ในยุคที่เทคโนโลยี AI เข้าถึงได้ง่าย ก็กลายเป็นว่ามีปัญหาภาพปลอมตามมา 3 แบรนด์กล้องยักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่น Sony, Canon และ Nikon จึงพัฒนาลายเซ็นดิจิทัลในกล้องถ่ายภาพ เพื่อให้สามารถแยกแยะภาพจริงกับภาพปลอมได้ง่ายขึ้น

อย่างกรณีวิดีโอปลอมจากเทคโนโลยี Deepfake ของอดีตประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) และนายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ (Fumio Kishida) ของญี่ปุ่น ที่กลายเป็นกระแสไวรัลในช่วงปีที่ผ่านมา ทำให้ตระหนักได้ถึงความอันตรายของเทคโนโลยี AI ในปัจจุบัน ที่อาจดูสมจริงเกินไปจนแยกแยะได้ยาก

สิ่งที่ 3 แบรนด์กล้องทำคือเตรียมนำเทคโนโลยีลายเซ็นดิจิทัลใส่ลงไปในกล้องมิเรอร์เลสของตัวเอง เพื่อให้ง่ายต่อการตรวจสอบ และป้องกันการปลอมแปลง Nikon เตรียมใช้ลายเซ็นดิจิทัลที่มีข้อมูลทั้งวันที่ เวลา สถานที่ และข้อมูลช่างภาพ ฝังลงไปในภาพถ่าย ส่วนของ Sony จะมีให้อัปเดตในกล้องเกรดโปร 3 รุ่น ช่วงฤดูใบไม้ผลิปี 2024 (มีนาคม – มิถุนายน) ที่จะถึงนี้ และยังพิจารณาจะใช้เทคโนโลยีเดียวกันในไฟล์วิดีโอ

การทำงานคือเมื่อส่งภาพไปยังองค์กรข่าวต่าง ๆ จะมีเซิร์ฟเวอร์ของ Sony ตรวจสอบว่าไฟล์ถูกปลอมแปลงหรือสร้างด้วย AI หรือไม่ โดยทาง Sony และ The Associated Press ได้ทดสอบเครื่องมือนี้แล้วเมื่อเดือนตุลาคม 2023 ที่ผ่านมา

Sony

ด้าน Canon ได้เตรียมเปิดตัวกล้องที่มีฟีเจอร์คล้ายกันในช่วงต้นปีนี้ครับ รวมถึงในด้านวิดีโอด้วยเช่นกัน โดยได้ร่วมมือกับ Thomson Reuters และ Starling Lab for Data Integrity ที่เป็นสถาบันที่ร่วมก่อตั้งโดย Stanford University และ University of Southern California พร้อมเตรียมเปิดตัวแอปที่สามารถระบุได้ว่าภาพถูกถ่ายโดยมนุษย์หรือไม่ อีกด้วยครับ

Canon
แอปตรวจสอบภาพจาก Canon ที่ช่วยระบุได้ว่าตัวภาพมีการเปลี่ยนแปลงจากต้นฉบับหรือไม่

ไม่เพียงแค่ค่ายกล้องเท่านั้นที่ออกมาต่อสู้กับคอนเทนต์ปลอมที่ถูกสร้างขึ้น

เมื่อเดือนสิงหาคม 2023 Google ได้ออกเครื่องมือฝังลายน้ำดิจิทัลลงในภาพที่ถูกสร้างด้วย AI ในปี 2022 Intel ได้พัฒนาเครื่องมือตรวจสอบโดยใช้การวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงของสีผิวรวมไปถึงระบบไหลเวียนของเลือด และ Hitachi ที่กำลังพัฒนาเทคโนโลยีป้องกันการปลอมแปลงสำหรับการยืนยันตัวตนแบบออนไลน์

ที่มา – Nikkei Asia

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส