หลังจากที่ซัมซุง (Samsung) ได้ออกอัปเดตซอฟต์แวร์ให้กับสมาร์ตโฟนเรือธงอย่าง Samsung Galaxy S22 Ultra เพื่อแก้ปัญหาด้านซอฟต์แวร์ภายในเครื่องต่าง ๆ แต่ที่เป็นที่น่าสังเกตในกลุ่มผู้ใช้รุ่นนี้ก็คือ มีคนชมว่าหลังจากอัปเดตแล้ว สามารถถ่ายภาพได้ดีขึ้นจริง โดยเฉพาะในกล้องเทเลโฟโต้ และยังมีการอัปเดตอื่น ๆ อีก ประจวบเหมาะว่าผู้เขียนใช้ Samsung Galaxy S22 Ultra อยู่พอดี จึงมาขอแบไต๋พิสูจน์กันว่าอัปเดตแล้วดีขึ้นจริงหรือไม่ !
โดยอัปเดตนี้ตามข้อมูลจากทาง Samsung บอกว่า เป็นอัปเดตที่อยู่ในรุ่น S908EXXU2AVH9 สำหรับ Samsung Galaxy S22 Ultra รหัส SM-S908E ที่ออกเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม ที่ผ่านมา โดยมาพร้อมกับอัปเดตความปลอดภัยของเดือนสิงหาคม 2565 ด้วยนะ
แล้วอัปเดตที่เข้ามานั้น นอกจากความปลอดภัยแล้ว มีอะไรใหม่บ้างนะ ? เท่าที่ผู้เขียนได้ลองค้นหาข้อมูลมา สิ่งที่ได้รับการอัปเดตนั้นจะประกอบไปด้วย :
- ปรับปรุงประสิทธิภาพของวีดีโอให้ดีมากยิ่งขึ้น
- ปรับปรุงความคมชัดและสีให้เป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้นในเลนส์ เทเลโฟโต้ และ เลนส์มุมกว้าง (Ultra Wide)
- เพิ่มประสิทธิภาพ AI ให้ทรงพลังมากยิ่งขึ้น ในโหมดกลางคืน ทั้งในรูปแบบ ภาพนิ่งและ วีดีโอ
- เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ เทเลโฟโต้ สามารถถ่าย Hyperlapse ได้แล้ว และในอนาคตจะมีฟีเจอร์ Astro Hyperlapse เพิ่มเข้ามาอีกด้วย
- ปรับปรุงความสามารถให้สแกน QR Code ได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น
เดี๋ยวเราลองมาดูกันทีละอย่างเลย !
กล้องถ่ายภาพดีขึ้นหลังอัปเดต ?
สิ่งที่ได้รับการอัปเดตมานั้นจะเกี่ยวข้องกับ การปรับปรุงความคมชัดและสี ในเลนส์มุมกว้าง ซึ่งผู้เขียนเลยได้ลองถ่ายภาพในหลากหลายมุมเพื่อมาเปรียบเทียบกัน ซึ่งแม้จะไม่ได้ถ่ายในเวลาเดียวกันเป๊ะ แต่จะถ่ายให้เวลาใกล้กันมากที่สุดในสภาพแสงธรรมชาติ และจัดแสงให้คล้ายกันที่สุดในสภาพแสงไฟที่จัดไว้ โดยผู้เขียนขอลงภาพเปรียบเทียบเอาไว้ตามนี้เลย ! (ทุกภาพสามารถกดที่ภาพเพื่อดูภาพใหญ่ได้นะ)


ภาพต่อไปจะเป็นภาพที่ผ่านการซูม 3 เท่าแล้ว :


ต่อด้วยภาพที่ใช้สภาพแสงธรรมชาติในการถ่ายวัตถุในระยะ 1x และ 3x




ซึ่งภาพที่ได้จากการลองเทียบภาพระหว่างซอฟต์แวร์เก่าและใหม่ ก็พบว่า ถ้าเป็นการถ่ายในสภาพแสงธรรมชาติ เช่นการถ่ายท้องฟ้าในเวลากลางวัน ภาพถ่ายที่ได้จะมีสีที่ค่อนข้างจืดลง เหมือนเป็นภาพที่มีการลดความอิ่มตัวของสี (Saturation) ลงไปด้วย แม้ภาพที่ได้จะดูสีจืดลง แต่ก็จะได้ภาพที่ตรงตามความเป็นจริงมากขึ้น และภาพก็จะเหมาะแก่การนำไปตกแต่งเพิ่มเติมในแอปพลิเคชันแต่งภาพ หรือโปรแกรมแต่งภาพอื่น ๆ ตามมา
ส่วนภาพที่เป็นสภาพแสงที่จัดเอาไว้แล้ว จะเห็นว่าภาพไม่ได้มีความแตกต่างจนเป็นนัยยะสำคัญมากนัก ซึ่งภาพที่ได้สามารถดูภาพในบทความนี้ประกอบได้เช่นเดียวกัน ส่วนในเรื่องของภาพถ่ายหลังจากอัปเดตซอฟต์แวร์ ผู้เขียนได้นำมาให้ได้ชมกันแล้ว ตามภาพเลย !




ส่วนภาพถ่ายอื่น ๆ ที่ถ่ายหลังจากอัปเดตซอฟต์แวร์แล้ว ได้ภาพตามนี้เลย !




แล้วการถ่ายวิดีโอเป็นอย่างไรบ้าง
ในการถ่ายวิดีโอนั่น ฟีเจอร์ใหม่ที่เพิ่มเข้ามาก็คือโหมด Hyperlapse วิดีโอในเลนส์ Telephoto หรือการถ่ายวิดีโอแบบเร่งความเร็วในเลนส์ซูมนั่นเอง ซึ่งภาพที่ได้อยากให้ลองดูจากในคลิปด้านล่างเลย ภาพที่ได้จะมีการซูมเข้าไปในแบบที่ไม่ใช่การครอปภาพเข้ามา ทำให้รายละเอียดของภาพนั้นยังดีอยู่อีกด้วย ส่วนคุณภาพของวิดีโอ ก็ขึ้นอยู่กับความนิ่งของมือเราเวลาถ่าย ซึ่งถ้าใช้การถ่ายกับขาตั้งกล้อง ภาพที่ได้จะนิ่งกว่านี้อย่างมากเลย แต่ตอนนี้ก็ถือว่าทำได้ค่อนข้างดีอยู่นะ
การสแกน QR Code ดีขึ้นจริงไหม
คนที่ใช้ Samsung Galaxy S22 Ultra จะรู้กันเป็นอย่างดีว่า ด้วยขนาดของเลนส์ที่ค่อนข้างใหญ่ จะทำให้การถ่ายเพื่อสแกน QR Code นั้นเป็นไปได้ค่อนข้างยาก ซึ่งหลังจากที่ได้อัปเดตมาแล้ว ผู้เขียนก็ได้ใช้งานแอปพลิเคชันเป๋าตัง ในการสแกนเพื่อใช้จ่ายผ่านโครงการคนละครึ่ง ซึ่งถ้าสังเกตดี ๆ จะเห็นว่า QR Code ของโครงการนั้นมีข้อมูลที่ค่อนข้างมาก ทำให้ขนาดของ QR Code นั้นใหญ่ไปด้วย และการสแกน QR Code ในแอปฯ ก็ยังคงทำได้อย่างค่อนข้างลำบากอยู่ รวมถึงการสแกนจ่ายเงินผ่าน Prompt Pay ก็ยังคงสแกนได้ยากในบางช่วงเช่นเดิม จุดที่จะดีขึ้นเล็กน้อยคือการสแกน QR Code เพื่อเข้าเว็บไซต์ผ่านแอปพลิเคชันกล้องถ่ายภาพมากกว่าที่จะเป็นการปรับปรุงการสแกน QR Code ในตัวกล้องถ่ายภาพเอง
ทั้งนี้ ผลการทดลองที่อยู่ในบทความนี้ มาจากประสบการณ์ของผู้เขียนเท่านั้น ซึ่งผลการใช้งานจริง อาจจะเกิดความแตกต่างขึ้นได้กับแต่ละบุคคล บทความนี้เป็นเพียงหนึ่งในตัวอย่างของประสบการณ์จากผู้ใช้งานเท่านั้น