LINE SHOPPING เดินทางเข้าสู่ปีที่ 3 อย่างเต็มตัว แม้จะมีสถานการณ์ COVID-19 แต่ผลประกอบการโดยรวมเติบโตขึ้นกว่า 272% ซึ่งปัจจุบัน LINE SHOPPING มีร้านค้ากว่า 200,000 ร้านค้า และมีจำนวนผู้ใช้งานกว่า 7 ล้านราย
นายเลอทัด ศุภดิลก หัวหน้าฝ่ายธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ LINE ประเทศไทย กล่าวถึงสถานการณ์ COVID-19 ที่ส่งผลกระทบต่อหลายธุรกิจในประเทศไทย โดย LINE SHOPPING ยังคงยึดมั่นในพันธกิจที่ต้องการให้การซื้อขายบนโลกออนไลน์เป็นเรื่องง่ายขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจรายย่อยซึ่งเป็นรากฐานของเศรษฐกิจและมีส่วนสร้าง GDP ให้กับประเทศถึง 34.7%
ในปีที่ผ่านมา LINE SHOPPING ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีจำนวนร้านค้า 200,000 ร้านค้า และจำนวนลูกค้าสูงถึง 7 ล้านราย ร้านค้าเติบโตขึ้นกว่าเดิม 7 เท่า โดยมียอดขายอยู่ที่ประมาณ 150,000 – 500,000 บาทต่อวัน หมวดสินค้าขายดีของ LINE SHOPPING ได้แก่ Fashion, Health & Beauty, Food, Home Livng และ Gadget
สิ่งที่ช่วยกระตุ้นให้เกิดการซื้อขายบน LINE SHOPPING คือการนำเอา LINE POINTS มาจัดแคมเปญกระตุ้นการซื้อ ซึ่งนอกจากเป็นการช่วยให้ร้านค้าเป็นที่รู้จักมากขึ้นแล้ว ยังช่วยกระตุ้นให้คนกลับมาซื้อสินค้าอย่างต่อเนื่องกว่า 30% ในช่วงเวลาซื้อขายที่ดีที่สุดคือ เที่ยงวันและช่วงเย็นประมาณ 20.00 น.
กลยุทธ์ในปีนี้ของ LINE SHOPPING คือทำยังไงให้ประสบการณ์ซื้อขายบน Social Commerce ดีมากขึ้น หรือให้ผู้ที่ใช้ไลน์อยู่แล้วเข้าถึงการซื้อขายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการปรับให้ร้านค้าขายสินค้าเป็นคอลเลกชันเหมือนแบรนด์ใหญ่ ๆ หรือปรับช่องทางหน้าบ้านของร้านค้าให้เข้าถึงลูกค้ามากขึ้น รวมถึงชวนเพื่อนในไลน์มาซื้อขายกันได้สนุกขึ้นด้วย ตลอดจนกิจกรรมร่วมกับไปรษณีย์ไทย ที่มีค่าส่งไปรษณีย์เพียง 19 บาท เมื่อซื้อขายบน LINE SHOPPING เท่านั้น
ทั้งหมดนี้สะท้อนถึงศักยภาพของ LINE SHOPPING ที่ช่วยเปิดทางออกในสถานการณ์ล็อกดาวน์สำหรับผู้ประกอบการธุรกิจรายย่อยและร้านค้าบนโซเชียลให้สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปและสามารถแข่งขันกับเจ้าอื่น ๆ ได้ จึงเป็นการตอกย้ำความเป็นผู้นำแพลตฟอร์ม Social Commerce ตัวจริงที่มีส่วนช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศไทยให้ก้าวต่อไปได้อย่างไม่มีสะดุด