เปิดตัว DJI Mavic 3, Mavic 3 Cine โดรนตัวเทพ เซนเซอร์ 4/3 กล้องคู่ Hasselblad บินอึดถึง 46 นาที

DJI เปิดตัว ‘Mavic 3’ และ ‘Mavic 3 Cine’ โดรน 5.1K ที่มาพร้อมกล้องคู่ อัปเกรดเซนเซอร์รับภาพใหญ่ขึ้นเป็นขนาด Four Thirds (4/3), บินหลบสิ่งกีดขวางได้ดีกว่าเดิม พร้อมระยะเวลาการบินที่อึดขึ้นใช้งานได้นานถึง 46 นาที

กล้องคู่จาก Hasselblad ซูมไกล 28x

กล้องของ Mavic 3 และ Mavic 3 Cine เป็นแบบกล้องคู่ Hasselblad L2D-20c ที่เป็นการร่วมมือกับแบรนด์กล้องดัง Hasselblad พร้อมเทคโนโลยี Natural Color Solution (HNCS) ให้สีที่เที่ยงตรง

โดยที่เซนเซอร์กล้องหลักมีขนาดใหญ่ถึงระดับ Four Thirds ความละเอียด 20 ล้านพิกเซล รองรับการบันทึกวิดีโอ Raw 12-bit พร้อมเลนส์ระยะ 24mm (เทียบเท่าฟูลเฟรม) ปรับรูรับแสงได้ที่ระหว่าง F2.8-11

ในขณะที่กล้องรองมีขนาดเซนเซอร์อยู่ที่ 1/2 นิ้ว ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล พร้อมเลนส์เทเลโฟโต 162mm (เทียบเท่าฟูลเฟรม) ค่ารูรับแสงแบบ fix ที่ F4.4 ซึ่งกล้องทั้ง 2 ตัว สามารถซูมแบบ hybrid ได้ไกลสูงสุด 28x เลยทีเดียวครับ (optical + digital)

วิดีโอ 5K/50p ในรุ่น Mavic Cine 3 รองรับ ProRes 422 HQ bitrate สูง

สิ่งที่ Mavic 3 Cine ต่างจากตัวปกติคือเพิ่มตัวเลือกบันทึกวิดีโอแบบ ProRes 422 HQ ที่ bitrate สูงสุด 3,772 Mbps โดยที่ทั้ง 2 รุ่น สามารถบันทึกวิดีโอได้สูงสุดที่ความคมชัดระดับ 5.1K/50p, DCI, UHD 4K/120p, 1080p/200p codec H.264, H.265 แถมยังมีโพรไฟล์สี D-Log 10-bit มาให้ด้วยครับ

บินได้ไกล 30 กม. เร็วสูงสุด 75 กม./ชม.

ระบบส่งสัญญาณสำหรับ Mavic 3 ‘O3+ transmission system’ ส่งสัญญาณควบคุมได้ไกล 15 กม. พร้อมแสดงวิดีโอที่ 1080/60p โดยที่ตัวโดรนบินได้ไกลสุดถึง 30 กม. และบินได้เร็วสูงสุดถึง 75 กม./ชม. ในโหมด Sport

หน่วยความจำภายใน 8GB / รุ่น Cine 1TB SSD รองรับไฟล์ใหญ่ ProRes 422 HQ

ในรุ่นปกติมาพร้อมหน่วยความจำภายใน 8GB เท่านั้นครับ ต่างจากรุ่น Cine ที่ใส่มาให้ถึง 1TB แบบ SSD สำหรับรองรับวิดีโอไฟล์ใหญ่ ๆ อย่าง ProRes 422 HQ โดยที่ตัว CIne ยังมีสาย 10Gbps Lightspeed Data Cable มาให้ย้ายไฟล์ลงคอมหรือหน่วยความจำภายนอกอื่น ๆ ได้เร็วยิ่งขึ้น

Controller ใหม่ ‘RC Pro’ สำหรับรุ่น Cine

Mavic 3 รุ่นปกติยังคงใช้ controller เดิมแบบเดียวกับรุ่น Air 2S และ Mini 2 ผิดกับรุ่น Cine ที่มาพร้อม controller ใหม่ ‘RC Pro’ จอ 5.5 นิ้ว สว่างถึง 1000-nit

ระบบตรวจจับสิ่งกีดขวาง APAS 5.0, ActiveTrack 5.0

ในโดรนทั้ง 2 รุ่น ยังมาพร้อมระบบตรวจจับสิ่งกีดขวาง Advanced Pilot Assistance Program (APAS) 5.0 ที่ทำงานร่วมกับเซนเซอร์ fisheye ถึง 6 ตัว และเซนเซอร์มุมกว้างอีกถึง 2 ตัว ช่วยให้การบินหลบสิ่งกีดขวางทำได้ราบรื่นมากยิ่งขึ้น และยังอัปเกรดระบบ ActiveTrack มาเป็น 5.0 แล้วครับ ติดตามวัตถุได้อย่างแม่นยำกว่าเดิมแม้จะหลุดเฟรมไปแล้วก็ตาม

ปรับปรุงระบบ Return To Home (RTH) ปลอดภัยกว่าเดิม

ระบบ RTH ถูกปรับปรุงใหม่ให้บินกลับจุดเริ่มต้นในเส้นทางที่สั้น และปลอดภัยกว่าเดิม ร่วมกับการคำนวณแรงลม และเซนเซอร์ตรวจจับสิ่งกีดขวางที่ทำงานได้ไกลถึง 200 เมตร

รองรับระบบระบุพิกัด GPS, GLONASS และ BeiDou

Mavic 3 ยังรองรับระบบระบุพิกัดตั้งแต่ GPS, GLONASS และ BeiDou เพื่อความแม่นยำ โดยยังมีระบบ AirSense คอยเตือนเครื่องบินขนาดเล็กหรือเฮลิคอปเตอร์ที่เข้ามาใกล้เพื่อความปลอดภัยอีกด้วย

แบตอึดบินได้นาน 46 นาที

แบตเตอรี่มาในขนาด 5000mAh บินได้นานสูงสุดถึง 46 นาที พร้อมน้ำหนักตัวโดรนที่เบาขึ้นกว่ารุ่น Mavic 2 เล็กน้อย ที่ 895 กรัม

โหมด Intelligent Flight ทำให้ชีวิตง่ายกว่าเดิม

Mavic 3 ยังมาพร้อมโหมด Intelligent Flight อำนวยความสะดวกตั้งแต่ ‘MasterShots’ โดรนจะบินเองโดยอัตโนมัติ และรวมวิดีโอให้ทันที พร้อมแชร์ได้อย่างรวดเร็ว, ‘Panorama’ และ ‘QuickTransfer’ โอนข้อมูลไปยังสมาร์ตโฟนได้อย่างรวดเร็วผ่านระบบ Wi-Fi 6