Play video

ทุกวันนี้ใคร ๆ ก็ถ่ายภาพได้ เพราะ มือถือกิ๊กก๊อก เป็น Feature Phone แจกฟรี ยังมีกล้องติดมาเลย  ไม่เหมือนกับ สมัยก่อน ที่ กล้องตัวหนึ่งราคาเป็นแสน Flash เป็นแบบ หลอดไฟใช้ได้ครั้งเดียวแล้วก็ต้องทิ้ง  ไม่ใช่ว่าใคร ๆ จะ จับต้อง หรือสัมผัสกับการถ่ายภาพได้ง่าย ๆ ต้องขอบคุณ Technology สมัยนี้ ที่ทำให้การถ่ายภาพถูกลง ทำให้กล้องระดับ มืออาชีพ มาอยู่ใน ขอบเขตให้สัมผัสกันได้ง่ายขึ้น คิดดูนะครับว่า กล้อง Compact เอย กล้อง DSLR เอย เป็นอะไรที่ ใกล้ตัวเรามาขึ้น

แต่มีบางสิ่งที่ ทุกวันนี้ จัดว่าเป็นประวัติศาสตร์วงการถ่ายภาพอยู่ และ หลาย  ๆ คนอาจจะไม่รู้จักมันด้วยซ้ำ

 ภาพที่ใหญ่ที่สุดในโลก

extremes_in_photography_1

ภาพนี้เกิดจากความคิดที่จะปิดตำนาน การถ่ายภาพแบบที่ใช้สารเคมีประกอบ อันเป็นวิธีดั้งเดิมของการถ่ายภาพ  ของช่างภาพหกคน เพราะว่า สมัยนี้ใช้แบบ Digital กันหมดแล้ว บวกกับ อยาก เปรียบเทียบ ภาพถ่าย กับ ภาพวาดด้วยว่า ของใครออกมา Cool กว่ากัน  เขาก็เลยใช้กล้องที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่เขาทำเอง เพื่อถ่ายภาพ ขนาด 9.8 x 34 m หรือ 333.2 ตารางเมตร ของหอควบคุม และ Runway ของ ฐานทัพกองทัพเรือสหรัฐ ที่ตั้งใน El Toro California

ไอ้ใหญ่ขนาดนี้ มัน เจ๋งจริงก็เข้าใจ มีงานแสดงภาพนี้ ก็เข้าใจ แต่สุดท้าย จะมีที่ไหนรับมันไว้อย่างถาวรไหมเนี่ย? ใหญ่ขนาดนี้

กล้องที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีการผลิตมา

1200px-GP_Lifting_Muslin_RJ

เมื่อเล่าว่า ภาพที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่ถ่ายด้วยกล้องที่ใหญ่ที่สุด ก็คงสงสัยใช่ไหมครับว่า ใหญ่ขนาดไหน?  ถ้าคุณคิดว่า ใหญ่แบบ ต้องเอารถกระบะมาขนหล่ะก็ คุณคิดผิดแล้วครับ เพราะกล้องตัวนี้นั้น ใช้โรงเก็บเครื่องบิน ที่ 115 ทั้งโรงเลยทีเดียว

กล้องตัวนี้ไม่ได้เกิดจากการผลิต ของบริษัทไหนครับ แต่เป็น ช่างภาพทั้งหกคนนั่นแหละ ดัดแปลงโรงเก็บเครื่องบิน ให้กลายเป็นกล้องรูเข็มขนาดมโหฬาร ใช้ ผื้นผ้าใบมาแทน Film ใช้น้ำยาฉาบให้ไวแสงกว่า 72 Gallons ใช้เวลาถ่ายภาพนานกว่า 35 นาที แล้วก็ใช้ คน 80 ในการล้างอัดภาพ ขั้นตอนขาวดำใช้น้ำยาไปกว่า 600 Gallons ในขั้นตอนสี ใช้ไปกว่าอีก 1200 Gallons และการล้างผิวหน้าครั้งสุดท้าย ต้องเอา สายฉีดดำเพลิงมาล้างกันเลยทีเดียว

กล้องใหญ่ที่สุดในโลก ที่ใช้ครั้งเดียวทิ้ง เพื่อสร้างภาพถ่ายที่ใหญ่ที่สุดโลก ด้วยวิธีการแบบดั้งเดิมสุด ๆ อืมมมม ช่างเป็นการปิดท้ายที่สุด ๆ แบบ สุด ๆ จริง ๆ แฮะ

เลนส์ที่แพงที่สุดเท่าที่เคยมีมา

extremes_in_photography_2

ปรกติเวลาผมไปดู Lens กล้องนี่ ตัวละ 20,000 ผมก็ว่าแพงแล้วนะ  พวก Lens ของ DSLR ตัว Top ที่มืออาชีพใช้ตัวเป็นแสนนี่ เห็นแล้วซื้อคงไม่กล้า แต่อยากสัมผัสสักทีเหมือนกัน  แต่ Lens ที่ แพงที่สุดในโลกนี่ ราคาไม่ใช่หลักแสนแน่นอน แต่เป็นหลักล้าน (เหรียญ) เลนส์ตัวนี้ราคา $2,064,500 หรือ ประมาณ 66,064,000 บาท

lens ตัวนี้คือ  Leica APO-Telyt-R-1600mm f5/6 ความยาวรวม hood คือ 1.5m หนักกว่า 60 kg  แน่นอนว่า กล้องตัวนี้ไม่ได้ ผลิตแบบ Mass Product เป็น ทำตาม Order พิเศษ ของ Sheikh ชื่อ Saud Mohammed Al-Thani แห่ง กาตาร์ สั่งทำขึ้นมา ว่ากันว่า พี่แก มีรถเบนซ์ แบบ พิเศษ 4 Wheel Drive ที่ติด ขาตั้งแบบ พิเศษ เพื่อใช้รองรับ เลนส์ พิเศษ นี้ แบบ พิเศษ ๆ ด้วย

คนมีเงินนี่ ช่าง …..

 

กล้องที่แพงที่สุด แบบสุด ๆ

extremes_in_photography_3

พูดถึงกล้องสมัยนี้ จะนึกถึง nikon, Canon, Olympus แต่สำหรับคนบ้ากล้องมือเก๋า ต้องนึกถึง Leica เป็นอันดับแรก  ตำนานแห่งกล้อง และ กล้องที่แพงที่สุดในโลก ก็เป็นรุ่น Classic ตัวขึ้นหิ้งของ Leica ด้วยเช่นกัน กล้อง 1923 Leica O-series มีแค่ 25 ตัวในโลก และปัจจุบัน เหลือแค่ 11 ตัวเท่านั้น ราคาตลาดตอนนี้อยู่ที่ประมาณ $1.89M หรือ 60,480,000 บาท

ซื้อไปนี่ ได้แค่เก็บแหละ คงหา film มาเล่นไม่ได้แล้ว

ภาพที่เกิดจากการเปิดหน้ากล้องนานที่สุด

extremes_in_photography_4

ถ้าบอกว่า เวลาถ่ายภาพกลางคืนใช้ Shutter B กว่า 30 นาที ก็นานเกินพอแล้ว เมื่อย เหนื่อยหล่ะก็ เจอภาพนี้ จะหายเหนื่อยครับ ภาพของ Michael Wesely ที่ถ่ายขึ้นเมื่อปี 2001 ตามคำขอของ พิธิภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัยใน New York ว่า

“อยากได้ภาพหนึ่งภาพ ที่บรรยายถึงการ รื้อสร้างและปรับปรุงพิพิธภัณฑ์แห่งนี้”

Michael เลยใช้กล้อง แปดตัวถ่ายภาพออกมาจากสี่มุม ตั้งแต่เริ่มรื้อสสร้างจนสร้างใหม่เสร็จ ด้วยการเปิดหน้ากล้องแค่ครั้งเดียว ใช้เวลาไปทั้งสิ้น 34 เดือน  หรือเกือบ สามปี

 

และ ภาพใบแรกของโลก

extremes_in_photography_5

เห็นภาพแรกของโลกนี่ หลาย ๆ คนบ่นว่า “ดูไม่รู้เรื่องเลย”  หรือไม่ก็ “แย่มาก ไม่เห็นอะไรเลย”  ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลกดอกครับ เพราะภาพนี้เกิดจากความ “บังเอิญ” ในสมัยก่อนนั้น การถ่ายภาพยังไม่มี ไม่เกิดขึ้น อยากได้ภาพเหมือน จะใช้กล่องวาดภาพแทน หลักการคือใช้กล้องรูเข็มสะท้อนภาพไปยังผื้นผ้าใบ แล้ววาดตาม แน่นอนว่ามีนักวิทยาศาตร์ เริ่มคิดว่า จะต้องมีการบันทึกภาพที่ว่านี้ ไปลงวัสดุใด ๆ ให้ได้ จะได้ภาพที่เหมือนจริงกว่าการวาด

Joseph Nicephore ทำเรื่องนี้สำเร็จในปี 1826 ครับ  โดนใช้แผ่นเงิน ในการบันทึกภาพวิวนอกหน้าต่างห้องของเขาที่ชั้น 2 ซึ่งตอนแรกจึกว่าล้มเหลวไปแล้ว แต่ การเอาแผนเงินไปเก็บในตู้ ร่วมกับน้ำยาหลาย ๆ ตัว แล้วน้ำยากตัวหนึ่ง เกิดระเหยขึ้นมา ทำให้ภาพปรากฏขึ้น ทำให้ Joseph Nicephore สามารถ พัฒนาการถ่ายภาพให็เป็นจริงขึ้นมาได้

แต่น่าเสียดายว่า Technology สมัยนั้นต้องเปิดหน้ากล้องนานกว่า 30 นาที ไอ้ครั้นจะให้คนนั่งท่าเดิมกว่า 30 นาทีโดยไม่ขยับเลย ก็เป็นไปไม่ได้ด้วยสิ  เราจึงไม่มีโอกาสได้เห็นรูปถ่าย ของคนที่พัฒนากล้องตัวแรกของโลกขึ้นมา

ที่มา: Photography Talk