Apple กับข่าวลือถือเป็นของคู่กัน ก่อนการเปิดตัวผลิตภัณฑ์อะไรก็ตาม มักมีกระแสเล็ก ๆ บนโลกออนไลน์อยู่เสมอ ตั้งแต่การเปิดตัว iPhone, iPad หรือ Apple Watch ที่ล้วนมีคนพูดถึงว่า Apple กำลังซุ่มทำอะไรเงียบ ๆ อยู่หลังม่าน ถ้าเป็นตอนนี้ก็คือ Apple Car ฮือฮากันว่ามีโอกาสเป็นไปได้สูงที่จะเกิดขึ้นจริง ๆ แต่มีอีกเรื่องหนึ่งที่คนเริ่มพูดกันมาได้สักพักแล้ว นั่นคือ “Apple Search Engine” ที่ดูมีโอกาสจะไม่ใช่แค่ข่าวซุบซิบอีกต่อไป ในอนาคตเราอาจเห็น Apple ปะทะกับ Google เพื่อชิงบัลลังก์เจ้าแห่ง Search Engine ก็ได้
ข่าวนี้เริ่มมีคนพูดถึงกันมากขึ้นในช่วงประมาณปีก่อนที่เจ้าของเว็บไซต์หลายแห่งเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงบางอย่างใน Apple ที่ชัดเจนที่สุดคือ AppleBot (โปรแกรมเว็บครอว์เลอร์ – Web Crawler) ที่มีหน้าที่ในการไปสำรวจและเก็บข้อมูลตามเว็บไซต์ต่าง ๆ ทั่วอินเทอร์เน็ต) มีความแอ็กทีฟมากขึ้นแบบเห็นได้ชัดกว่า 5 ปีก่อนหน้านี้ รายงานจากเว็บไซต์ MacRumors บอกว่ามีเจ้าของเว็บไซต์หลายแห่งอย่าง CoyWolf และวิศวกรจากบริษัท Stack Overflow ก็สังเกตเห็นเรื่องนี้เช่นกัน ที่น่าตกใจคือว่าบอตตัวนี้จากที่ไม่เคยเข้ามาเลย จู่ ๆ ก็เพิ่มเป็น 6,000 – 7,000 ครั้ง
หน้าที่ของ AppleBot หรือเว็บครอว์เลอร์แบบนี้คือการสแกนเว็บเพื่อจัดเรียงอันดับการแสดงผลเมื่อมีคนค้นหาข้อมูลบางอย่างบน Search Engine ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลาย ๆ อย่างเช่นคนที่เข้ามาใช้เวลานานแค่ไหน คีย์เวิร์ดที่ค้นหาตรงกับหัวข้อและคอนเทนต์มากแค่ไหน มีคนเอาลิงก์นี้ไปแชร์เยอะหรือเปล่า การวางหน้าเพจและคอนเทนต์ให้เหมาะกับการอ่านหรือเปล่า ฯลฯ
นอกจากตัว AppleBot ที่แอ็กทีฟเป็นพิเศษแล้ว ยังมีการจ้างงานในตำแหน่งที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนา Search Engine โดยตรงเข้ามาเพิ่มหลายตำแหน่ง ที่โดดเด่นเลยคือ จอห์น เจียนนันเดรีย (John Giannandrea) อดีตผู้นำของ Google Search ที่มาร่วมงานตั้งแต่ปี 2018
ตอนนี้อาจเริ่มสงสัยว่าแล้วทำไมเรายังไม่เห็น Search Engine ของ Apple สักทีล่ะ?
แน่นอนว่ามันไม่ใช่ปัญหาเรื่องเงิน ด้วยรายได้และขนาดของบริษัท Apple คงเป็นเพียงไม่กี่บริษัทในโลกนี้ที่สามารถเข้ามางัดข้อกับ Google ได้อย่างจริงจัง แต่ปัญหามันอยู่เรื่องกฎหมายและข้อตกลงระหว่างสองบริษัทนี้ต่างหาก เพราะตอนนี้จากรายงานของหนังสือพิมพ์ ‘The New York Times’ บอกว่า Google แบ่งรายได้โฆษณาให้กับ Apple ปีละ 8,000 – 12,000 ล้านเหรียญ เพื่อจะได้เป็น Default Search Engine บนอุปกรณ์ต่าง ๆ ของ Apple (เป็น Search Engine ที่ติดตั้งมาจากโรงงานเป็นค่าตั้งต้น) บางแหล่งข่าวบอกว่าอาจสูงถึง 15,000 ล้านเหรียญในปี 2021 เลยทีเดียว
ในข้อตกลงนี้เองมีหมายเหตุอันหนึ่งนั่นคือ Apple ไม่สามารถสร้าง Search Engine ของตัวเองได้ คำถามที่น่าจะเกิดขึ้นในหัวตามมาคือแล้วทำไม Apple ถึงต้องทำ Search Engine เองในเมื่อได้เงินเยอะขนาดนี้ ไม่ต้องทำอะไรก็ได้หรือเปล่า?
คำตอบคือ “ใช่ครับ” ถ้าทุกอย่างยังดำเนินต่อไปแบบนี้ Apple คงไม่มีความจำเป็นต้องสร้าง Search Engine ของตัวเอง แต่ปัญหามันเกิดขึ้นในช่วงสองสามปีที่ผ่านมาที่ Google โดนฟ้องในข้อหาการผูกขาดทางด้านตลาด ซึ่งถ้าเกิดถูกตัดสินว่าทำผิดและข้อตกลงระหว่าง Apple กับ Google ต้องยุติลง เพื่อให้การแข่งขันในตลาดมีความยุติธรรม นั่นหมายความว่า Apple จะต้องหา Search Engine ใหม่ แล้วถ้าเป็นแบบนั้นทำไมถึงไม่ทำ Search Engine ของตัวเองไปเลยดีกว่า?
พอมองจากมุมนี้ความเป็นไปได้เริ่มชัดเจนมากขึ้น และที่จริงแล้ว Apple ก็ไม่ได้เป็นน้องใหม่ทางด้าน Search Engine ซะทีเดียว มันอยู่ในคราบของฟีเจอร์ที่เรียกว่า “Spotlight” ที่หลายคนน่าจะรู้จักกันดี มันถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่ปี 2004 เป็นเครื่องมือสำหรับการค้นหา ‘ทุกอย่าง’ บนคอมพิวเตอร์ ตั้งแต่รูปภาพ เอกสาร แอปพลิเคชัน เพลง และคำสั่งตั้งค่าต่าง ๆ
แต่ตอนนี้ถ้าใครใช้ Spotlight อยู่จะทราบดีว่ามันสามารถทำได้มากกว่าแค่ค้นหาไฟล์แล้ว สามารถค้นหาสถานที่ต่าง ๆ, พอดแคสต์, เพลง, แผนที่, แอปพลิเคชัน, ภาพบนเว็บ และอื่น ๆ อีกเยอะแยะมากมาย ที่น่าสนใจคือมันมีความคล้ายกับการค้นหาด้วย Google ไม่น้อยเลย
มีคนคาดการณ์ว่าเราน่าจะได้เห็น Apple Search Engine ในอีกไม่นานต่อจากนี้ นักเขียนผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับเรื่องเทคโนโลยีอย่าง โรเบิร์ต สโกเบิล (Robert Scoble) ได้ทวีตเอาไว้เมื่อช่วงเดือนพฤษภาคมปี 2022 ว่า
“โอ้ว และเดี๋ยวเราน่าจะได้เห็น Search Engine ใหม่กันด้วย ในที่สุด Siri จะฉลาดขึ้นหรือเปล่านะ?”
สโกเบิลคาดการณ์จากสิ่งที่ได้ยินมาและบทสนทนากับคนวงในของบริษัท ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงว่าจะเกิดขึ้นเร็ว ๆ นี้ สำหรับผู้ใช้งานอย่างเราก็น่าสนใจว่าถ้าเกิดมีคู่แข่งของ Google ออกมาจะเป็นยังไง? เราจะเปลี่ยนไปใช้เจ้าใหม่ไหม?
ที่มา: MacRumors, CoyWolf, Medium
Search Engine Land, The New York Times, Twitter
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส