นางสาววิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กล่าวว่า สำนักงานการวิจัยแห่งชาติสนับสนุน “โครงการมาลัยวิทยสถาน” ให้แก่สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) ดำเนินโครงการฯ เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากของประเทศ ด้วยการผลิตไม้ดอกไม้ประดับ โดยใช้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม ทำให้สามารถยกระดับภาคเกษตรเป็นธุรกิจ สร้างงาน สร้างรายได้ และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าและบริการต่อเนื่อง

“โครงการมาลัยวิทยสถาน” เป็นแนวคิดของ ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ในการนำนวัตกรรมและองค์ความรู้มาสู่การพัฒนาตลอดห่วงโซ่การผลิต อาทิ การพัฒนาและปรับปรุงพันธุ์, การคัดเลือกต้นพันธุ์ไม้ดอกไม้ประดับที่แข็งแรงปลอดโรค, การส่งเสริมการใช้วัสดุปลูกที่มีคุณภาพและมีสารอาหารที่เหมาะสมต่อพืช, ระบบการปลูกเลี้ยงสมัยใหม่ที่ปลอดภัยและได้มาตรฐาน, ระบบการปลูกเลี้ยงตามหลักความพอดีไม่เหลือทิ้ง, กระบวนการหลังการเก็บเกี่ยว, การสร้างกลุ่มเครือข่ายผู้ปลูกเลี้ยงให้เข้มแข็ง รวมถึงการเพิ่มมูลค่า เพื่อเป็นผลิตภัณฑ์ในอุตสาหกรรมอาหาร และอุตสาหกรรมสุขภาพและความงาม ตลอดจนสนับสนุนให้เกิดการท่องเที่ยวในจังหวัด โดยมีพื้นที่นำร่องในจังหวัดเลยและจังหวัดลำปาง เพื่อเป็นพื้นที่ต้นแบบสู่การเรียนรู้เชื่อมโยงไปยังพื้นที่จังหวัดอื่น ๆ ต่อไป

มาลัยวิทยสถาน

นายอนันต์ พิริยะภัทรกิจ หัวหน้าโครงการมาลัยวิทยสถาน กล่าวว่า โครงการมาลัยวิทยสถาน ดำเนินโครงการโดยคณะนักวิจัย วว. ซึ่งได้รับงบประมาณสนับสนุนจาก วช. ถือว่าเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในด้านการพัฒนาสร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการปลูกเลี้ยงไม้ดอกไม้ประดับและการถ่ายทอดเทคโนโลยี นวัตกรรมด้านการผลิตไม้ดอกไม้ประดับเชิงพาณิชย์และเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของผู้ผลิตให้มีศักยภาพมากขึ้น ช่วยเสริมสร้างรายได้ให้กับชุมชนและเศรษฐกิจฐานรากในช่วงวิกฤตระบาดของโควิด-19 และการยกระดับสู่อาชีพที่ยั่งยืนหลังสถานการณ์คลี่คลายด้วยเกษตรสมัยใหม่ ตามหลัก BCG Model

นอกจากนี้ โครงการมาลัยวิทยสถานยังช่วยปรับปรุงสภาพแวดล้อมในพื้นที่ให้เป็นเมืองน่าอยู่ เหมาะสำหรับการท่องเที่ยวเป็นประโยชน์กับเกษตรกรผู้ปลูกเลี้ยงไม้ดอกไม้ประดับและคนในชุมชนใกล้เคียง และเป็นต้นแบบให้จังหวัดอื่น ๆ ก่อให้เกิดความร่วมมือระหว่างกลุ่มเกษตรกร นักวิจัยในมหาวิทยาลัย นักวิจัยในหน่วยงานภาครัฐและผู้ประกอบการเอกชนที่เกี่ยวข้อง ทั้งในระดับของต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำได้อย่างแท้จริง

มาลัยวิทยสถาน

นางสาวณัฐริกา ศรีสวัสดิ์ หัวหน้าศูนย์จัดการศัตรูพืชชุมชนท้ายบ้านแก่งไฮ อำเภอภูเรือ จังหวัดเลย กล่าวว่า ขณะนี้ได้มีการพัฒนาเรื่องการอบดิน เพื่อไม่ให้ต้นคริสต์มาสเกิดโรคและเสียหาย จะได้อัตราการผลิตที่เพิ่มขึ้น ซึ่งตอนนี้มีการวิจัยอยู่ คาดว่าผลที่จะได้ ไม้ดอกจะไม่เสียหาย มีผลผลิตเพิ่มขึ้น มีคุณภาพที่ดีขึ้น รวมถึงการมีดอกใบที่สวยพร้อมส่งออกไปทั่วประเทศ

สำหรับจังหวัดเลย เป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีศักยภาพสูงเมืองหนึ่ง เนื่องจากมีวัฒนธรรมที่โดดเด่น และมีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ทั้งมีภูมิอากาศที่เป็นเย็นสบายตลอดทั้งปี เหมาะแก่การเพาะปลูกพรรณไม้เมืองหนาวหลากหลายสายพันธุ์ ส่งผลให้มีกลุ่มเกษตรกรที่ทำการเพาะเลี้ยงไม้ดอกไม้ประดับเมืองหนาวเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะอำเภอภูเรือและอำเภอด่านซ้าย เป็นแหล่งผลิตไม้ดอกไม้ประดับที่สำคัญและขนาดใหญ่สุดของประเทศ

ที่มา : สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย