ล่าสุด FUJIFILM ได้ออกมาเผยแพร่ผลประกอบการทางการเงินฉบับล่าสุด ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นไปในทิศทางบวกอย่างมากครับสำหรับธุรกิจด้านการถ่ายภาพ นอกจากนี้ยังมีการเผยแพร่ Q&A ที่ทางคุณเทอิจิ โกโต (Teiichi Goto) CEO ของ FUJIFILM ได้ออกมาให้คำตอบเรื่องสถานการณ์กล้องที่ขาดตลาดอยู่ในตอนนี้อีกด้วย
จากรายงานมีคำถามเกี่ยวกับด้านธุรกิจถ่ายภาพถูกถามเข้ามาครับ ว่า “เกี่ยวกับธุรกิจการถ่ายภาพในปีนี้ของฟูจิฟิล์มเองจะมีการเปลี่ยนแปลงด้านสินค้าคงคลังในกลุ่มกล้องดิจิทัล และ Instax หรือไม่ เพราะฟูจิฟิล์มเองก็น่าจะวางแผนเรื่องนี้ไว้ดีแล้ว เพราะฉะนั้นสามารถบอกเกี่ยวกับสถานการณ์ในปีนี้ได้หรือไม่ครับ?”
ทางคุณโกโตก็ได้ตอบกลับดังนี้ครับว่า “จุดที่สำคัญที่สุดคือการสร้างและรักษาความแข็งแกร่งของแบรนด์ไว้ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่น่าเสียดายที่ผลิตกล้องออกมามากเกินไป และต้องมาลดราคาภายหลัง ปัจจุบันต้องบอกว่าสิ่งที่ FUJIFILM พยายามมานานในที่สุดเป็นจริงแล้วครับ
หนึ่งก็คือกล้องที่มีฟีเจอร์โดดเด่น ยกตัวอย่างซีรีส์ GFX ที่มาพร้อมกับเซนเซอร์ขนาดใหญ่ ไซซ์ Medium Format ที่ได้รับความไว้วางใจอย่างมากในกลุ่มมืออาชีพและผู้ใช้งานทั่วโลก แม้ราคาจะค่อนข้างสูงแต่ก็ยังมีลูกค้าออร์เดอร์เข้ามาอย่างต่อเนื่อง และเลนส์ในซีรีส์นี้เองก็ขายดีเช่นกัน
รวมถึงซีรีส์ Instax ที่เป็นจุดสร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์ เรามีเป้าหมายที่จะไม่ลดมูลค่าของสินค้าที่ลูกค้าซื้อไปครับ เช่นเดียวกับแบรนด์เยอรมันอย่าง Leica ที่ยังสามารถรักษามูลค่าสินค้าที่สูงมากในกล้องทั้งยุคเก่าและรุ่นล่าสุดเอาไว้ได้ และนี่ก็คือเป้าหมายของเรา”
ทางผู้ถามก็ได้เน้นยำอีกรอบครับ ว่านี่คือสถานการณ์ปกติใช่หรือไม่ และทางฟูจิฟิล์มเองก็ได้ตอบกลับทันทีว่า “ใช่ครับ ปกติ”
สรุป
สรุปง่าย ๆ ว่าการผลิตมากเกินไปก็อาจต้องมาลดราคาสินค้าเพื่อเคลียร์ของค้างสต๊อกในภายหลัง ดังนั้นฟูจิฟิล์มก็น่าจะมีวิธีสมดุลปัญหาดังกล่าว แต่อย่างไรก็ตามด้าน FUJIFILM X100VI น่าจะเป็นผลมาจากความต้องการที่สูงขึ้นจนขาดตลาดมากกว่าตั้งใจครับ
สื่อดังอย่าง PetaPixel ให้ข้อมูลว่า ฟูจิฟิล์มสามารถผลิตกล้อง X100VI ได้ในจำนวน 15,000 ตัว/เดือน แต่สำหรับความต้องการในตลาดกลับสูงขึ้นถึง 2 เท่า เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน ดังนั้นจึงไม่แปลกใจครับที่จะหาของยาก รอของกันนานหลายเดือน หรือแม้แต่จะหาราคาปกติตอนเปิดตัวก็ทำได้ยากเช่นเดียวกัน
เพราะเหตุนี้เองจากที่คุณโกโตกล่าวมาวัตถุประสงค์คือไม่ใช่การสร้างชื่อเสียงจากเหตุการณ์ของขาดตลาด แต่เป็นการสร้างกล้องที่ช่างภาพต่างหลงรักต่างหากล่ะครับ !