แบไต๋โดย แพน-ศรุตได้มีโอกาสไปร่วมงานเปิดตัวกล้อง Action cam รุ่นใหม่จากทาง GoPro ที่ปีนี้ออกซีรีส์ Hero11 Black มาพร้อมกันถึง 3 รุ่น ‘Hero11 Black’ ‘Hero11 Black Creator Edition’ และ ‘HERO11 Black Mini’ โดยทาง GoPro ให้เหตุผลว่าเนื่องจากจุดประสงค์ในการใช้งานมีความหลากหลายมากขึ้น เขาเลยออกผลิตภัณฑ์มาเพื่อตอบโจทย์ทุกคน!
สเปกหลัก GoPro HERO11 Black
- เซนเซอร์ 1/1.9 (อัตราส่วนภาพ 8:7)
- กันสั่น HyperSmooth 5.0 พร้อม AutoBoost + Horizon Lock 360 องศา
- 5.3K60p, 4K120p, 2.7K240p
- slow-motion 8X
- รองรับวิดีโอ 10-bit 1 พันล้านเฉดสี
- ภาพนิ่ง 27MP (มี RAW)
- จับภาพจากวิดีโอได้สูงสุด 24.7MP
- กันน้ำลึก 10 เมตร แบบไม่ใส่เคส
- Webcam + Live Streaming
- กระจกป้องกันหน้าเลนส์เคลือบสารป้องกันน้ำเกาะ + ถอดเปลี่ยนได้
- เลนส์ HyperView ดิจิทัลแบบใหม่
- มาพร้อม Max lens mod
- ฟังก์ชัน Time Lapse ที่มีทั้ง Star Trails, Light Painting และ Vehicle Light Trails
- ฟังก์ชัน Super Photo ช่วยปรับตั้งค่าไฟล์ให้เหมาะกับสภาพแวดล้อมอย่างรวดเร็ว
- Hind Sight สำหรับบันทึกวีดีโอล่วงหน้าก่อนกดชัตเตอร์สูงสุด 30 วินาที
สัมผัสแรก GoPro Hero11 Black
โดยตัวผมเองก็มีโอกาสได้ใช้ GoPro Hero8, Hero9 และ Hero10 มาแล้ว ในบทความนี้ผมจะมาพูดถึงในแง่ของการใช้งานเทียบกับ GoPro Hero10 นะครับ อย่างแรกที่รู้สึกได้คือความเหมือน มันเหมือนกันมาก! ตั้งแต่ขนาด น้ำหนัก ยันความเร็วในการสัมผัสที่ยอดเยี่ยม GoPro Hero11 ยังคงใช้ CPU รุ่นเดิมคือ GP2 แต่มีการปรับ UI นิดหน่อย เปิดมาครั้งแรกหลายคนคงจะงง เพราะโหมดที่ตั้งไว้อยู๋คือ Easy mode ทำให้ไม่สามารถปรับค่าต่าง ๆ โดยการแตะบริเวณกลางหน้าจอเหมือนเดิมได้
แต่สิ่งที่ชอบมาก ๆ ใน GoPro รุ่นใหม่ทุกรุ่นคือเรื่องของการกันสั่น กันสั่นที่เราว่าดีอยู่แล้ว แต่กลับยังสามารถพัฒนาให้ดีขึ้นได้ทุกปี ในปีนี้ GoPro Hero11 ต้องบอกว่าเป็นกันสั่นที่ธรรมชาติมาก ๆ มากจนสามารถใช้คลิปได้เลยโดยไม่ต้องผ่านโปรแกรมอีกรอบนึง
อย่างที่บอกไปว่า Content creator มีความหลากหลายมากขึ้น เทรนการลงคอนเทนต์หลายแพลตฟอร์มก็เริ่มมีบทบาทมาขึ้น ปีนี้ GoPro เลยทำให้ GoPro Hero11 สามารถถ่ายวิดีโอในสัดส่วน 8:7 ที่ความละเอียด 5.3K ได้ เพื่อให้ Content Creator สามารถนำไปครอปเพื่อทำเป็นแนวตั้งหรือแนวนอนในภายหลังได้
เอาใจสายวิดีโอคนที่ชอบทำสีไฟล์วิดีโอ GoPro Hero11 สามารถถ่ายวิดีโอที่ความละเอียดสี 10-bit ได้แล้ว ซึ่งมีความละเอียดถึง 1,000 ล้านสี แต่เดิมถ่ายได้แค่ 8-bit 16.7 ล้านสี แต่ต้องระวังไว้ว่าการถ่าย 10- bit ไฟล์ที่ได้จะเป็นไฟล์ HEVC ที่คอมบ้างเครื่องอาจจะไม่สามารถอ่านไฟล์นี้ได้
นอกจากทั้งหมดที่กล่าวมาก็ยังมีเอฟเฟกต์สำหรับถ่าย Time lapse ตอนกลางคืนใหม่ 3 แบบคือ Star Trails, Light Painting, Vehicle Light Trails และที่ขาดไม่ได้คือมาพร้อมกับแบตสุดอึด GoPro Enduro ที่ทำให้ถ่ายวิดีโอได้นานขึ้น 38% โดยถ้าเป็นรุ่นเก่าจะต้องซื้อแยกต่างหาก แต่ใน GoPro Hero11 คุณจะได้ไปพร้อมกับเครื่องเลย
สรุปแล้วถ้าคุณไม่ได้เป็นคนที่ใช้ฟีเจอร์ที่ผมได้กล่าวไป ก็ยังสามารถใช้ GoPro Hero10 ได้เหมือนเดิมครับ หรือจะซื้อใหม่ในราคาที่ถูกลงก็ได้ แต่ถ้าคุณอยากได้ความยืดหยุ่นของสัดส่วน สีที่เที่ยงตรง Timelapse กลางคืนเจ๋ง ๆ พร้อมแบตเตอรี่สุดอึด ก็ GoPro Hero11 ไปเลยครับ!
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส