การถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอที่สวยงาม เป็นนิพพานอย่างหนึ่งของการถ่ายรูปในยุคนี้นะครับ เพราะที่ผ่านมาในยุคของกล้องฟิล์ม ที่มีฟิล์มขนาดใหญ่ เลนส์ที่มีรูรับแสงกว้างทำให้ฉากหลังเบลอได้ง่ายหรือที่เรียกว่าชัดตื้น จนหลายคนต้องเรียนรู้วิธีให้ภาพมีระยะชัดลึกมากขึ้นเลย แต่ในยุคดิจิทัลที่ขนาดเซนเซอร์รับภาพเล็กกว่ายุคฟิล์มมาก ภาพก็เลยหน้าชัด หลังเบลอสวยๆ ได้ยากกว่าเยอะครับ ก็ต้องใช้เทคนิคหรือซอฟต์แวร์ช่วยกันหลายขนานเลยทีเดียว
คำว่าโบเก้ (Bokeh) นั้นมีรากศัพท์มาจากภาษาญี่ปุ่นคือ ボケ แปลตรงตัวก็คือความเบลอของฉากหลังนั้นแหละครับ แต่ในเชิงของการถ่ายรูปแล้วจะหมายถึงวงแสงสว่างๆ ที่อยู่ในฉากหลังเบลอๆ ของภาพถ่าย เลนส์แต่ละตัวก็จะให้ลักษณะโบเก้ที่แตกต่างกันไป ซึ่งโบเก้พิมพ์นิยมคือเป็นจานวงกลมสมบูรณ์ แต่เลนส์บางชนิดอย่างเลนส์กระจกก็จะให้โบเก้เป็นรูปโดนัท หรือเลนส์พิเศษอย่าง Petzval ก็จะให้โบเก้ที่ดูเหมือนภาพหมุน
ภาพบนเป็นโบเก้โดนัทของเลนส์กระจก ภาพล่างเป็นโบโก้เกลียวของเลนส์ Patzval
หลักพื้นฐานให้ถ่ายหน้าชัด หลังเบลอ
การจะถ่ายให้ฉากหน้าที่ต้องการชัด แล้วพื้นหลังเบลอเพื่อขับตัวแบบให้เด่นนั้นมีหลักพื้นฐานดังนี้ครับ
- ยิ่งวัตถุใกล้เลนส์เท่าไหร่ ระยะชัดยิ่งต่ำ ฉากหลังยิ่งเบลอง่าย
- ยิ่งเปิดหน้ากล้องหรือ f-stop กว้างเท่าไหร่ (คือ f-stop ที่ค่าน้อยเท่าไหร่) ฉากหลังยิ่งเบลอง่าย
- ยิ่งเราใช้เลนส์ที่มีทางยาวโฟกัสมากเท่าไหร่ ฉากหลังยิ่งเบลอง่าย
- ยิ่งตัวแบบห่างจากฉากหลังเท่าไหร่ ฉากหลังยิ่งเบลอง่าย
เฉพาะฉะนั้นสถานการณ์ในอุดมคติที่ให้ฉากหลังเบลอได้มากที่สุดคือ ซูมกล้องให้มากที่สุด (ซูมเลนส์นะครับ ไม่ใช่ซูมดิจิทัล) ตั้งกล้องให้ f-stop ต่ำที่สุด เดินเข้าใกล้แบบที่สุด และให้แบบอยู่ห่างจากฉากหลังมากที่สุดครับ ซึ่งวิธีนี้ใช้กับกล้องตัวไหนบนโลกก็ได้ ลองไปประยุกต์ใช้กันดูนะครับ
จากการเซ็ตถ่ายด้านบน ฉากหลังก็เบลอได้อย่างสวยงาม โดยไม่ต้องใช้โหมดเร่งด้วยซ้ำ
Huawei P9 กับโหมดละลายฉากหลัง
สำหรับคนที่ใช้สมาร์ทโฟนยุคปัจจุบันอย่าง Huawei P9 นั้นจะมีวิธีลัดในการถ่ายหน้าชัดหลังเบลออยู่นะครับ โดยด้านบนของแอปกล้องจะมีไอคอนรูปรูรับแสงอยู่ เมื่อแตะจะเป็นการใช้โหมดละลายหลังครับ แล้วเมื่อเราโฟกัสจุดใดๆ ในภาพจะสามารถเลื่อนแถบข้างๆ จุดโฟกัสเพื่อจำลองการเบลอหลังแบบเลนส์จริงๆ ได้ ซึ่งสามารถจำลองได้เสมือนใช้เลนส์ f/0.95 เลยแหละครับ ก็สามารถดูวิธีการใช้งานจากวิดีโอของหัวเว่ยด้านบนได้เลย
แต่การจะใช้งานโหมดละลายหลังให้เนียนก็มีข้อควรรู้ดังนี้ครับ
- Huawei P9 กับแบบไม่ควรอยู่ห่างเกิน 2 เมตร
- วัตถุควรห่างจากฉากหลังพอสมควร
- ใช้โหมดละลายฉากหลังแต่พอสมควร เพราะถ้าเร่งมากไปจะดูไม่เนียนครับ
ความเจ๋งอีกอย่างของโหมดละลายฉากหลังใน P9 คือเราสามารถเข้าไปเลือกจุดโฟกัสใหม่หลังจากถ่ายรูปแล้วได้ด้วยนะครับ กดปุ่มรูปรูรับแสงจากแอปดูภาพนั้นแหละ แถมยังใส่เอฟเฟกพิเศษต่างๆ ให้ฉากหลังได้ด้วย เช่น ทำให้ฉากหลังเป็นขาว-ดำ หรือทำให้สีสดขึ้น ก็ถือเป็นฟีเจอร์ของ P9 ที่น่าสนใจนะครับ แต่โหมดนี้จะมีข้อจำกัดอยู่หน่อยตรงที่ไม่สามารถเปิดการควบคุมแบบ Pro ที่ปรับความเร็วซัตเตอร์ ความสว่างของภาพมาใช้คู่กันได้
ทำฉากหลังให้เป็นภาพขาวดำแบบนี้ได้ด้วย
ทาง Huawei ยังจัดรูปสวยๆ จาก P9 ให้ดูกันได้ใน Huawei P9 Gallery นะครับ ก็ลองแวะเวียนเข้าไปดูกันได้ แล้วสัปดาห์หน้าพบกับบทความแนะนำเทคนิคการถ่ายรูปกันใหม่เป็นตอนสุดท้ายแล้ว กับเรื่องการถ่ายภาพกลางคืนให้สวยสด อย่าลืมแวะเข้ามาติดตามกันนะครับ