‘เซนเซอร์รับภาพ’ ที่ใช้ทั้งในกล้องดิจิทัล และอุปกรณ์ต่าง ๆ มากมาย บอกเลยว่าการวิจัยพัฒนาเซนเซอร์นั้นใช้งบประมาณที่สูงเอามาก ๆ แบรนด์กล้องส่วนใหญ่จึงนิยมจ้างบริษัทที่มีเทคโนโลยีดังกล่าวอยู่แล้วในการผลิตให้แทน เช่น Sony Semiconductor
แต่สำหรับ Canon ถือเป็นข้อยกเว้นครับ และทางผู้บริหารก็ยังคงยึดมั่นในการพัฒนาเซนเซอร์รับภาพเพื่อใช้ในกล้องของตัวเองอย่างต่อเนื่อง
จากบทสัมภาษณ์ในงาน CP+ ช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ ระหว่างเว็บไซต์ PetaPixel และรองประธานบริหารฝั่ง Imaging Group ของ Canon คุณโก โทคุระ (Go Tokura) กล่าวว่า
“ใช่ครับ การพัฒนาเซนเซอร์รับภาพนั้นเป็นการลงทุนที่ค่อนข้างสูง ตอนนี้เรายังคงยึดมั่นในเส้นทางนี้เอาไว้ เพื่อพัฒนาเซนเซอร์ใช้ในกล้องของพวกเราเอง
“พวกเราต้องการที่รักษาแนวทางนี้ไว้ เพราะเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างความแตกต่าง อย่างที่พวกคุณเห็นเรามีฟีเจอร์ AF แบบ Cross-Type บนเรือธง EOS R1 ที่มีคุณภาพการโฟกัสที่เหนือชั้น”

ทาง PetaPixel ยังได้กล่าวถึง ‘เทคโนโลยี Global Shutter’ ที่ในขณะนี้มี Sony เพียวค่ายเดียวที่นำมาใช้กับกล้องระดับ consumer แต่ในขณะเดียวกัน Canon เองก็มีเซนเซอร์ที่ใช้เทคโนโลยีนี้มากมายในสายการผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมและวิทยาศาสตร์ ซึ่งคำถามคือ Canon เองจะนำเทคโนโลยีดังกล่าวมาใช้ในกล้องดิจิทัลของตัวเองด้วยหรือไม่ ?
คุณโทคุระก็ได้ตอบคำถามนี้ว่า “แน่นอน พวกเราเข้าใจดีถึงความสำคัญของ Global Shutter แต่ในทางเดียวกันมันค่อนข้างท้าทายพอสมควร อย่างปัญหาเรื่อง Dynamic range ที่ต้องแลกมากับเทคโนโลยีนี้ เรารับรู้เรื่องนี้ดี และจะพัฒนาหนทางที่จะปรับปรุงเรื่องนี้ต่อไปในเซนเซอร์ของพวกเราเอง”
อย่างที่หลายคนทราบกับเทคโนโลยีนี้ทำให้ประสิทธิภาพการถ่ายในที่แสงน้อย และ dynamic range ลดลงอีกด้วย อย่างในกล้อง Sony a9 III นั้นเองครับ เป็นราคาที่ต้องจ่ายเพื่อแลกกับความเร็วระดับสูงสุด และการที่ Canon ตอบเช่นนี้ และยังไม่นำมาใช้กับเรือธง EOS R1 ของตัวเองก็อาจหมายถึงในจุดนี้สิ่งที่ต้องแลกมามันยังไม่คุ้มค่าซักเท่าไร…
อีกด้านหนึ่งแม้ Canon จะไม่ได้ออกแบบให้ EOS R1 ผู้เป็นเรือธงใช้เซนเซอร์ความละเอียดสูงก็ตาม แต่ทางทีมงานยังได้สร้างเซนเซอร์หลาย ๆ แบบที่มีความละเอียดสูงกว่าที่ใช้ในกล้องตามตลาดมากเช่นกันครับ อย่างเซนเซอร์ฟูลเฟรม 410 ล้านพิกเซลที่เพิ่งประกาศเมื่อเดือนมกราคาที่ผ่านมา

โทคุระยังกล่าวอีกว่า “แม้เราจะไม่สามารถบอกถึงรายละเอียดเกี่ยวกับแผนงานผลิตภัณฑ์ในตอนนี้ได้ แต่เราต้องการใช้ประโยชน์จากเซนเซอร์ 410 ล้านพิกเซลที่มี และสำรวจต่อไปว่าสามารถนำมาใช้ร่วมกับการพิมพ์ขนาดใหญ่ขึ้น และความละเอียดสูงขึ้นได้อย่างไร นอกจากนี้เรายังปรับปรุงเฟรมเรต ความไวแสง และสัญญาณรบกวน เพื่อสำรวจต่อว่าเราจะสามารถนำคุณสมบัติเหล่านี้ไปใช้กับผลิตภัณฑ์ใดต่อไป”
“นอกจากนี้ เรายังกำลังพัฒนาเซ็นเซอร์สำหรับกล้องมิเรอร์เลสทั่วไป และเราจะพัฒนาเทคโนโลยีของเราต่อไปในลักษณะที่สามารถแบ่งปันกันได้ในทุกโดเมน” โทคุระกล่าว “เรายังไม่สามารถแบ่งปันแผนผลิตภัณฑ์เฉพาะใดๆ กับคุณในตอนนี้ได้ แต่เราต้องการใช้ประโยชน์จากความสามารถของเซ็นเซอร์ที่เรามีในเซ็นเซอร์ 410 เมกะพิกเซล และจะสำรวจต่อไปว่าเซ็นเซอร์นี้สามารถนำไปใช้กับผลิตภัณฑ์กล้องสำหรับการพิมพ์ขนาดใหญ่และความละเอียดที่ละเอียดขึ้นได้อย่างไร นอกจากนี้ เรายังต้องการปรับปรุงอัตราเฟรม ความไว และสัญญาณรบกวนของ SN ดังนั้น เราจะสำรวจต่อไปว่าผลิตภัณฑ์ใดที่เราจะสามารถนำคุณสมบัติเหล่านี้ไปใช้กับผลิตภัณฑ์ได้”
ในปัจจุบันค่าย Canon มีกล้องดิจิทัลสำหรับผู้ใช้ทั่วไปที่ความละเอียดสูงสุดแค่ 50 ล้านพิกเซลเท่านั้นครับ ทำให้หลายคนมองว่าการใช้เซนเซอร์ความละเอียดสูงนั้นเกิดปัญหาอะไรกับการทำกล้องความละเอียดสูงรึเปล่า ซึ่งก็ได้คำตอบออกมาดังนี้
“หากแค่ต้องการเพียงกล้องความละเอียดสูงเพียงอย่างเดียวพวกเราทำได้แล้ว อย่างไรก็ตาม หากต้องการกล้องที่ใช้เซนเซอร์ 100 ล้านพิกเซล ด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบัน เราเชื่อว่าจะต้องประนีประนอม (ลดทอน) กับปัจจัยด้านประสิทธิภาพอื่น ๆ มากมาย เช่นประสิทธิภาพความไวแสง การถ่ายภาพต่อเนื่อง, rolling shutter, ความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูล, ระยะเวลาในการบันทึกวิดีโอ รวมไปถึงปัจจัยอื่น ๆ เรื่องการระบายความร้อน และราคาของตัวกล้องที่คงต้องพุ่งสูงขึ้น และท้าทายต่อการนำไปใช้จริง จึงเป็นเหตุผลที่เราเชื่อว่าเทคโนโลยีนี้ยังเร็วเกินไปที่จะนำมาใช้”
“แต่เชื่อว่าในอนาคตพวกเราจะต้องทำได้แน่นอนครับ” โทคุระกล่าวทิ้งท้าย
สนใจอ่าน – ลองของจริงถึงข้างสนาม ! Canon EOS R1 เรือธงตัวท็อปสุด สำหรับสายถ่ายกีฬาตัวจริง