จากโฆษณาล่าสุดของ Samsung ที่มีชื่อว่า “Give the gift of Galaxy” (ให้ของขวัญที่เป็นดั่งกาแล็คซี่) เมื่อคนเปิดกล่องของขวัญออกมา ก็จะพบกับอุปกรณ์มากมาย เช่น โทรศัพท์มือถือ Galaxy S6 Edge, โทรทัศน์ SUHD, แท็บเล็ต Galaxy View และ Gear VR

โดยมีคำโปรโมตว่า “It’s not a phone, it’s a Galaxy” (มันไม่ใช่มือถือ มันคือกาแล็คซี่)

Play video

มันสื่อความหมายได้ง่ายๆว่า ยักษ์ใหญ่แห่งวงการอิเล็กทรอนิกส์ผู้นี้ ไม่ได้มองความสำเร็จเพียงแค่สมาร์ทโฟน แต่พุ่งเป้าไปที่ทุกอย่าง ตั้งแต่ สมาร์ทวอทช์ ไปจนถึงตู้เย็น เรื่อยไปจนถึงเทคโนโลยี VR เพื่อจุดประกายสร้างความตื่นเต้นด้านเทคโนโลยีของ Samsung แก่ผู้คน

เราอาจจะได้ชมบางผลิตภัณฑ์ไปบ้างแล้วในปีนี้ แต่ลองดูให้ดี Samsung พยายามผลักดันการเชื่อมต่อทุกสิ่งทุกอย่างเข้าด้วยกันในปี 2016 โดยจะเริ่มเปิดตัวกันตั้งแต่ต้นเดือนมกราคม ที่งาน Consumer Electronics Show (CES) ที่  Las Vegas

Samsung มีความพยายามที่จะทำให้อุปกรณ์ที่อยู่รอบตัวเราสื่อสารถึงกัน เพื่อสร้างความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตประจำวัน

ต่างจากคู่แข่งอย่าง Apple ที่ควบคุมการผลิตเองทั้งหมด คือ Samsung ได้มอบหมายงานให้แก่บริษัทอย่าง Google และ Oculus ผู้เชี่ยวชาญด้าน VR เพื่อสร้างซอฟท์แวร์ให้กับอุปกรณ์ต่างๆ

ด้วยความพยายามที่จะสร้างความสำเร็จในปี 2016 นี้ มันอาจเป็นทั้งเรื่องดีหรือหายนะสำหรับ Samsung เองก็ได้

 

รอเปิดตัวในงาน CES

ด้วยความพยายามจะเสนอตัวในรูปแบบของ SmartThing (การเชื่อมต่ออุปกรณ์ทุกอย่างภายในบ้านเข้าด้วยกันด้วยระบบอินเตอร์เน็ต) เราจะได้เห็นผลิตภัณฑ์มากมายไม่ว่าจะเป็นโทรทัศน์และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆภายในบ้านที่จะใช้ประโยชน์จากอินเตอร์เน็ตให้ได้มากที่สุด นั่นคือสิ่งที่ Samsung พยายามนำเสนอมาตั้งแต่ปี 2013 และเริ่มจริงจังมากขึ้นในช่วงสองปีหลังมานี้ เทคโนโลยี  SmartThing ที่ถูกพัฒนาขึ้นมานั้น จะช่วยเปลี่ยนสมาร์ทโฟนให้กลายเป็นรีโมทควบคุมสิ่งของทุกอย่างภายในบ้านได้อย่างง่ายดาย

แน่นอนว่า Samsung จะต้องนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เป็น SmartThing จำนวนมาก เพื่อให้เรารู้สึกว่าไม่ได้ต้องการแค่อะไรอย่างใดอย่างหนึ่ง แต่ต้องมีอุปกรณ์ของ Samsung หลายๆอย่างภายในบ้าน การที่จะสร้างเครือข่ายของผลิตภัณฑ์นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ลองดูตัวอย่างจาก Microsoft ที่มีความพยายามมาอย่างยาวนานที่จะผลักดันแนวคิดที่ทำให้ Windows ควบคุมทุกอย่าง

ก้าวต่อไป : สมาร์ทโฟน

จากจุดประสงค์หลักที่กล่าวมา ไม่ได้หมายความว่า Samsung จะละทิ้งสมาร์ทโฟนไปแล้ว ทางบริษัทยังคงเป็นผู้จำหน่ายสมาร์ทโฟนรายใหญ่ของโลกอยู่ เพื่อที่จะอยู่ในตำแหน่งนี้ต่อไปให้ได้ Samsung มีความจำเป็นที่จะต้องนำเสนอสิ่งที่เซอร์ไพรซ์ผู้ซื้อให้ได้อย่างที่ iPhone ทำได้มาก่อน และต้องสู้กับโทรศัพท์ราคาย่อมเยาอย่าง  Xiaomi และ Huawei

ถึงแม้ Samsung จะไม่ได้นำสมาร์ทโฟนมาแสดงภายในงาน CES (เนื่องจากเป็นงานแสดงผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าเท่านั้น) แต่ทางบริษัทก็วางแผนจะเปิดตัวสมาร์ทโฟนช่วงปลายกุมภาพันธ์หรือต้นมีนาคม ซึ่งตรงกันกับงาน Mobile World Congress พอดี

หัวหน้าฝ่ายผลิตภัณฑ์โทรศัพท์มือถือคนใหม่ Dongjin Koh พยายามที่จะยกระดับซอฟท์แวร์ให้ดียิ่งขึ้น ทั้ง Knox ที่เป็นระบบความปลอดภัย และ บริการชำระเงินอย่าง Samsung Pay อีกทั้งยังพยายามสร้างพันธมิตรกับ Google และ Microsoft ด้วย

ที่มา : www.cnet.com