ว่าด้วยเรื่องธุรกิจที่น่าสนใจในทศวรรษนี้ คงหนีไม่พ้น #สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV Charging Station) เนื่องจากหลายปีที่ผ่านมามีคนหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้า (BEV) กันมากขึ้น
ถ้าอ้างอิงสถิติจากกรมขนส่งทางบก ย้อนหลัง 4 ปี (2560-2564) ก็จะพบว่ามีผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าประเภทแบตเตอรี่ (BEV) เพิ่มขึ้นจาก 1,394 คัน เป็น 10,115 คัน หรือเพิ่มขึ้น 625% ถือว่ามีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในทุกปี
และถ้ามองในภาพรวม สัดส่วนจำนวนรถยนต์ไฟฟ้าในไทยยังมีน้อยมาก หากเอามาเทียบกับรถยนต์ที่ใช้น้ำมัน (รย.1 ไม่เกิน 7 ที่นั่ง) ที่มีราว ๆ 10 ล้านคัน
บวกกับภาครัฐมีนโยบายการลดคาร์บอนให้เป็นศูนย์ โดยการตั้งเป้าที่จะผลิตและใช้รถยนต์ไฟฟ้ารวม 18.41 ล้านคัน หรือคิดเป็นแบบ 100% ในปี 2578 หรือในอีก 14 ปีข้างหน้า นั่นก็แปลว่าในอนาคตประเทศไทยจะมีแต่รถยนต์ไฟฟ้าเข้ามาแทนที่รถยนต์สันดาปที่ใช้น้ำมันในปัจจุบัน
เมื่อรถยนต์ไฟฟ้าขยายตัวมากขึ้นในอนาคต สิ่งที่เติบโตควบคู่เพื่อรองรับความต้องการ คือ สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV Charging Station)
รู้หรือไม่ตอนนี้ประเทศไทยมีสถานีชาร์จรวม 693 แห่ง กับ 2,285 หัวจ่ายไฟ (ข้อมูลจากสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย) ตัวเลขนี้ถือว่าไม่ได้สูงมากนัก เมื่อเทียบกับรถยนต์ไฟฟ้าที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต จึงเป็นโอกาสในการทำธุรกิจที่น่าสนใจ
แต่โอกาสที่ว่าก็มาพร้อมกับต้นทุนที่ค่อนข้างสูง เนื่องจากตู้ชาร์จ และระบบต่าง ๆ ที่ทำงานหลังบ้าน ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ ทำให้ธุรกิจนี้มีข้อจำกัด
แน่นอนว่าธุรกิจนี้คงเกิดขึ้นได้ยาก หากไม่มีการสนับสนุนจากภาครัฐ การไฟฟ้านครหลวงแห่งประเทศไทย (MEA) ที่เป็นตัวตั้งตัวตีในการขับเคลื่อนการใช้งานยานยนต์ไฟฟ้า ผ่านโครงการต่าง ๆ และตั้งสถานีชาร์จนำร่องเพื่อเป็นตัวอย่าง
รวมถึงไปจับมือร่วมกับพันธมิตรต่าง ๆ ในการสร้าง Ecosystem ของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า ด้วยการผลิตและจัดจำหน่ายด้วยตัวเอง ต้นทุนจึงมีราคาถูกลง และสามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้น
ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือการที่ MEA ไปร่วมมือกับ #DELTA ผู้ให้บริการโซลูชันด้านการจัดการพลังงานและความร้อนชั้นนำของโลก ในการติดตั้งตู้ชาร์จตามสถานีต่าง ๆ ทั่วประเทศ และเชื่อมต่อข้อมูลของสถานีชาร์จกับแอป MEA EV แบบเรียลไทม์ เพื่อใช้ในการค้นหา จอง และควบคุมการชาร์จได้อย่างสะดวกสบาย
โดยสรุปคือ ในอนาคตจะมีรถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น ทำให้มีความต้องการสถานีชาร์จมากขึ้น จึงเป็นโอกาสที่น่าสนใจ บวกกับภาครัฐเองก็ช่วยผลักดัน และให้การสนับสนุน
ถึงตรงนี้ คงจะเห็นแล้วใช่ไหมว่าทำไมธุรกิจสถานีชาร์จรถไฟฟ้า ทำไมถึงได้น่าสนใจ?
รู้หรือไม่ ถ้าพูดเรื่องเครื่องชาร์จของ DELTA ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีล้ำ ๆ ก็ต้องพูดถึง #UFC200 หรือ Ultra Fast 200 kW
จุดเด่นของ DELTA UFC 200 คือสามารถชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าได้ 4 คันพร้อมกัน โดยมีหัวชาร์จแบบ DC fast charging ที่จ่ายไฟได้สูงสุด 200kW กับหัวชาร์จ AC charging ที่จ่ายไฟได้สูงสุด 22kW ซึ่งถือว่ายืดหยุ่น และรองรับการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าในอนาคตที่ต้องการพลังงานมากขึ้น
รวมถึงเทคโนโลยีที่ช่วยการจัดการพลังงานแบบไดนามิก ที่ปรับเปลี่ยนการจ่ายไฟแบบอัตโนมัติความต้องการของตัวรถ ซึ่งช่วยลดเวลาในการชาร์จได้
นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยี RFID (Radio-frequency identification) เอาไว้รองรับการอ่านบัตรสมาชิก หรือบัตรเครดิตในการชำระเงิน รวมถึงมีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ ด้านหน้าตา User Interface ก็มีการออกแบบมาให้ใช้งานได้ง่าย และสามารถดึงข้อมูลออกมาดูได้
สำหรับคนที่สนใจสามารถเยี่ยมชมข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
อีเมล: [email protected]
เว็บไซต์ https://bit.ly/3zy8954