สาวกกล้องค่ายอื่นๆ ต้องอึ้งอีกครั้งเมื่อ Sony เปิดตัว a7R III กล้อง Mirrorless แบบ Fullframe ที่เน้นความละเอียดของภาพรุ่นใหม่ ที่แม้ความละเอียดภาพจะยังคงอยู่ที่ 42 ล้านพิกเซลเหมือน a7R II แต่ปรับปรุงให้โฟกัสเร็วขึ้น จุดโฟกัสมากขึ้น แบตเตอรี่อึดขึ้น ระบบป้องกันการสั่นไหวทำงานได้ดีขึ้น และที่เจ๋งสุดคือโหมดถ่ายภาพ Pixel Shift Multi shooting ที่ช่างภาพสถาปัตย์และวิวทิวทัศน์ต้องรักมัน!

ตอนนี้ก็ถือว่า Sony มีกล้องรุ่นท็อปตัวล่าสุดอยู่ 2 ตัวคือ Sony a9 กล้องสายโหดสำหรับช่างภาพที่ถ่ายต่อเนื่อง ด้วยความเร็ว 20 fps และ Sony a7R III กล้องสายละเอียด ที่เน้นให้ภาพนิ่งสวยที่สุด ละเอียดที่สุด

Play video

สเปกของ Sony a7R III

  • เซนเซอร์ BSI-CMOS ความละเอียด 42 ล้านพิกเซล ให้ภาพความละเอียด 7952 x 5304 pixel
  • ISO 100 – 32000 (ขยายได้เป็น 50 – 102400)
  • Sony เคลมว่าสามารถบันทึกแสงได้ 15 Stop เพื่อบันทึกลงเป็นไฟล์ RAW 14-bit
  • ระบบป้องกันภาพสั่นไหว 5 แกนที่เซนเซอร์ ชดเชยความสั่นไหวได้ 5.5 Stop (ของ a7R II ได้ 4.5 Stop)
  • ถ่ายภาพต่อเนื่องพร้อมเปิด auto-focus ด้วยความเร็ว 10 fps (รุ่นเดิม 5 fps)
  • จุดโฟกัส 425 จุด (รุ่นก่อนมี 399 จุด)
  • จอหลังความละเอียด 1.44 ล้านพิกเซล
  • EVF ความละเอียด 3.68 ล้านพิกเซล (รุ่นเดิม 2.36 ล้านพิกเซล)
  • ถ่ายได้ 650 ภาพต่อการชาร์จ 1 ครั้ง (รุ่นเดิม 290 ภาพ)
  • ใส่ SD ได้ 2 ช่อง รองรับ UHS-II และ UHS-I อย่างละช่อง
  • มีทั้ง USB-C และ MicroUSB ทำให้ชาร์จไป เสียบกับคอมไปก็ได้
  • น้ำหนัก 657 กรัม (รุ่นเดิม 625 กรัม)

สรุปสิ่งที่น่าตื่นเต้นของ Sony a7R III

 

หลายคนดูสเปกของ Sony a7R III แล้วอาจบอกว่างั้นๆ เหมือนเอา a7R II มาปรับปรุงนิดๆ หน่อยๆ แต่ความจริงแล้วกล้องตัวนี้มันโหดมาก ทั้งความละเอียด 42 ล้านพิกเซลที่มากอยู่แล้ว แต่ถ่ายภาพได้ความลึกของแสง 15 Stop ข้อมูลท่วมพอที่จะเอาไปขุดหรือแต่งภาพ HDR ได้สบายๆ แถมความละเอียดขนาดนี้ ยังสามารถถ่ายรัวได้ 10 fps ด้วย

ในส่วนของการถ่ายภาพก็สบายกว่าเดิม เพราะเมื่อหน่วยประมวลผลของกล้องเร็วขึ้น ระบบ Eye-AF ก็ทำงานได้ดีขึ้น สามารถติดตามการเคลื่อนไหวของดวงตาได้แม่นยำ ไม่หลุดโฟกัสดวงตาแม้ตัวแบบจะไปอยู่หลังวัตถุอื่นๆ จุดโฟกัสก็มากขึ้น แถมใน Sony a7R III ยังเพิ่มจอยสติกสำหรับเลือกจุดโฟกัสด้วย พร้อมจอสัมผัสเพื่อเลือกจุดโฟกัสได้อีกด้วย

การถ่ายวิดีโอก็ปรับปรุงให้ถ่าย 4K ได้คุณภาพสูงขึ้น ทั้งโหมด Full Frame และ Super 35 (ที่ครอปภาพเหลือประมาณ APS-C) แต่ก็ยังแนะนำว่าถ้าเป็นไปได้ก็ควรถ่ายแบบ Super 35 ดีกว่า และยังสามารถถ่ายวิดีโอ HDR แบบ Hybrid Log Gamma (HLG) ได้ในตัว แถมการถ่ายวิดีโอแบบ Full HD ก็สามารถถ่ายได้สูงสุดที่ 120 fps

โหมดไฮไลต์คือ Pixel Shift Multi shooting ที่ถ่ายภาพนิ่ง 4 ภาพด้วยการเคลื่อนเซนเซอร์ไปทีละ 1 พิกเซลเพื่อเก็บ 4 ภาพที่ตำแหน่งพิกเซลต่างกัน เพื่อเอามารวมให้เป็นภาพที่สมบูรณ์ ซึ่งโหมดนี้จะทำให้ภาพเก็บรายละเอียดได้มากกว่าเดิม แถมไม่มีปัญหา Moire ที่มักเกิดเวลาเราถ่ายภาพวัตถุที่มีลวดลายละเอียดมากๆ เอาเป็นว่าเล่าให้ฟังยาก ดูวิดีโอดีกว่าครับ เห็นภาพชัดเจน

Play video

แต่จุดอ่อนของ Pixel Shift Multi shooting ก็มีอยู่คือต้องใช้ขาตั้งกล้องถ่ายเท่านั้น เพราะกล้องต้องเก็บภาพอาจจะนานถึง 2 วินาที และตัวกล้องไม่สามารถรวมภาพให้เองได้ในกล้อง (ในตอนนี้นะ อนาคตอาจจะมีปรับปรุง) ผู้ใช้ต้องเอาไฟล์ RAW 4 ภาพจากกล้องมารวมเองด้วยโปรแกรมของ Sony ซึ่งแต่ต่างจากระบบของ Pentax ของ Olympus ที่ถ่ายภาพด้วยการเคลื่อนเซนเซอร์เหมือนกัน แต่รวมให้ได้ในกล้องเลย

ปิดท้ายด้วยเรื่องของราคา เปิดตัวเท่ากับ a7R II คือ $3199 หรือประมาณ 100,700 บาทครับ วางขายสิ้นเดือนพฤษจิกายนนี้ ก็ต้องรอดูราคาอย่างเป็นทางการจากโซนี่ไทยอีกครั้งครับ

อ้างอิง : DPreview