ในยุคข้าวยากหมากแพงแบบนี้ ใครหลาย ๆ คน อาจจะต้องการประหยัดเงินในกระเป๋าสตางค์กันก็ได้ วันนี้เราเลยจะมาแนะนำมือถือ 5 รุ่นที่น่าสนใจ ในงบไม่เกิน 10,000 บาท ที่เหมาะกับทั้งการถ่ายรูป การเล่นเกม รวมถึงเล่นโซเชียลมีเดีย จะมีรุ่นไหนบ้างนั้น เช็กที่ด้านล่างนี้ได้เลย
มีมือถืออะไรบ้างในบทความนี้
Samsung Galaxy A23 5G – 9,999 บาท
เริ่มที่มือถือรุ่นแรกกันเลย Samsung Galaxy A23 5G เป็นมือถือที่มีจอขนาด 6.6 นิ้ว ความลื่นไหลระดับ 120 Hz และยังเป็นจอแบบ PLS (Plane to Line Switching คล้าย TFT แต่เป็น LCD ที่ให้สีสันดีกว่า) ส่วนการเล่นเกมนั้นก็ต้องบอกว่าเล่นได้ เพราะใช้ซีพียูเป็น Snapdragon 695 ที่แม้จะไม่ใช่ตัวท็อปก็จริงแต่ก็เพียงพอกับการเล่นเกมนะ และยังรองรับ 5G อีกด้วย
ด้านกล้องก็ให้มาถึง 50 ล้านพิกเซล พร้อมระบบกันสั่น OIS ที่ช่วยลดภาพเบลอเวลาถือถ่าย ส่วนดีไซน์ก็เป็นแบบพิมพ์นิยมที่ไม่ต่างจากมือถือทั่วไป มี 3 สีให้เลือกคือ สีเงิน (Silver Bright) / สีฟ้า (Light Blue) / สีดำ (Black) โดยภาพรวมถือว่าเป็นมือถือที่น่าสนใจอยู่นะ
สเปกของ Samsung Galaxy A23 5G
- หน้าจอ PLS LCD ขนาด 6.6 นิ้ว รีเฟรชเรต 120Hz ความละเอียด 1080 x 2408 pixels (FHD+)
- ซีพียู Qualcomm Snapdragon 695 รองรับ 5G
- แรมขนาด 8 GB
- หน่วยความจำขนาด 128 GB
- กล้องหลัง 4 ตัว
- กล้องหลัก 50 ล้านพิกเซล (f/1.8)
- กล้องถ่ายภาพกว้างพิเศษ 5 ล้านพิกเซล (f/2.2)
- กล้องมาโคร 2 ล้านพิกเซล (f/2.4)
- กล้อง Depth (วัดความลึกของภาพ) 2 ล้านพิกเซล (f/2.4)
- กล้องหน้าขนาด 8 ล้านพิกเซล (f/2.2)
- แบตเตอรี่ขนาด 5,000 mAh มาพร้อมมาตรฐานการชาร์จไว 25W Fast Charging
- ลำโพงเดี่ยวบริเวณด้านล่างของตัวเครื่อง
- น้ำหนัก 197 กรัม
- วัสดุฝาหลังทำจาก พลาสติก Polycarbonate
- มีให้เลือก 3 สี : สีเงิน (Silver Bright) , สีฟ้า (Light Blue) และสีดำ (Black)
- มีเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านข้าง (Fingerprint) และการปลดล็อคด้วยใบหน้า (Face Detection)
- ระบบปฏิบัติการ One UI 4.1 (Based on Android 12)
- ราคาวางจำหน่ายในประเทศไทย 9,999 บาท
realme narzo 50 Pro 5G – 9,999 บาท
มาทางฝั่ง realme narzo 50 Pro กันบ้าง รุ่นนี้น่าสนใจตรงที่ให้จอเป็น Super AMOLED ถือว่าเป็นไม่กี่รุ่นในราคาต่ำกว่า 10,000 บาทที่ให้จอแบบนี้มา หากเอามาเล่นเกมหรือดูซีรีส์ก็คงฟินไม่เบา บวกกับมีลำโพงคู่ที่ให้เสียงแบบ Stereo อีกด้วย ในด้านซีพียูที่ให้มาก็เป็น Dimensity 920 ที่ให้ประสิทธิภาพระดับกลาง ๆ พอกับการเล่นเกมทั่วไป นอกจากนี้ยังมีระบบระบายความร้อน 5 ชั้นที่ทาง Realme เคลมมาว่าสามารถลดความร้อนได้ถึง 10 องศา บวกกับแบตเตอรี่เองก็เป็นแบบ 5,000 mAh รองรับการชาร์จไว 33W Dart Charge คิดว่าน่าจะเหมาะกับการเล่นเกมยาว ๆ ใครเป็นสายเกมรุ่นนี้น่าสนใจเลย
สเปกของ realme narzo 50 Pro 5G
- หน้าจอ Super AMOLED ขนาด 6.4 นิ้ว รีเฟรชเรต 90Hz ความละเอียด 1080 x 2400 pixels (FHD+)
- ซีพียู MediaTek Dimensity 920 รองรับ 5G
- แรมขนาด 8 GB
- หน่วยความจำขนาด 128 GB
- กล้องหลัง 3 ตัว
- กล้องหลัก 48 ล้านพิกเซล (f/1.8)
- กล้องถ่ายภาพ Ultra-Wide ขนาด 8 ล้านพิกเซล (f/2.2)
- กล้องมาโคร ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล (f/2.4)
- กล้องหน้าขนาด 16 ล้านพิกเซล (f/2.4)
- แบตเตอรี่ขนาด 5,000 mAh มาพร้อมมาตรฐานการชาร์จไว 33W Dart Charge
- ลำโพงคู่บริเวณด้านล่างและด้านบนของตัวเครื่อง
- น้ำหนัก 181 กรัม
- วัสดุฝาหลังเป็นพลาสติก
- มี 2 สี : สีน้ำเงิน Hyper Blue และสีดำ Hyper Black
- มีเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ Fingerprint
- ระบบปฏิบัติการ realme UI 4.0 (Based on Android 13)
- ราคาวางจำหน่ายในประเทศไทย 9,999 บาท
Infinix Zero 5G (2023) – 9,499 บาท
สมาร์ตโฟนจากแบรนด์ Infinix รุ่นนี้เพิ่งเปิดตัวไปได้ไม่นานและได้รับความสนใจอยู่ไม่น้อยเลย เพราะมาพร้อมกับซีพียูที่เร็วแรงอย่าง MediaTek Dimensity 1080 5G ที่อยู่สูงกว่าสองรุ่นก่อนหน้า ส่วนกล้องที่ให้มาก็ไม่ได้น้อยหน้าใคร เพราะกล้องหลักนั้นให้มาถึง 50 ล้านพิกเซล แถมยังให้หน่วยความจำมาถึง 256 GB ในราคานี้ถือว่าคุ้มค่าคุ้มราคามาก ๆ นอกจากนี้ยังให้แบตเตอรี่มาถึง 5,000 mAh และยังแถมชาร์จเร็ว 33W มาให้อีกด้วย ถือว่าน่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียวกับ Infinix Zero 5G ตัวนี้
สเปกของ Infinix Zero 5G (2023)
- หน้าจอ IPS LCD ขนาด 6.78 นิ้ว รีเฟรชเรต 120Hz ความละเอียด 1080 x 2460 pixels (FHD+)
- ซีพียู MediaTek Dimensity 1080 รองรับ 5G
- แรมขนาด 8 GB
- หน่วยความจำขนาด 256 GB
- กล้องหลัง 3 ตัว
- กล้องหลัก 50 ล้านพิกเซล (f/1.6)
- กล้องมาโคร ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล
- กล้อง Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล
- กล้องหน้าขนาด 16 ล้านพิกเซล (f/2.0)
- แบตเตอรี่ขนาด 5,000 mAh มาพร้อมมาตรฐานการชาร์จไว 33W Super Fast Charge
- ลำโพงเดี่ยวบริเวณด้านล่างตัวเครื่อง
- น้ำหนัก 201 กรัม
- วัสดุฝาหลังเป็นพลาสติก
- มี 3 สี : สีดำ(Submarine Black) สีขาว (Pearly White) และสีส้ม (Coral Orange)
- มีเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือข้างตัวเครื่อง (Side-Mounted Fingerprint)
- ซอฟต์แวร์ XOS12 (Based on Android 12)
- ราคาวางจำหน่ายในประเทศไทย 9,499 บาท
OnePlus Nord CE 2 Lite 5G – 9,990 บาท
มือถือราคาไม่ถึง 10,000 บาท จาก OnePlus รุ่นนี้มีความน่าสนใจอยู่มาก เพราะหลาย ๆ อย่างที่ใส่มาให้ในเครื่องนั้น ไม่ได้แพ้รุ่นอื่นในราคาเดียวกันเลย เช่น แบตเตอรี่ที่มีมาให้ 5,000 mAh ทำให้สามารถใช้งานได้ยาวนาน หรือแม้แต่ชาร์จเร็วอย่าง 33W SuperVOOC Fast Charging ก็มีมาให้ ความละเอียดของกล้องหลักก็มีถึง 64 ล้านพิกเซล นอกจากนี้ซีพียูที่ให้มาก็เป็น Snapdragon 695 เอาไปเล่นเกมหรือเล่นโซเชียลก็ทำได้สบาย ๆ
สเปกของ OnePlus Nord CE 2 Lite 5G
- หน้าจอ IPS LCD ขนาด 6.59 นิ้ว รีเฟรชเรต 120Hz ความละเอียด 1080 x 2412 pixels (FHD+)
- ซีพียู Qualcomm Snapdragon 695 รองรับ 5G
- แรมขนาด 8 GB
- หน่วยความจำขนาด 128 GB
- กล้องหลัง 3 ตัว โดยกล้องหลักความละเอียด 64 ล้านพิกเซล (f/1.7) + กล้องมาโคร ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล(f/2.4) + กล้อง Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล (f/2.4)
- กล้องหน้าขนาด 16 ล้านพิกเซล (f/2.0)
- แบตเตอรี่ขนาด 5,000 mAh มาพร้อมมาตรฐานการชาร์จไว SuperVOOC Fast Charging 33W
- ลำโพงคู่บริเวณด้านล่างและด้านบนตัวเครื่อง
- น้ำหนัก 195 กรัม วัสดุฝาหลังเป็นพลาสติก มาใน 2 สี : สีดำ (Black Dusk) และน้ำเงิน (Blue Tide)
- มีเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือข้างตัวเครื่อง(Fingerprint (side-mounted)
- ซอฟต์แวร์ OxygenOS13 (Based on Android 13)
- ราคาวางจำหน่ายในประเทศไทย 9,990 บาท
vivo Y35 (2022) – 8,999 บาท
คราวนี้มาฝั่งของ vivo กันบ้างกับ Y35 (2022) รุ่นนี้ฟีเจอร์ที่โดดเด่นมาก ๆ คือ Audio Booster ที่สามารถเพิ่มเสียงให้ดังได้ถึง 200% แบตเตอรี่ที่ให้มานั้นก็มีถึง 5,000 mAh เรียกได้ว่าสามารถเอาไปใช้งานได้แบบยาว ๆ แถมยังมีการชาร์จที่ไวกว่าทุกรุ่นด้วย vivo Flash Charge 44W ที่ชาร์จเพียง 34 นาทีแต่ได้แบตเตอรี่ไปถึง 70% และพอพูดถึง vivo เราจะไม่พูดถึงกล้องไม่ได้ เพราะให้กล้องหลักความละเอียดมาถึง 50 ล้านพิกเซล และกล้องหน้า 16 ล้านพิเซล ที่ถ่ายออกมาได้ตามสไตล์ vivo ข้อสังเกตของมือถือรุ่นนี้ก็คือยังไม่รองรับ 5G ซึ่งนั่นก็เป็นเหตุผลที่ทำให้ราคาในรุ่นนี้ถูกที่สุดในทั้งหมดที่เราหามาให้นั่นเอง รุ่นนี้แบไต๋เรามีรีวิวให้ดูด้วยนะ ! ตามนี้เลย
สเปกของ vivo Y35 (2022)
- หน้าจอ IPS LCD ขนาด 6.58 นิ้ว รีเฟรชเรต 90Hz ความละเอียด 1080 x 2404 pixels (FHD+)
- ซีพียู Qualcomm Snapdragon 680
- แรมขนาด 8 GB
- หน่วยความจำขนาด 128 GB
- กล้องหลัง 3 ตัว โดยกล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล (f/1.8) + กล้องมาโคร ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล(f/2.4) + กล้อง Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล (f/2.4)
- กล้องหน้าขนาด 16 ล้านพิกเซล (f/2.0)
- แบตเตอรี่ขนาด 5,000 mAh มาพร้อมมาตรฐานการชาร์จไว 44W FlashCharge
- ลำโพงเดี่ยวบริเวณด้านล่างตัวเครื่อง
- น้ำหนัก 188 กรัม วัสดุด้านหลังเป็นพลาสติก มาใน 2 สี : สีดำ(Agate Black) และสีทอง (Dawn Gold)
- มีเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือข้างตัวเครื่อง(Fingerprint (side-mounted)
- ซอฟต์แวร์ FuntouchOS 12 (Based on Android 11)
- ราคาวางจำหน่ายในประเทศไทย 8,999 บาท
สรุปจุดเด่น-จุดด้อย
สรุปมือถือที่เราเอามาแนะนำทั้ง 5 รุ่นก็จะมีจุดเด่นจุดด้อยแตกต่างกันเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่ในภาพรวมนั้นถือเป็นมือถือราคาต่ำกว่า 10,000 บาทที่น่าสนใจ เช่น
- Samsung Galaxy A23 5G ที่เน้นไปด้านกลาง ๆ สายไลฟ์สไตล์ เล่นเกมหรือโซเชียลก็สามารถทำได้ แต่ติดที่ให้จอมาเป็น PLS และชาร์จเร็วที่เร็วน้อยกว่าเจ้าอื่น
- realme narzo 50 pro 5G ที่เน้นไปทางเล่นเกมและดูหนัง ฟังเพลงเพราะมีระบบระบายความร้อนที่ดีกว่าเจ้าอื่น หน้าจอที่ให้มาก็เป็น Super AMOLED อีกทั้งยังมีลำโพงคู่อีกด้วย
- Infinix Zero 5G (2023) ที่เน้นไปทางเล่นเกม เพราะให้ซีพียูตัวแรงอย่าง Dimensity 1080 มาเลยทีเดียว การเล่นเกมจึงอาจจะทำได้ดีกว่าทั้ง 4 รุ่น
- OnePlus Nord CE 2 Lite 5G ที่อาจจะเน้นไปด้านกลาง ๆ แต่อาจจะเน้นถ่ายรูปหน่อย เพราะกล้องหลักนั้นให้มาถึง 64 ล้าน
- vivo Y35 (2022) ที่เน้นไปด้านการใช้กล้องเซลฟี่ เพราะกล้องหน้า vivo ทำออกมาได้ดีอยู่แล้ว นอกและยังสามารถบูสต์เสียงลำโพงให้ดังขึ้นถึง 200% อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีชาร์จเร็วที่เร็วที่สุดใน 5 รุ่นนี้ด้วย แต่แอบเสียดายที่รุ่นนี้ไม่รองรับ 5G
หวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์ ทำให้คนที่หามือถือราคาต่ำกว่า 10,000 บาท ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น และถ้าใครซื้อมาแล้วหรือมีรุ่นไหนน่าสนใจอีก อย่าลืมคอมเมนต์กันมาด้วยนะ
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส