ฤๅทวิตเตอร์จะเป็นเครือข่ายสังคมเฉพาะกลุ่ม

หลังจากที่ Twitter เข้าสู่ตลาดหุ้นเมื่อปลายปีที่แล้ว ตอนนี้รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสครั้งแรกของทวิตเตอร์ก็ออกมาแล้ว มีตัวเลขที่น่าสนใจหลายอย่าง ซึ่งสื่อถึงอนาคตที่น่าเป็นห่วงของทวิตเตอร์

ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2013 ทวิตเตอร์มีรายได้ทั้งหมด 243 ล้านเหรียญ ซึ่งถือว่าเพิ่มขึ้น 116% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปี 2012 ซึ่งถือเป็นกำไร 9.7 ล้านเหรียญ จากเดิมที่เคยขาดทุนกันมา โดยได้รายได้จากโฆษณาถึง 220 ล้านเหรียญ (แปลว่ามีรายได้จากส่วนอื่นๆ แค่ 23 ล้านเหรียญเท่านั้น) โดยรายได้โฆษณา 75% มาจากบนมือถือ
ในส่วนของผู้ใช้ มีผู้ใช้งานเป็นประจำทุกเดือนราว 241 ล้านคน เพิ่มขึ้น 30% จากปีที่แล้ว โดยมีผู้ใช้เป็นประจำผ่านมือถือ 184 ล้านคน เพิ่มขึ้น 37% ก็คิดเป็น 76% ของผู้ใช้ทั้งหมด

ดูตัวเลขรายได้และผู้ใช้เหล่านี้ก็รู้สึกว่า Twitter ก็ยังเติบโตโอเค มีรายได้ มีกำไร และมุ้งเด้น อ่อผิดๆ มุ่งเน้นด้านมือถือเป็นหลัก แต่แล้วอะไรคือปัญหาของทวิตเตอร์กันล่ะ

ท่ามกลางตัวเลขที่เหมือนจะสวยงามของทวิตเตอร์ กลับแสดงปัญหาหนึ่งที่อันตรายมากสำหรับธุรกิจเครือข่ายสังคมออนไลน์ คือตัวเลขการเติบโตของผู้ใช้ที่แม้ไม่ลดลง แต่จากไตรมาส 3 มาสู่ไตรมาส 4 ผู้ใช้งานเป็นประจำกลับโตขึ้นเพียง 9 ล้านคน แถมในอเมริกาก็โตเพียง 1 ล้านคนเท่านั้น

แถมตัวเลขอัตราการเปิด Timeline ก็ยังลดลงเป็นครั้งแรกอีกด้วยจาก 159,000 ล้านครั้งในไตรมาส 3 เหลือ 148,000 ล้านครั้งในไตรมาส 4 (แต่ทวิตเตอร์ก็ยังเนียนบอกว่าเพิ่มขึ้น 26% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันเมื่อปีก่อน ซึ่งเมื่อผู้ใช้เปิด Timeline ลดลง อัตราการเห็นโฆษณาที่เป็นรายได้หลักของทวิตเตอร์ก็ลดลงด้วย ถ้ายังมีแนวโน้มนี้ต่อไป ใครจะลงโฆษณากับ Twitter

แน่นอนว่าทวิตเตอร์ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ หลังจากเขี่ยนักพัฒนาที่เคยร่วมสร้างทวิตเตอร์กันมาทิ้งไป ก็มาปรับปรุงหน้า Timeline ของตัวเองให้น่าสนใจขึ้น ที่เราเห็นไปแล้วก็มีการปรับเมนูด้านบนใหม่ในเว็บใหม่ ปรับหน้าอ่านไทม์ไลน์ของแอปทวิตเตอร์ตัวเองให้ดีขึ้น ใส่เส้นสีฟ้าในไทม์ไลน์ให้เห็นการตอบโต้ระหว่างผู้ใช้ทวิตเตอร์ง่ายขึ้น ปรับปรุงระบบ Direct Message ให้ใส่รูปได้ น่าใช้มากขึ้นและที่เรากำลังจะเห็นในอนาคตคือหน้าเว็บทวิตเตอร์แบบใหม่ที่กำลังทดสอบกันอยู่ ซึ่งของจริงที่จะได้ใช้อาจไม่ตรงตามภาพหลุดนี้ แต่ก็เห็นแนวโน้มว่า Twitter ให้ความสำคัญกับภาพและเนื้อหาที่แชร์มากขึ้น เพื่อดึงดูดให้คนใช้ Timeline กันได้นานๆ

ก็ไม่รู้ว่าแนวทางปรับปรุงของทวิตเตอร์จะช่วยให้ผู้ใช้ใช้งานได้มากขึ้นขนาดไหน แต่ก็เป็นแนวทางเดียวกับ facebook ที่กำลังมุ่งเน้นการแสดงเนื้อหามากขึ้น

แต่….. ปัญหาสุดหินของทวิตเตอร์คือ จะดึงผู้ใช้หน้าใหม่ให้เข้ามาใช้ได้อย่างไร เพราะทวิตเตอร์ไม่เคยเป็นเครือข่ายที่ปราณีกับผู้ใช้มือใหม่ คิดถึงยามที่ผู้ใช้เริ่มต้นเล่นทวิตเตอร์ จะมีคำถามมากมายในหัว

• เราจะเขียนอะไร
• เราจะบ่นให้ใครฟัง
• เราจะติดตามใคร
• ทำยังไงให้คนอื่นติดตามเรา
• ยังไม่รวมปัญหาเทคนิคเช่น Mention, RT, DM, Hashtag คืออะไร

ซึ่งเมื่อเทียบกับ facebook ที่เริ่มต้นมาก็เห็นหน้าเพื่อนที่คุ้นเคย หรือ instagram ที่ไม่ต้องบ่น เริ่มต้นก็ถ่ายรูปแล้วดูรูปชาวบ้านได้เลย มันเริ่มต้นง่ายกว่าทวิตเตอร์มากๆ ผู้ใช้ทวิตเตอร์จำนวนมากก็ไม่สามารถบ่นอยู่คนเดียวได้ทุกวัน นานเข้าก็เลิกเล่นไปเสียมากมาย

ถ้าทวิตเตอร์ยังหาวิธีดันผู้ใช้หน้าใหม่ให้สนุกในระยะแรกไม่ได้ ฤา Twitter จะน่าเล่นเฉพาะผู้ใช้หน้าเก่า หรือเหล่าเซเล็ปในโลกโซเซียลที่ทวีตอะไรก็มีคนตอบกลับ มีคน RT กันเสียมากมาย เมื่อถึงตอนนั้น Twitter ก็ไม่ใช่สื่อสังคมออนไลน์ที่สามารถแทนเสียงขเฉพาะองคนในสังคมได้ ไม่สามารถจับเทรนด์ที่แม่นยำได้ ก็ไม่สามารถขายโฆษณาได้เหมือนกัน

ที่มา: Twitter