วันที่ 29 มีนาคม 2565 นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม จัดให้มี ‘คลาวด์กลางภาครัฐ’ และให้ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ดำเนินการ
เนื่องมาจากการควบรวมกิจการและได้รับไปทั้งทรัพย์สิน หนี้ สิทธิ หน้าที่ และความรับผิดชอบของ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) ทั้งหมด ตามพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ. 2535 พร้อมเห็นชอบกรอบงบประมาณรายจ่ายผูกพันต่อเนื่อง 3 ปี ตั้งแต่ปี 2566-2568 จำนวนเงินปีละ 2,072.14 ล้านบาท รวมทั้งสิ้น 6,216.4245 ล้านบาท โดยมีประมาณการรายจ่าย ดังนี้
ลำดับ | รายละเอียด | ปี 66 | ปี 67 | ปี 68 | รวม |
1 | ค่าเช่าใช้ระบบเพื่อให้บริการระบบคลาวด์กลางภาครัฐ | ||||
(1.1) ค่าเช่าใช้บริการระบบคลาวด์ จำนวนไม่น้อยกว่า 25,000 VM | 1,284.00 | 1,284.00 | 1,284.00 | 3,852.00 | |
(1.2) ค่าเช่าพื้นที่จัดเก็บข้อมูลเพิ่ม จำนวน 3,000 TB | 192.60 | 192.60 | 192.60 | 577.80 | |
2 | ค่าบริการการบริหารจัดการ Log และ Managed Security Service จำนวนไม่น้อยกว่า 25,000 VM | 450.00 | 450.00 | 450.00 | 1,350.00 |
3 | ค่าบริการสิทธิของระบบบริหารจัดการฐานข้อมูล (Database license) | 76.51 | 76.51 | 76.51 | 229.53 |
4 | ค่าบริการ Cloud Marketplace | 50.00 | 50.00 | 50.00 | 150.00 |
5 | ค่าบริการระบบศูนย์ปฏิบัติการเครือข่าย (Network Operation Center: NOC) และ Call Center 24 ชั่วโมง 7 วัน | 19.03 | 19.03 | 19.03 | 57.09 |
รวมทั้งสิ้น | 2,072.14 | 2,072.14 | 2,072.14 | 6,216.42 |
Update 29 มีนาคม 2565 เวลา 11.41 น. : สำหรับค่าเช่าพื้นที่จัดเก็บข้อมูลเพิ่ม จำนวน 3,000 TB ก่อนนี้ระบุเป็นจำนวนเงิน 5,775 ล้านบาท เนื่องจากความคลาดเคลื่อนของตัวเลขจากสำนักโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ตก (,) ไป ในขณะที่สรุปข่าวการประชุมคณะรัฐมนตรี 29 มีนาคม 2565 ที่รายงานตัวเลข 577.80 ล้านบาท
สำหรับประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ประเมินว่า การดำเนินโครงการดังกล่าวจะทำให้รัฐประหยัดงบประมาณด้านโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของประเทศ ในส่วนของค่าเช่าคลาวด์ได้ 4,116 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 76.22 และส่งเสริมระบบสารสนเทศของประเทศให้มั่นคงปลอดภัย เนื่องจากข้อมูลและระบบงานของหน่วยงานภาครัฐอยู่ในระบบคลาวด์กลางภาครัฐ ที่มีมาตรฐานสากลด้านความมั่นคง ปลอดภัย และตั้งอยู่ภายในประเทศ
นอกจากนี้ โครงการดังกล่าวยังเป็นพื้นฐานสำคัญของการเปลี่ยนผ่านเข้าสู่รัฐบาลดิจิทัล รวมถึงการใช้ประโยชน์จากข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) เพื่อการบริหารจัดการและการตัดสินใจอย่างมีประสิทธิภาพ
ที่มา : สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี, สรุปข่าวการประชุมคณะรัฐมนตรี