สำหรับคอเกม FPS หรือเกมเมอร์สายที่เล่นเกมจริงจังหน่อย ต้องรู้จักเกมในซี่รี่ย์ BioShock เป็นอย่างดี เพราะมันคือหนึ่งในซี่รี่ย์เกม FPS ที่ดีที่สุดในโลก โดยเฉพาะในแง่ของเรื่องราวที่ถ่ายทอดออกมาในเกม แต่มาวันนี้ Irrational Games สตูดิโอที่อยู่เบื้องหลังเกมนี้ได้ประกาศเตรียมปิดตัวเสียแล้ว
แค่ Irrational Games จะปิดตัวอาจจะช็อควงการแล้ว ฟังเหตุผลที่จะปิดสตูดิโอลงอาจจะรู้สึกแปลกใจยิ่งกว่า โดย Ken Levine หัวเรือใหญ่ของสตูดิโอและหนึ่งในผู้ก่อตั้งออกมาบอกว่า เขาต้องการเริ่มต้นใหม่กับสตูดิโอที่มีขนาดเล็กลง คล่องตัวในการทำงานมากกว่า มีความยืดหยุ่นและไม่มีลำดับขั้นในองค์กร เพื่อสร้างเกมที่มีรูปแบบแตกต่างจากที่เขาเคยสร้างมา โดยเกมตัวใหม่ของเขาจะเน้นการเล่าเรื่องที่เกมเมอร์สามารถนำกลับมาเล่นใหม่ได้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ซึ่งทำให้ทีมงานต้องเข้าไปใกล้ชิดเกมเมอร์ยิ่งกว่าเดิม
โดย Levine จะพาทีมงานเดิมจาก Irrational Games 15 คนไปอยู่ในสตูดิโอใหม่ภายใต้ร่มเงาของ Take-two ด้วย ส่วนพนักงานที่เหลือทาง 2K Games (หน่วยงานย่อยของ Take-two อีกที) ต้นสังกัดเดิมก็จะรองรับต่อไป โดย BioShock Infinite: Burial at Sea ภาคเสริมของ BioShock Infinite จะเป็นเกมสุดท้ายของ Irrational Games
ฟังดูก็พอจับอารมณ์ได้ว่านาย Ken Levine นั้นอารมณ์ติสไม่น้อย แต่ถ้ารู้ภูมิหลังของเขากับปัญหาที่เกิดขึ้นตอนพัฒนาเกม BioShock Infinite จนต้องเลื่อนเปิดตัวไปหลายครั้ง ต้นทุนการผลิตก็สูงขึ้นเรื่อยๆ แต่ความสามารถหลายอย่างที่เคยอยากให้มีในเกมกลับไม่สามารถทำได้จริง ก็อาจจะพอเข้าใจว่าทำไม Levine ต้องการสตูดิโอที่เล็กลง
Ken Levine เกิดในครอบครัวชาวยิว แต่ไม่ได้นับถือศาสนาใดๆ เพราะเชื่อว่าพระเจ้าไม่มีอยู่จริง ซึ่งต่อมาได้เรียนเกี่ยวกับการละครจากวิทยาลัย Vassar ในนิวยอร์ค จนได้เขียนบทละครแล้วชีวิตก็พลิกผันในปี 1995 เมื่อเข้าร่วมงานกับ Looking Glass Studio ในฐานะ Co-designer ของ Thief: The Dark Project เกมมุมมองบุคคลที่ 1 เกมแรกๆ ที่ใช้เน้นการซ่อนเร้นในเงามืดเพื่อลักลอบทำภารกิจ มากกว่าการบุกจู่โจมเหมือนเกมทั่วไปยุคนั้น ทำให้ Thief กลายเป็นเกมที่ขายดีที่สุดของ Looking Glass Studio
ก่อนที่ Looking Glass จะปิดกิจการในปี 2000 Ken Levine ได้ออกมาตั้ง Irrational Games ในปี 1997 พร้อมกับเพื่อนพนักงานจาก Looking Glass คือ Jonathan Chey และ Robert Fermier แล้วใช้เวลา 2 ปีในการเข็นเกมระดับตำนานอย่าง System Shock 2 ออกมาในปี 1999 ซึ่งเป็นภาคต่ออย่างเป็นทางการของ System Shock โดย Looking Glass ที่ออกเมื่อปี 1994 โดยในภาค 2 ได้รับคำชมอย่างมากในแง่ของเนื้อเรื่องที่สยองขวัญ ปลุกเร้าอารมณ์ผู้เล่นมากที่สุดเกมหนึ่งในโลกวิดีโอเกม และรูปแบบการเล่นที่ปรับปรุงขึ้นกว่าเกม FPS แบบดั่งเดิม (ใครอยากลองเล่น สามารถซื้อเกมนี้ได้จาก gog.com)
ก็หลังจากที่ System Shock 2 ประสบความสำเร็จอย่างดี Irrational Games และ Levine ก็ทำเกมอีกมากมายเช่น Freedom Force หรือ SWAT 4 แต่เกมที่ทำให้ Irrational Games กลับมาเปรี๊ยงอีกครั้งคือ BioShock ที่ Levine กลับมารับหน้าที่ผู้กำกับ นักเขียนเรื่องและนักออกแบบเหมือนกับ System Shock 2
BioShock เป็นเกมที่ถอดแบบความหลอนมาจาก System Shock แต่นำเสนอแง่มุมการเมือง ความเป็นมนุษย์ และเสียดสีสังคมอย่างลึกซึ้ง โดยในเกม 2 ภาคแรกที่ออกมาในปี 2007 และ 2010 (ทีม Irrational Games ทำแค่ภาคแรก) นำเสนอเรื่องราวในเมือง Rapture เมืองสวรรค์ของโลกที่อยู่ใต้น้ำ ที่นักธุรกิจใหญ่ของโลกสร้างขึ้นมาเพื่อรวบรวมคนเก่งให้สร้างโลกที่มนุษย์บรรดาลทุกอย่าง ดั่งคำขวัญของเมืองว่า No Gods or King Only Man.
เมือง Rapture จึงเป็นโลกวัตถุนิยมสุดขั้วที่ทุกอย่างสามารถหาซื้อได้ด้วยเงิน การทดลองทางวิทยาศาสตร์ไม่มีศีลธรรม ยิ่งกว่าภาพจิตนาการในนิยาย Atlas Shrugged ของ Ayn Rand ผู้สร้างคำว่าวัตถุนิยมขึ้นมาเสียอีก จนสุดท้าย Rapture ก็ถึงจุดจบ (อยากรู้ว่ามันเป็นยังไง ลองเล่นเกม แล้วพยายามอ่านเนื้อหาดู) BioShock จึงขึ้นหิ้งเกมดีที่ทั้งระบบเกมแบบ FPS ทำได้ยอดเยี่ยมและเนื้อเรื่องเข้มข้น
ผ่านมา 6 ปี Irrational Games และ Levine ก็ทำหน้าที่เดิมในการพาเกม BioShock Infinite ภาค 3 ของเกมยิงบุคคลที่ 1 แต่เนื้อหาปวดกระโหลกของโลกกลับมาอีกครั้ง คราวนี้เป็นเรื่องที่เกิดบนนครลอยฟ้า Columbia เมืองที่สวยงาม แต่เต็มไปด้วยการกดขี่ เหยียดสีผิว และการประโคมข่าวชวนเชื่อจนชาวเมืองยกย่องท่านผู้นำราวกับเทพ ด้วยความฉลาดของการเขียนเนื้อเรื่องที่นำเอาประวัติศาสตร์จริงที่เกิดบนโลกมาบิดเบือนผ่านการชวนเชื่อของเมือง Columbia ทำให้ตัวเกมที่สนุกอยู่แล้ว ผู้เล่นกลับได้เห็นภาพการเข่นฆ่าของมนุษย์ด้วยเรื่องการเมืองที่โหดร้ายที่สุด และกลับมาตั้งคำถามกับสังคม
เกมของ Irrational Games และ Ken Levine จึงหนักแน่นด้วยเนื้อหาที่ชวนคิดและจุกเหมือนโดนตบหน้าอยู่เสมอ จนน่าติดตามว่าผลงานต่อไปของสตูดิโอใหม่ที่ Ken Levine จะตั้งขึ้นนั้นจะเป็นอย่างไร
แต่เชื่อได้ว่าคนที่ชอบเขียนบทและเล่าเรื่องอย่าง Levine แล้ว เกมใหม่ต้องหนักแน่นไม่แพ้กัน