บริตนีย์ สเปียร์ส (Britney Spears) แจ้งเกิดในวงการเพลงพอปทันทีหลังจากที่ซิงเกิลแรกในชีวิตของเธอ “…Baby One More Time” ถูกปล่อยออกมาในวันที่ 28 กันยายน 1998 กลายเป็นเพลงอันดับ 1 ในอเมริกาและอีกกว่า 20 ประเทศทั่วโลก มียอดขายสูงถึง 10 ล้านก๊อปปีทั่วโลก แต่หากย้อนกลับไปถึงต้นกำเนิดของเพลงนี้จริง ๆ แล้ว มันไม่ได้ถูกแต่งขึ้นเพื่อบริตนีย์ สเปียร์ส

หนึ่งปีก่อนหน้านั้น ในปี 1997 สเปียร์สในวัย 16 ปีเข้าวงการเพลงด้วยการเป็นหนึ่งในสมาชิกวงหญิงล้วนชื่อ Innosense แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ เธอและครอบครัวเริ่มทำเดโมเทปแบบจริงจังโดยใช้เพลงของวิทนีย์ ฮูสตัน 9Whitney Houston) และโทนี แบรกซ์ตัน 9Toni Braxton) โดยได้รับการสนับสนุนจาก ลาร์รี รูดอล์ฟ (Larry Rudolph) นักกฏหมายในวงการบันเทิงซึ่งรู้จักกับครอบครัวสเปียร์ส เธอเดินทางไปนิวยอร์กพร้อมกับเดโมเทปและเข้าพบผู้บริหารถึง 4 ค่าย เธอถูก 3 ใน 4 ปฏิเสธ เพราะในตอนนั้นผู้ฟังชื่นชอบบอยแบนด์และเกิร์ลกรุ๊ปอย่าง แบ็กสตรีตบอยส์ และสไปซ์เกิร์ลส์ “เราไม่อยากได้มาดอนน่าอีกคน, เด็บบี กิบสันอีกคน หรือทิฟฟานีอีกคน”

ค่ายเดียวที่ไม่ปฏิเสธรูดอล์ฟคือ JIVE Records ที่ชื่นชอบในน้ำเสียงของเธอ เดิมทีทางค่ายอยากให้บริตนีย์ สเปียร์ส เป็นศิลปินที่ไม่ใช่แนวพอปเต็มตัว พวกเขาอยากได้ เชอรีล โครว์ 9Sheryl Crow) ในเวอร์ชันที่เด็กลง ทางค่ายได้นัดให้เธอพบกับ แม็กซ์ มาร์ติน (Max Martin) นักแต่งเพลงและโปรดิวเซอร์ชื่อดัง เขาได้เขียนเพลงไว้จำนวนหนึ่งเพื่อสเปียร์ส และเมื่อได้ 6 เพลงที่เสร็จเรียบร้อย สเปียร์สต้องบินไปบันทึกเสียงที่ Cheiron Studios ในสตอกโอล์ม สวีเดน บ้านเกิดของมาร์ติน โดยเพลงครึ่งหนึ่งของอัลบั้มแรกถูกบันทึกเสียงที่นั่นในเดือนพฤษภาคม 1998

มาร์ตินนำเพลงชื่อ “Hit Me Baby One More Time” มาเสนอให้สเปียร์สและผู้จัดการ ซึ่งเดิมทีมาร์ตินเขียนให้วงแบ็กสตรีตบอยส์ (Backstreet Boys) แต่ก็ถูกบอกปัด จากนั้นก็ตกไปถึงวงทีแอลซี (TLC) แต่ก็โดนบอกปัดอีกเช่นกัน “ฉันชอบเพลงนั้นนะ แต่ตอนนั้นฉันคิดว่ามันจะฮิตไหม มันเป็นทีแอลซีหรือเปล่า ฉันจะร้องว่า ‘Hit me baby one more time’ หรือเปล่า ไม่ใช่เลย!” ทีโบซ์ หนึ่งในสมาชิกทีแอลซีกล่าวไว้ เพลงนี้ยังถูกส่งต่อให้วงไฟฟ์ (FIVE) และโรบิน (Robyn) แต่ก็ถูกปฏิเสธจากทั้งคู่

ท้ายที่สุดบริตนีย์ สเปียร์ส รู้สึกชอบเพลงนี้และอยากลองบันทึกเสียงดู แต่บรรดาผู้บริหารกังวลกับคำว่า “Hit Me” เพราะอาจมีปัญหาเรื่องกฏหมายความรุนแรง จึงขอตัดชื่อเพลงเหลือแค่ “…Baby One More Time” สเปียร์สบันทึกเสียงเพลงนี้ที่ Cheiron Studios โดยในวันแรกเธอบันทึกเสียงได้ไม่ดีนัก น้ำเสียงฟังดูประหม่า เธอจึงออกไปปาร์ตี้ และวันต่อมาเธอก็บันทึกเสียงเพลงนี้ได้อย่างผ่อนคลายจนเป็นที่พอใจ เพลงนี้โปรดิวซ์โดยมาร์ติน, เดนนิซ ป๊อป และเรมี

เพลง “…Baby One More Time” ถูกตัดเป็นซิงเกิลเปิดตัวของบริตนีย์ สเปียร์ส และขายได้มากถึง 500,000 ก๊อปปีในวันแรกที่วางขายในสหรัฐ จากนั้นก็ขึ้นอันดับ 1 ทั้งในสหรัฐฯ และทั่วโลก และกลายเป็นเพลงประจำตัวของบริตนีย์​ สเปียร์ส ที่ทุกคนรู้จักดีมาจนถึงทุกวันนี้

‣ อ้างอิง
https://rb.gy/ptexer

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส