12 กุมภาพันธ์ 2557 – บริษัทโทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค เผยผลประกอบการไตรมาส 4 รายได้รวมเติบโตร้อยละ 2.5 จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน (YoY)  เนื่องมาจากผลบวกของรายได้บริการ ไม่รวมไอซี ที่เพิ่มสูงขึ้นร้อยละ 5.8 (YoY) และรายได้จากการขายเครื่องโทรศัพท์ที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 47.6 (YoY)  แม้จะมีปัจจัยลบทางด้านเศรษฐกิจ การเมืองและการแข่งขันในตลาดที่สูงขึ้น EBITDA เพิ่มขึ้นอย่างมั่นคงร้อยละ 17.7 (YoY) จากต้นทุนที่ลดลงโดยเฉพาะต้นทุนจากส่วนแบ่งรายได้ อันเป็นผลมาจากการที่ลูกค้าย้ายจากดีแทคมาเป็นลูกค้าดีแทค ไตรเน็ตเป็นจำนวนมากขึ้น ส่งผลให้มีต้นทุนส่วนแบ่งรายได้ปรับตัวลดลง ณ สิ้นปี 2556 ดีแทค ไตรเน็ต มีผู้ใช้บริการทั้งสิ้น 12 ล้านราย มากกว่าที่ตั้งเป้าไว้ จากการโอนย้ายเข้ามาของลูกค้าอย่างรวดเร็ว ทำให้บริษัทคาดว่าจะโอนย้ายลูกค้าเกือบทั้งหมดในสิ้นปี 2557 นี้

 

จุดเด่นในไตรมาสที่ 4 ยังคงเป็นรายได้จากการให้บริการ (ไม่รวม IC) เพิ่มสูงขึ้นร้อยละ 5.8 จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน (YoY) โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลักจากการเติบโตของบริการอินเทอร์เน็ตไร้สาย รายได้จากการขายเครื่องโทรศัพท์ปรับตัวสูงขึ้นร้อยละ 47.6 จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน (YoY)

 

ในส่วนผู้ใช้บริการสมาร์ทโฟนต่อผู้ใช้บริการทั้งหมดของดีแทคเพิ่มขึ้นสู่ร้อยละ 32.7 ในไตรมาส 4 ของปี 2556 จากการทำตลาดดีแทค ไตรเน็ต โฟน และ ราคาสมาร์ทโฟนที่ลดลงในตลาด การเพิ่มขึ้นของผู้ใช้บริการสมาร์ทโฟนส่งผลดีให้ดีแทคในการเติบโตของรายได้บริการอินเทอร์เน็ตและความต้องการของลูกค้าปัจจุบันที่มีความประสงค์โอนย้ายสู่ระบบ 3G 2.1GHz

L2L3

 

รายได้จากบริการเสริมยังคงเติบโตต่อเนื่อง ถึงร้อยละ 41.8 จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน (YoY) และร้อยละ 6.0 จากไตรมาสก่อน (QoQ) อยู่ที่ 6.3 พันล้านบาท แรงขับเคลื่อนหลักของรายได้จากบริการเสริมยังคงเป็นการใช้อินเทอร์เน็ตไร้สายที่เติบโตอย่างต่อเนื่องร้อยละ 63.9 จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน (YoY) และร้อยละ 7.8 จากไตรมาสก่อน (QoQ) ซึ่งเป็นผลจากความนิยมในสมาร์ทโฟนและแอพพลิเคชั่นสังคมออนไลน์ที่ยังคงมีสูงต่อเนื่อง และการขยายพื้นที่ให้บริการ 3G บนคลื่นความถี่ย่าน 2.1 GHz ครอบคลุมพื้นที่การให้บริการได้ครบ 77 จังหวัดทั่วประเทศของดีแทค

 

EBITDA สำหรับไตรมาสที่ 4 ปี 2556 เท่ากับ 8.0 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 17.7 จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน จากการเติบโตของรายได้และการบริหารจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิผล EBITDA margin เพิ่มขึ้นจาก 27.7% จากไตรมาส 4 ปี 2555 เป็น 32.1% เนื่องจากการปรับลดลงของส่วนแบ่งรายได้

 

อย่างไรก็ตาม การที่บริษัทประสบความสำเร็จในการโอนย้ายลูกค้า มาใช้ดีแทค ไตรเน็ต ส่งผลให้รายได้ที่เกิดจากทรัพย์สินลดน้อยลงเมื่อเทียบกับมูลค่าทรัพย์สินที่มีอยู่ทางบัญชีของดีแทค และตามมาตรฐานการบัญชี บริษัทต้องมีการบันทึกส่วนต่างรายการบัญชี ซึ่งส่งผลกระทบต่อกำไรสะสมของดีแทคในไตรมาส 4 ทำให้ บริษัทมีความจำเป็นที่จะเว้นการจ่ายเงินปันผลในไตรมาสที่ 4 ของปี 2556 อย่างไรก็ดีบริษัทเชื่อมั่นว่าจะสามารถกลับมาดำเนินนโยบายการจ่ายเงินปันผลในไตรมาส 1 ของปี 2557 ได้ตามปกติ และคาดว่าค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายของดีแทคจะปรับตัวลดลงจากการรับรู้ผลต่างของรายได้เทียบกับมูลค่าทรัพย์สินทางบัญชี  ส่งผลให้ดีแทคจะมีความสามารถในการจ่ายเงินปันผลได้ในจำนวนที่สูงขึ้นตั้งแต่ปี 2557 เป็นต้นไป

8229-736718115-28979

นายจอน เอ็ดดี้ อับดุลลาห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค กล่าวว่า “รายได้การให้บริการที่เติบโตต่อเนื่อง  เป็นผลมาจากการใช้งานโมบายล์อินเทอร์เน็ต และสมาร์ทโฟนที่เติบโตมากขึ้น และความสำเร็จจากการจัดแคมเปญต่อเนื่องเพื่อดึงดูดให้ลูกค้าเครือข่ายอื่นย้ายเข้ามาใช้ดีแทค ไตรเน็ต และแคมเปญยิ่งอยู่นาน ยิ่งรักกัน เพื่อขอบคุณลูกค้าที่ไว้วางใจใช้บริการกับดีแทคตลอดมา

ปัจจุบันดีแทค และ ดีแทค ไตรเน็ต มีสถานีฐานรวมกันแล้วประมาณ 20,000 สถานีฐาน ซึ่งจะครอบคลุมประชากรร้อยละ 80 ได้ภายในสิ้นปี 2557 และจะยังคงขยายพัฒนาสถานีฐานต่อไป สร้างความพึงพอใจในการใช้บริการให้ลูกค้าดีแทคอย่างต่อเนื่อง

เกี่ยวกับดีแทค

บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค เป็นหนึ่งในผู้นำให้การบริการโทรศัพท์มือถือของประเทศไทยแก่ผู้ใช้บริการประมาณ 27.9 ล้านเลขหมายในปัจจุบัน ดีแทค ก่อตั้งขึ้นในเดือนสิงหาคม  ปี 2532 ตลอดช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ดีแทคได้ใช้งบประมาณในการลงทุนไปมากกว่า 144,000 ล้านบาท เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางธุรกิจ โดยการพัฒนาเทคโนโลยี และเพิ่มคุณภาพของบริการอย่างต่อเนื่อง สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ดีแทค (บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ประเทศไทย: DTAC) ชมข้อมูลได้ที่  www.dtac.co.th

ภาพจาก : Dtac