Instax ซีรีส์ฟิล์ม Instant Camera กลายเป็นรายได้หลักในธุรกิจถ่ายภาพของ FUJIFILM พร้อมวางแผนเพิ่มยอดขายขึ้นอีก 1,040 ล้านเหรียญ (ประมาณ 37,000 ล้านบาท) หรือโตขึ้นกว่า 15% เทียบกับในปีงบประมาณที่แล้ว
ในเดือนกรกฎาคม จากการวิเคราะห์การเงินปี 2022 ของ FUJIFILM เปิดเผยว่าผลิตภัณฑ์ Instax คิดเป็นสัดส่วนใหญ่ของกลุ่มธุรกิจถ่ายภาพระดับ Consumer ของบริษัท โดยธุรกิจนี้มียอดขายรวมกว่า 266,900 ล้านเยน (2,669,000 ล้านบาท) ในปี 2022 เพิ่มขึ้น 22% จากปีก่อนหน้า และ Instax ก็ได้กลายเป็น 65% ของยอดขายรวมในแผนก Consumer Imaging ทั้งหมด
ทำให้ธุรกิจ Instax กลายเป็นส่วนสนับสนุนสำคัญในยอดขายรวมของบริษัทกว่า 14% และกลายเป็นกำไรรวมถึง 24% เลยทีเดียว
สำนักข่าว Nikkei ยังรายงานเสริมว่า FUJIFILM ตั้งเป้าเพิ่มยอดขายจากธุรกิจ Instax เพียงอย่างเดียว ให้ถึงระดับ 1,040 ล้านเหรียญ (ประมาณ 37,000 ล้านบาท) ภายในปีงบประมาณปัจจุบัน (มีนาคม 2024) ซึ่งถ้าทำสำเร็จก็จะหมายถึงการโตขึ้นของ Instax ถึง 15% เมื่อเทียบกับปีงบประมาณที่แล้ว กลายเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญที่แสดงให้เห็นถึงแรงขับเคลื่อนจากธุรกิจ Instax ในการถ่ายภาพระดับ Consumer ที่เด่นชัดทีเดียว
รายงานยังระบุว่า FUJIFILM มองเห็นสัดส่วนการถ่ายภาพมากกว่า 1,000 ล้านภาพต่อปี และเชื่อว่าส่วนใหญ่มาจากสมาร์ตโฟนไม่ใช่ด้วยกล้องฟิล์ม Instant อย่างแน่นอน ซึ่งทางบริษัทเองก็มีวิธีแก้ปัญหานี้เช่นกัน ด้วยเครื่องพิมพ์ Instax ที่สามารถใช้ร่วมกับสมาร์ตโฟน และกล้องได้นั้นเอง
เพื่อที่จะเจาะตลาดใหญ่นี้ บริษัทได้ทำการขยายทีมให้ใหญ่ขึ้น พร้อมลงทุนกว่า 2,000 ล้านเยน (ประมาณ 490 ล้านบาท) ในโรงงาน Instax เมื่อปีที่ผ่านมา และยังจัดสรรเงินทุนเพิ่มอีก 4,500 ล้านเยน (1,100 ล้านบาท) สำหรับการขยายโรงงานในปีหน้า อีกทั้งยังมีเพิ่มการจ้างงานในส่วนบุคลากรเพิ่มขึ้นถึง 5 เท่า ในรอบ 10 ปี
ธุรกิจกลุ่ม Instax ของทาง FUJIFILM บอกเลยว่าไม่ใช่เล่นจริง ๆ ครับ อย่างในวงการไอดอลหรือวงการคอสเพลย์ก็มีใช้กันอย่างแพร่หลาย ถึงขนาดที่ว่าฟิล์ม Instax ขาดตลาดหาของได้ยาก และมีราคาแพงขึ้นอีกด้วย
ที่มา – PetaPixel
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส