B.C.S. ที่พยายามเอาชีวิตรอดจากเมือง Raccoon ในปี 1998 จนหาย แต่ที่หลายคนไม่ทราบนั่นคือตัวของจิลนั้นยังคงมีเชื่อ ‘T-Virus’ อยู่ในตัวมาตลอด 7 ปี ซึ่งหลังจากเหตุการณ์ใน ‘Lost in Nightmares’ ที่จิลสละชีวิตช่วย คริส เรดฟิลด์ (Chris Redfield) หนุ่มต่อยหินในตำนานไว้จาก อัลเบิร์ต เวสเกอร์ (Albert Wesker) จึงทำให้เธอบาดเจ็บสาหัส แต่ด้วยเชื้อ ‘T-Virus’ ในตัวจึงทำให้เธอรอดชีวิตมาได้ และเมื่อเวสเกอร์ฉีดเชื้อ ‘Uroboros’ ลงไปร่างของจิลก็สร้างภูมิต้านทานขึ้นมา จนกลายเป็นหนูทดลองจนสามารถเชื้อ ‘Uroboros’ ที่สมบูรณ์แบบมาได้ ส่วนจิลที่หมดประโยชน์ในฐานะหนูทดลองเวสเกอร์ก็เอาเธอมาล้างสมองแล้วใช้งานในฐานะผู้ช่วย เราจึงได้เห็นเธอใน ‘Resident Evil 5’ ในฐานะตัวร้ายนั่นเอง
Moira Burton ติดเชื้อในภาค Resident Evil Revelations 2
ถ้ามีการจัดอันดับตัวละครที่พูดคำหยาบเยอะที่สุดในซีรีส์ ‘Resident Evil’ เราต้องคิดถึง มอยรา เบอร์ตัน (Moira Burton) สาวปากจัดในภาค ‘Resident Evil Revelations 2’ ที่เธอนั้นเป็นลูกสาวแท้ ๆ ของ แบร์รี่ เบอร์ตัน (Barry Burton) ที่ในช่วงเกิดเหตุในเมือง Raccoon ในปี 1998 นั้นมอยราได้ออกมาจากเมืองไปก่อนเกิดเหตุการณ์จึงทำให้เธอไม่เคยเจอเรื่องเลวร้ายเหมือนคนอื่น แต่ด้วยความทรงจำในวัยเด็กที่เกิดทำปืนของพ่อลั่นใส่น้องสาวจนเกือบเสียชีวิต จึงทำให้เธอเป็นคนขี้กลัวจนไม่กล้าจับปืน และหลังจากเหตุการณ์ในตอนนั้นมอยรากับพ่อก็มีปากเสียงกันมาตลอด แต่ในใจลึก ๆ เธอก็ยังรักพ่อที่คอยเป็นห่วง และด้วยเหตุการณ์ในตอนนั้นมันจึงทำให้เธอยังคงหวาดกลัวอยู่ในใจลึก ๆ ตลอดเวลา ซึ่งมันกลับกลายเป็นเรื่องดีจนทำให้เธอที่ได้รับเชื้อ ‘T- Phobos’ จึงไม่กลายร่าง แถมยังสามารถเอาชีวิตรอดบนเกาะที่เต็มไปด้วยสัตว์ประหลาดนานนับปีได้โดยไม่มีความกลัว ปัจจุบันมอยรารักษาเชื้อนี้หายแล้วและไม่ได้รับผลข้างเคียงใด ๆ คงต้องรอดูว่าเธอจะมีบทบาทอะไรอีกในอนาคต
Jake Muller ติดเชื้อในภาค Resident Evil 6
ถ้าเราจะบอกว่าโรสแมรี่ วินเทอร์สลูกสาวอีธานคือเด็กที่เกิดมาพร้อมกับเชื้อไวรัส จนทำให้เธอได้รับพลังพิเศษเป็นคนแรกของซีรีส์ก็คงจะพูดแบบนั้นไม่ได้ เพราะ เจค มุลเลอร์ (Jake Muller) ลูกชายของเวสเกอร์ต่างหากที่เกิดมาพร้อมกับพลังที่ได้จากพ่อของเขาเป็นคนแรกของซีรีส์ จากข้อมูลไม่ได้บอกเราอย่างแน่ชัดว่าแม่ของเจคไปได้กับเวสเกอร์ตอนไหน แต่สิ่งที่เรารู้ก็คือแม่ของเจคเป็นชาว ‘Edonia’ ประเทศที่มีแต่สงครามกลางเมือง จนแม่ของเขาอพยพมาอเมริกาและพบกับเวสเกอร์ที่น่าจะเป็นก่อนเรื่องราว ‘Resident Evil’ ภาคแรก ที่ตอนนั้นเวสเกอร์ได้ฉีดยาเพื่อให้ตนเองมีพลังเหนือมนุษย์ไปแล้ว บวกกับที่ตัวเขานั้นเป็นเด็กพิเศษในโครงการ ‘Weskers’ ที่ได้รับเชื้อ ‘Progenitor Virus’ จึงทำให้เจคได้รับพลังพิเศษจากพ่อมาแบบเต็ม ๆ โดยพลังพิเศษของเขาคือการต้านเชื้อไวรัสทุกชนิดได้ ดูได้จากการฉีดเชื้อ ‘C-Virus’ ในช่วงต้นเกม ‘Resident Evil 6’ ที่ไวรัสทำอะไรเขาไม่ได้เลย คล้ายกับจิลที่มีภูมิต้านทานไวรัส และด้วยความสามารถนี้จึงทำให้เขาถูกจับนำเลือดไปทดลองจนสามารถสร้าง ‘C-Virus’ ได้สำเร็จนั่นเอง ส่วนปัจจุบันเจคก็เดินทางไปทั่วโลกเพื่อช่วยเหลือผู้คนที่เดือดร้อน ที่ดูได้จากตอนจบของ ‘Resident Evil 6’ ที่เขาไปช่วยเด็กชายจากการถูกอาวุธชีวภาพโจมตี เขายื่นข้อเสนอค่าจ้างในการกำจัดพวกมัน เด็กชายจึงยกผลไม้ให้เป็นค่าตอบแทนซึ่งเขาก็รับมาด้วยรอยยิ้ม เป็นการบ่งบอกถึงการเดินทางของเขาได้เป็นอย่างดี
Ashley Graham ติดเชื้อในภาค Resident Evil 4
กลับมาที่ ‘Resident Evil 4’ อีกครั้งกับสาวน้อยที่เป็นต้นเหตุของเรื่องราวในภาคนี้ ที่ลีออนต้องไปช่วยเธอจากการถูกลักพาตัว ที่คนส่วนมากที่ได้เล่นเกมภาคนี้ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า แอชลีย์ แกรแฮม (Ashley Graham) คือตัวละครที่น่ารำคาญที่สุดในซีรีส์เมื่อเทียบกับตัวละครผู้ช่วยคนอื่น ๆ ในซีรีส์นี้ เพราะตัวของแอชลีย์นั้นไม่สามารถต่อสู้ได้เหมือนตัวละครอื่น แถมยังร้องเสียงดังแสบแก้วหูจนใครหลายคนอยากจะยิงเธอทิ้งมากกว่ายิงศัตรู และตามเนื้อเรื่องนั้นแอชลีย์จะถูกฉีด ‘Plagas’ เข้าไปเช่นกัน โดยทางฝั่งตัวร้ายต้องการให้แอชลีย์ที่ถูกเชื้อยึดร่างแบบ 100% ได้กลับไปหาพ่อของเธอเพื่อจะได้แพร่เชื้อ ‘Plagas’ ใส่พ่อตัวเอง ทีนี้ทางผู้ก่อการร้ายก็สามารถยึดอเมริกามาเป็นของตนผ่านหุ่นเชิด แต่แผนนี้ก็ถูกทำลายเพราะสุดยอดสายลับผู้พังยานพาหนะอย่างลีออนช่วยเอาไว้ โดยการยิงแสงทำลายตัวเชื้อที่ฝังในร่างได้ก่อนที่มันจะยึดร่างแบบเต็มที่ ปัจจุบันแอชลีย์ก็ใช้ชีวิตปกติไม่ได้มีผลข้างเคียงจากเชื้อแต่อย่างใด ซึ่งใน ‘Resident Evil 4 Remake’ แอชลี่ย์จะยังคงเสียงแสบแก้วหูอยู่ไหมมารอดูกัน
Mia Winters ติดเชื้อในภาค Resident Evil 7
อีกหนึ่งตัวละครที่มีความสำคัญในเนื้อเรื่องเกม ‘Resident Evil’ ภาค 7 และ Village มากที่สุด นอกจากอีธานผู้เป็นพระเอกของเกมแล้ว มีอา วินเทอร์ส (Mia Winters) ผู้เป็นทั้งนางเอกและแม่ของโรสก็เป็นหนึ่งในแปลที่ขาดไม่ได้ เพราะเธอคือต้นเหตุของเรื่องราวที่เกิดขึ้นทุกอย่างของทั้งสองภาค โดยภาคแรกนั้นตัวของมีอาเป็นหนึ่งในเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการของ ‘The Connections’ ในการพัฒนาเชื้อ ‘Mold’ ที่ได้มาจากมิแรนด้าจนสร้างออกมาเป็นเอเวอลีนตัวทดลองในร่างเด็กน้อย ซึ่งตัวของมีอาถูกกำหนดให้ทำหน้าที่ดูแลเอเวอลีน เด็กน้อยจึงรักมีอาเหมือนแม่และชอบในสิ่งที่เธอเป็น จึงไม่ได้เปลี่ยนเธอให้เป็นคนเสียสติแบบคนอื่น จนเมื่ออีธานมาถึงเอเวอลีนก็ทำให้มีอาที่ติดเชื้อเกิดบ้าคลั่ง ซึ่งสุดท้ายอีธานก็สามารถรักษาเชื้อ ‘Mold’ ในตัวมีอาได้สำเร็จ โดยที่ไม่มีอาการตกค้างจากเชื้อ ซึ่งนั่นก็หมายความว่าตัวของโรสที่มีพลังนั้นก็มาจากผู้เป็นพ่อล้วน ๆ นั่นเอง ปัจจุบันมีอายังมีชีวิตอยู่และดูแลโรสอย่างใกล้ชิด เพื่อสอนเธอให้ฝึกต่อยหินตามคำสั่งเสียของอีธาน ที่บอกกับคริสให้ช่วยดูแลโรสแทนเขาในช่วงท้ายเกม จากการคาดเดาตัวละครตัวนี้คงจะหมดบทไปแล้ว ในภาคต่อไปอาจจะถูกตัดตายหรือแค่พูดถึงผ่านเอกสารไม่ได้มีบทบาทสำคัญอะไรแล้ว
Claire Redfield ติดเชื้อในภาค Resident Evil Revelations 2
เชื่อว่าหลายคนคงจะยังไม่ทราบว่า แคลร์ เรดฟิลด์ (Claire Redfield) นั้นก็เคยผ่านการติดเชื้อมาแล้วในภาค ‘Resident Evil Revelations 2’ ที่เธอกับผู้รอดชีวิตคนอื่น ๆ เป็นหนึ่งในตัวทดลองที่ถูกจับไปบนเกาะที่เต็มไปด้วยสัตว์ประหลาด เพื่อทดสอบความกลัวในเชื้อ ‘T- Phobos’ ที่จะทำให้คนกลายเป็นซอมบี้หรือสัตว์ประหลาดได้นั้น ผู้ติดเชื้อต้องมีความกลัวถึงขีดสุด ซึ่งแคลร์ที่ผ่านเหตุการณ์เลวร้ายมาอย่างมากมายผ่านความสูญเสียมาหลายต่อหลายครั้ง จนทำให้เธอกลายเป็นคนไม่มีความกลัว จนเชื้อ ‘T- Phobos’ ทำอะไรเธอไม่ได้ ในช่วงท้ายของเกม ‘Resident Evil Revelations 2’ แคลร์ตัดผมสั้นเปลี่ยนแนวของตัวไป แต่ในซีรีส์แอนิเมชัน CGI เรื่อง ‘Resident Evil Infinite Darkness’ แคลร์กลับมาผมยาวทรงเดิม ต้องรอดูว่าเนื้อหาในซีรีส์จะเป็นช่วงก่อนหรือหลังในเกมภาคนี้ ซึ่งถ้าจะให้เดาก็น่าจะเป็นเรื่องราวก่อน ‘Revelations 2’ แน่นอน ยังไงก้รอติดตามกันได้เร็ว ๆ นี้
Alice ติดเชื้อมาจากภาค Resident Evil ผีชีวะ
ปิดท้ายแถมให้เป็นพิเศษกับตัวละครที่ผ่านการติดเชื้อแต่รอดมาได้ในภาพยนตร์ ‘Resident Evil’ หรือชื่อไทยคือ “ผีชีวะ” กับอลิซ ( Alice) หญิงสาวที่เป็นหนึ่งในพนักงานของ ‘Umbrella Corporation’ ที่ตัวของเธอนั้นเป็นหนึ่งในร่างโคลนต้นแบบของอลิเซีย มาร์คัส ‘Alicia Marcus’ ผู้ร่วมก่อตั้ง ‘Umbrella’ ที่ตอนนี้แก่แล้วและเธอก็ไม่เห็นด้วยกับการปล่อยเชื้อไวรัสทำลายโลก จึงร่วมมือกับอลิซในการทำลายเชื้อไวรัสที่แพร่กระจายทั่วโลกจนหมด แต่ก่อนหน้านี้ตัวของอลิซที่เป็นร่างโคลนก็มีความสามารถเหนือมนุษย์ที่ได้จาก ‘T-Virus’ แต่ภายหลังพลังนี้ก็ถูกทำลายไปจนทำให้เธอกลับมาเป็นคนธรรมดา ก่อนจะใช้ความธรรมดาที่ไม่ธรรมดาของเธอปกป้องโลก ปัจจุบันเธอเดินทางไปทั่วโลกเพื่อช่วยเหลือทุกคนจากสัตว์ประหลาดที่ยังไม่ตายจากยาแก้ไวรัสที่ยังกระจายไปไม่ถึง
เป็นอย่างไรกันบ้างกับ 13 ตัวละครในเกมกับอีกหนึ่งตัวละครในภาพยนตร์ ‘Resident Evil’ ที่ผ่านการติดเชื้อแต่ยังมีชีวิตอยู่หวังว่าจะถูกใจกัน โดยเราพยายามหาข้อมูลต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการติดเชื้อของตัวละคร และผลข้างเคียงว่าพวกเขาหรือเธอเป็นอย่างไรบ้างมานำเสนอ เพื่อให้คนที่ไม่เคยเล่นหรืออาจจะเล่นแต่ลืมไปแล้ว ได้เข้าใจเรื่องราวที่ขาดหายไปของตัวละครเหล่านี้มากขึ้น และถ้าขาดตกข้อมูลตรงไหนไปก็ขออภัยมาด้วย ส่วนคราวหน้าจะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับอะไรก็ติดตามกันได้ที่นี่ที่เดียว
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส