ปีใหม่ ได้เวลามือถือใหม่ ! ผู้เขียนเองก็ได้รับคำถามเรื่องการเลือกซื้อสมาร์ตโฟนจากหลาย ๆ คนเหมือนกันว่า มีงบเท่านี้ซื้อมือถือรุ่นไหนดี หรือ ถ้าอยากได้ฟีเจอร์ประมาณนี้ต้องซื้อมือถือรุ่นไหน ดังนั้นในบทความนี้เราจะมาแนะนำ 5 สมาร์ตโฟนในงบราคาไม่เกิน 20,000 บาท ที่บอกเลยว่าอ่านจบ กำเงินไปซื้อได้เลย !
สมาร์ตโฟนสำหรับสายกล้อง – vivo V25 Pro
มาเริ่มกันที่รุ่นแรก สำหรับใครที่ชอบในการถ่ายภาพเป็นพิเศษ แต่งบประมาณไม่ได้สูงมาก อยากถ่ายภาพคนให้ถูกใจ ลูกเล่นถ่ายภาพคนเยอะ ๆ รวมถึงอยากได้สมาร์ตโฟนที่เราสามารถถือใช้ในชีวิตประจำวันและเอาไปถ่ายภาพได้ ขอแนะนำเป็น vivo V25 Pro เลย ! ด้วยฟีเจอร์กล้องที่จัดเต็ม ทั้งเลนส์หลักขนาด 64 ล้านพิกเซล f/1.89 ที่มาพร้อมกันสั่นแบบ OIS หรือกันสั่นที่ตัวเลนส์ด้วย, เลนส์มุมกว้าง ขนาด 8 ล้านพิกเซล f/2.2 และเลนส์มาโครขนาด 2 ล้านพิกเซล f/2.4 ที่แม้จะไม่ได้เน้นถ่ายมาโครมาก แต่แค่ใช้เลนส์หลักในการถ่ายภาพคนใน vivo V25 Pro เครื่องนี้จะช่วยให้การถ่ายภาพคนสนุกกว่าที่เคยแน่นอน ! รุ่นนี้แบไต๋เรามีรีวิวให้ได้ดูด้วยนะ !
สเปกตัวเครื่องของ vivo V25 Pro
- หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.56 นิ้ว รีเฟรชเรต 120Hz รองรับ HDR 10+ ความละเอียด 2,376×1,080 (FHD+)
- ชิปเซต Mediatek Dimensity 1300 Octa-core รองรับ 5G
- แรมขนาด 12 GB
- หน่วยความจำขนาด 256 GB
- กล้องหลัง 3 ตัว โดยกล้องหลักความละเอียด 64 ล้านพิกเซล (f/1.89) + กล้องถ่ายภาพ Ultra-Wide ขนาด 8 ล้านพิกเซล (f/2.2) และกล้องมาโคร ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล (f/2.4)
- กล้องหน้าขนาด 32 ล้านพิกเซล (f/2.45) ที่มีออโต้โฟกัสที่ตา
- แบตเตอรี่ขนาด 4,830 mAh มาพร้อมมาตรฐานการชาร์จไว 66W FlashCharge
- ลำโพงเดี่ยวบริเวณด้านล่างของตัวเครื่อง
- น้ำหนัก 190 กรัม วัสดุฝาหลังเป็นกระจกขัดด้าน Fluorite AG Glass ที่เปลี่ยนสีได้ มาใน 2 สี : สีฟ้า Surfing Blue และสีดำ Starlight Black
- มีเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านในของหน้าจอ (Optical Fingerprint Scanner)
- ซอฟต์แวร์ Funtouch OS 12 (Based on Android 12)
- ราคาวางจำหน่ายในประเทศไทย 19,999 บาท
แม้ราคาเต็มจะอยู่ที่ 19,999 บาทก็ตาม แต่ด้วยความที่รุ่นนี้เปิดตัวมาแล้วซักพัก อาจจะมีการจัดลดราคาอยู่เรื่อย ๆ แน่ ทำให้ใครที่อยากได้รุ่นนี้ อาจจะหาได้ในราคาที่ถูกกว่านี้ก็ได้นะ !
สมาร์ตโฟนสำหรับคนอยากได้ความแตกต่าง – Nothing Phone (1)
ถ้าพูดถึงสมาร์ตโฟนราคาไม่เกิน 2 หมื่น หลาย ๆ คนต้องนึกถึงรุ่นนี้กันแน่ ๆ กับสมาร์ตโฟนรุ่นแรก โดยผู้นำรุ่นเก๋าจาก OnePlus สู่แบรนด์แยกของตัวเอง ‘Nothing’ ที่ออกสมาร์ตโฟนรุ่นแรกมาก็ได้ความแตกต่างเลย ด้วย Nothing Phone (1) รุ่นนี้ถ้าใครซื้อไปใช้ บอกได้เลยว่าไม่ว่าใครมาเห็นจะต้องรู้สึกถึงความแตกต่างแน่นอน ด้วยดีไซน์ฝาหลังที่เพิ่มความแตกต่างด้วยไฟ ‘Glyph Interface’ ที่จะขึ้นทุกครั้งที่มีการแจ้งเตือน เตือนการโทรเข้าที่ไฟกะพริบตามจังหวะ หรือแจ้งสถานะการชาร์จไฟ เป็นต้น
และแม้ว่ารุ่นนี้จะเป็นรุ่นที่ไม่ได้มีสเปกตัวเครื่องที่หวือหวาอะไร แต่ว่าในรุ่นนี้ก็ยังให้สเปกที่ค่อนข้างดีอยู่ ด้วย CPU Qualcomm Snapdragon 778+ ที่แม้จะเป็นรุ่นเก่าแล้ว แต่ก็ยังใช้งานได้ดีอยู่ และด้วยซอฟต์แวร์ของตัวเครื่องที่ไม่มี Bloatware หรือโปรแกรม โฆษณาใด ๆ เลย และซอฟต์แวร์กล้องที่ถือว่าใช้ได้ในชีวิตประจำวัน ทำให้ Nothing Phone (1) เป็นสมาร์ตโฟนที่น่าสนใจรุ่นหนึ่งเลย
สเปกตัวเครื่องของ Nothing Phone (1)
- หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.55 นิ้ว รีเฟรชเรต 120Hz รองรับ HDR 10+ ความละเอียด 2,400×1,080 (FHD+)
- ชิปเซต Qualcomm Snapdragon 778G+ Octa-core รองรับ 5G
- แรมขนาด 8, 12 GB
- หน่วยความจำขนาด 128, 256 GB
- กล้องหลัง 2 ตัว โดยกล้องหลักใช้เซนเซอร์ Sony IMX766 ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล (f/1.88) พร้อมกันสั่น OIS และกล้องถ่ายภาพ Ultra-Wide เซนเซอร์ Samsung JN1 ขนาด 50 ล้านพิกเซล (f/2.2)
- กล้องหน้า เซนเซอร์ Sony IMX471 ขนาด 16 ล้านพิกเซล (f/2.45)
- แบตเตอรี่ขนาด 4,500 mAh มาพร้อมมาตรฐานการชาร์จไว PD 3.0 33W
- ลำโพงคู่บริเวณด้านล่างของตัวเครื่อง และบริเวณด้านบน
- น้ำหนัก 193.5 กรัม วัสดุฝาหลังเป็นกระจกใส และ Glyph Interface ด้านใน มาใน 2 สี : สีขาว และสีดำ
- มีเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านในของหน้าจอ (Optical Fingerprint Scanner)
- ซอฟต์แวร์ Nohing OS 1 (Based on Android 12) อัปเดตได้นาน 3 ปี (ตอนนี้อยู่ที่ Nothing OS 1.5 – Android 13)
- ราคาวางจำหน่ายในประเทศไทย 18,900 บาท (สำหรับรุ่นความจุ 8/128 GB)
สมาร์ตโฟนสำหรับสายเกม – realme GT 2 Pro
สำหรับใครที่อยากได้สมาร์ตโฟนที่ต้องสเปกแรงที่สุด เร็วที่สุด อยากได้มาเล่นเกมมากที่สุด ในราคาที่ไม่สูงจนเกินไป ผู้เขียนอยากขอแนะนำ realme GT 2 Pro สมาร์ตโฟนที่ได้ใช้ Qualcomm Snapdragon 8 Gen 1 เพียงรุ่นเดียว ที่ราคาขาย ที่แม้จะเพิ่งเปิดตัว ก็อยู่ที่ 20,000 ต้น ๆ เท่านั้น แม้ว่าราคาขาย (Shopee Official Store ของ realme) จะอยู่ที่ 22,999 บาทก็ตาม แต่ถ้าตามดี ๆ ก็อาจจะได้ราคาที่ถูกลง จนถึงต่ำกว่าราคา 20,000 บาทได้ (เช่นช่วงโปรกลางเดือน หรือวันเลขเบิ้ล เป็นต้น) ซึ่งในระดับราคานี้ แต่ได้ใช้สมาร์ตโฟนที่ใช้ CPU ระดับเรือธงแล้ว ถือว่าคุ้มค่าเลย !
นอกจากสเปกที่คุ้มค่าคุ้มราคาขนาดนี้แล้ว ด้านดีไซน์ก้ถือว่าทำได้ดีไม่แพ้คนอื่นเลย ด้วยดีไซน์ตัวเครื่องที่ได้ร่วมมือกับดีไซเนอร์ชาวญี่ปุ่น นาโอโตะ ฟูกะซาว่า (Naoto Fukasawa) ที่ได้ร่วมออกแบบเครื่องมาในรุ่นก่อน ๆ ด้วย และกล้องถ่ายภาพที่แม้จะไม่ได้เป็นรุ่นเรือธงด้วย แต่ก็ถือว่าให้มาพอต่อการใช้งานแน่นอน
สเปกตัวเครื่องของ realme GT 2 Pro
- หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.7 นิ้ว รีเฟรชเรต 120Hz ความละเอียด 3,216 × 1,440 (1440p)
- ชิปเซต Qualcomm Snapdragon 8 Gen 1 Octa-core รองรับ 5G
- แรมขนาด 12 GB
- หน่วยความจำขนาด 256 GB
- กล้องหลัง 2 ตัว โดยกล้องหลักใช้เซนเซอร์ Sony IMX766 ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล (f/1.88) พร้อมกันสั่น OIS และกล้องถ่ายภาพ Ultra-Wide ขนาด 50 ล้านพิกเซล (f/2.2)
- กล้องหน้า เซนเซอร์ Sony IMX615 ขนาด 32 ล้านพิกเซล (f/2.4)
- แบตเตอรี่ขนาด 5,000 mAh มาพร้อมมาตรฐานการชาร์จไว SuperDart 65W
- ลำโพงคู่บริเวณด้านล่างของตัวเครื่อง และบริเวณด้านบน
- น้ำหนัก 189 กรัม วัสดุฝาหลังเป็นไบโอโพลีเมอร์ มาใน 2 สี : สีขาว Paper White และสีเขียว Paper Green
- มีเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านในของหน้าจอ (Optical Fingerprint Scanner)
- ซอฟต์แวร์ realmeUI 3.0 (Based on Android 12)
- ราคาวางจำหน่ายในประเทศไทย 22,999 บาท
สมาร์ตโฟนสำหรับคนที่อยากใช้งานรอบด้าน – Samsung Galaxy A73
สมาร์ตโฟนตัวท็อปของตระกูล A จากซัมซุง ในปีที่ผ่านมา มาพร้อมดีไซน์สวยมินิมอล ที่มาพร้อมกับกล้องที่ให้ความละเอียดที่มากถึง 108 ล้าน รองรับ 5G และลื่นไหลไปกับจอสีสวย สไตล์ซัมซุง ด้วยจอ Super AMOLED + รีเฟรชเรต 120 hz พร้อมกับความรวดเร็วของ Snapdragon 778 5G ใช้งานได้อย่างยาวนานเพราะมีแบตเตอรี่เยอะถึง 5000 มิลลิแอมป์ แต่มีน้ำหนักเพียงแค่ 181 กรัม นอกจากนี้ยังผ่านมาตรฐานการกันน้ำระดับ IP67 ความลึก 1 เมตร อีกด้วย
ราคาของ Samsung Galaxy A73 5G ตอนนี้สามารถหาซื้อได้ในราคา 15,999 บาท (จากราคาเปิดตัวที่ 17,999 บาท) ถือว่า ถ้าเป็นราคานี้แล้วได้กล้องความละเอียดถึง 108 ล้านพิกเซล, ซอฟต์แวร์ในแบบของ Samsung, แบตเตอรีที่มาก และสเปกที่ใช้งานทั่วไปได้ดี ก็ถือว่า Samsung Galaxy A73 5G เป็นรุ่นที่น่าสนใจมาก ๆ อีกรุ่นนึงเลย สำหรับใครที่อยากได้สมาร์ตโฟนที่ใช้งานได้รอบด้าน
สเปกตัวเครื่องของ Samsung Galaxy A73 5G
- หน้าจอ Super AMOLED + ขนาด 6.7 นิ้ว รีเฟรชเรต 120Hz ความละเอียด FHD+
- ชิปเซต Qualcomm Snapdragon 778G Octa Core รองรับ 5G
- แรมขนาด 8 GB
- หน่วยความจำขนาด 128 GB (สามารถรองรับ microSD สูงสุด 1TB)
- กล้องหลัง 4 ตัว โดยกล้องหลักมีความละเอียด 108 ล้านพิกเซล (f/1.8) + กล้องถ่ายภาพอัลตร้าไวด์ ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล (f/2.2) + กล้องมาโคร ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล (f/2.4) กล้องวัดระยะความลึกตื้น ขนาด 5 ล้านพิกเซล (f/2.4)
- กล้องหน้าขนาด 32 ล้านพิกเซล(f/2.2)
- แบตเตอรี่ขนาด 5000 mAh มาพร้อมกับมาตรฐานการชาร์จเร็ว 25W Fast Charging
- ลำโพงคู่ Stereo Speakers พร้อมระบบเสียง Dolby Atmos
- น้ำหนัก 181 กรัม วัสดุตัวเครื่องเป็นพลาสติกโพลีคาร์โบเนต มาใน 2 สี : สีเขียว Mint และสีเทา Gray
- เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือฝังใต้หน้าจอแบบแสง (In-Display Optical Fingerprint Sensor) + ระบบปลดล็อกด้วยใบหน้า (Face Unlock)
- ซอฟต์แวร์ One UI 4.1 (based on Android 12)
- ราคาวางจำหน่ายในประเทศไทย 15,999 บาท
สมาร์ตโฟนสำหรับสายไอโฟน – iPhone 12 Pro (มือ 2)
มาถึงรุ่นสุดท้ายแล้ว สำหรับใครที่คิดว่า เอ๊ะ เรามีเงิน 20,000 แล้วจะซื้อไอโฟนรุ่นไหนดี ผู้เขียนอยากจะขอแนะนำ iPhone 12 Pro มือ 2 ! ด้วยความที่ iPhone 12 Pro เป็นไอโฟนซีรีส์แรกที่ได้ใช้ 5G รวมถึงเป็นรุ่นที่ถือว่ายังมีความใหม่อยู่พอสมควรเลย ด้วยความที่ iPhone 12 ใช้ CPU เป็น Apple A14 Bionic ซึ่งถือว่าเป็นรุ่นที่ยังใหม่มาก และเป็นรุ่นที่มีกล้องถ่ายภาพหลักถึง 3 ตัว (จากปกติ 2 ใน iPhone 12 ธรรมดา) แปลว่าแม้เราจะซื้อมือ 2 แต่ iPhone 12 Pro ก็ยังเป็นรุ่นที่ใครได้ไปใช้ แล้วจะยังใช้งานต่อไปอีกนานแน่ ๆ โดยราคาในตลาดมือ 2 (Facebook Marketplace) ตอนนี้ถือว่าอยู่ในระดับที่น่าสนใจเลยทีเดียว ด้วยราคาที่เหลือเพียงแค่ 20,000 ต้น ๆ เท่านั้น อย่างผู้เขียนเองก็เจอผู้ขายที่ปล่อย iPhone 12 Pro 128GB ในราคา 20,500 บาทมาแล้ว แต่ส่วนมาก ราคากลางจะอยู่ที่ประมาณ 22,000 บาทเท่านั้น เพียงแต่ ถ้าใครที่ตัดสินใจจะซื้อ iPhone มือ 2 ก็ต้องตรวจสอบตัวเครื่องให้ดีก่อนตัดสินใจซื้อด้วยนะ
นอกจากเรื่องของสเปกที่ยังใช้ได้อีกนาน ด้านดีไซน์ก็ถือว่ายังดูดี และทันสมัยอยู่ด้วย เพราะว่าเป็น iPhone รุ่นแรกที่ได้เปลี่ยนดีไซน์รอบตัวเครื่องกลับไปเป็นแบบขอบตัด ซึ่งกลายเป็นสมัยนิยมของดีไซน์สมาร์ตโฟนในปีที่ผ่านมา (2022) ก็ว่าได้ ดังนั้น ถ้าใครที่สนใจอยากจะซื้อไอโฟนในงบเท่านี้ iPhone 12 Pro ถือเป็นทางเลือกที่ดีเลยทีเดียว
สเปกตัวเครื่องของ iPhone 12 Pro
- หน้าจอ OLED Super Retina XDR ขนาด 6.1 นิ้ว รีเฟรชเรต 60Hz ความละเอียด 2532 x 1170
- ชิปเซต Apple A14 Bionic รองรับ 5G
- แรมขนาด 6 GB
- หน่วยความจำขนาด 128, 256, 512 GB
- กล้องหลัง 3 ตัว โดยกล้องหลักมีความละเอียด 12 ล้านพิกเซล (f/1.6) + กล้องถ่ายภาพอัลตร้าไวด์ ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล (f/2.4) และกล้องวัดเทเลโฟโต้ ขนาด 12 ล้านพิกเซล (f/2.0)
- กล้องหน้าขนาด 12 ล้านพิกเซล(f/2.2)
- แบตเตอรี่ขนาด 2815 mAh มาพร้อมกับมาตรฐานการชาร์จเร็ว 15W
- ลำโพงคู่ Stereo Speakers
- น้ำหนัก 187 กรัม วัสดุตัวเครื่องเป็นกระจก มาใน 4 สี : เงิน, กราไฟต์, ทอง และ แปซิฟิกบลู
- ระบบปลดล็อกหน้าจอด้วยหน้า (FaceID)
- ซอฟต์แวร์ iOS 16.2
- ราคาวางจำหน่ายในประเทศไทย เลิกวางจำหน่ายมือ 1 แล้ว แต่สามารถหาซื้อได้ในราคามือสองตั้งแต่ 20,500 – 25,000 บาท แล้วแต่ความจุ อายุการใช้งาน และสภาพของตัวเครื่อง
หวังว่าสมาร์ตโฟนทั้ง 5 รุ่นที่ได้นำมาฝากผู้อ่านนี้ จะช่วยให้การตัดสินใจซื้อสมาร์ตโฟนซักรุ่นที่ราคาไม่เกิน 20,000 บาทของใครหลาย ๆ คน ง่ายขึ้นอย่างมากเลย ใครที่ตัดสินใจเลือกซื้อรุ่นไหนไป อย่าลืมนำมาบอกชาว #beartai กันด้วยนะ !
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส