สำหรับคุณผู้หญิงคนไหน กำลังหาจะหาซื้อมือถือซักเครื่อง แต่ไม่รู้ว่ารุ่นไหนจะเหมาะกับตัวเอง วันนี้เรามีมือถือฟังก์ชันและฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่เหมาะกับผู้หญิงมาแนะนำ แน่นอนว่าต้องมีรุ่นที่กล้องหน้าเซลฟี่ต้องโดดเด่น และเครื่องต้องเบา พกพาไปไหนมาไหนได้สะดวก ไม่เทอะทะเกินไปสำหรับผู้หญิง และแต่ละรุ่นที่นำมาให้ชม ก็มีสีสันสวยงาม มีทั้งสีมินิมอลและสีสันแบบวิบวับ ไปชมกันเลยย !
Samsung Galaxy Z Flip 4 (ราคา 35,900 บาท)
เรามาเริ่มกันที่สมาร์ตโฟนรุ่นแรกกันเลย กับ Samsung Galaxy Z Flip 4 ถือว่าเป็นมือถือจอพับที่ทำกระแสได้ดีมาก ๆ เพราะดันไปโผล่ในซีรีส์เกาหลีหลายครั้งหลายครา ทำให้สาว ๆ ที่เห็นอาจจะสะดุดในความพับได้ พอพับแล้วตัวเครื่องเหลือเท่าตลับแป้ง เก็บใส่ในกระเป๋าเล็กได้สบาย ๆ บวกกับสามารถ Custom สี ให้เข้ากับตัวเองได้ในเว็บของ Samsung (เขาเคลมมาว่ามีให้เลือกถึง 75 แบบเลยนะ) นอกจากนี้ยังมี IPX8 ที่กันน้ำได้ถึง 1.5 เมตร นานถึง 30 นาทีอีก สายซุ่มซ่ามทำตกน้ำบ่อยน่าจะชอบกัน และเรื่องกล้อง ด้วยความที่พับได้ เราจึงสามารถเล่นกับกล้องได้ค่อนข้างเยอะ หรือจะเอากล้องหลังมาเป็นกล้องเซลฟี่ก็ทำได้ เพราะมีจอเล็ก ๆ อยู่ข้างหลังเครื่อง สามารถพับครึ่งนึงแล้วหันกล้องหลังมา ดูมุมหน้านิดหน่อยผ่านจอเล็ก ๆ ด้านหลังแล้วกด แชะ สวย ใส สไตล์สาวโคเรีย !
สเปกของ Samsung Galaxy Z Flip 4
- หน้าจอ : Foldable Dynamic AMOLED 2X ขนาด 6.7 นิ้ว รีเฟรชเรท 120Hz รองรับ HDR10+
- Cover Display Super AMOLED ขนาด 1.9 นิ้ว
- ชิปเซต : Qualcomm Snapdragon 8+ Gen 1
- ขนาดความจุ : 128GB , 256GB , 512GB
- RAM : 8GB
- กล้อง
- กล้องเลนส์หลักความละเอียด 12MP (f/1.8)
- กล้องเลนส์ Ultrawide ความละเอียด 12MP (f/2.2)
- กล้องหน้าความละเอียด 10MP (f/2.4)
- ลำโพง : ลำโพงคู่ด้านบนและด้านล่างตัวเครื่อง
- แบตเตอรี่ : 3700mAh พร้อมชาร์จไว 25W
- เครือข่าย : 3G , 4G , 5G
- ซอฟต์แวร์ : Android 12 up to Android 13 , One UI 5
- น้ำหนัก : 187 กรัม
- วัสดุตัวเครื่อง : ขอบเครื่องอลูมีเนียมและกระจกด้านหลัง
- สี : Bora Purple, Graphite, Pink Gold และ Blue และสามารถปรับแต่งสีตัวเครื่องได้
สำหรับใครที่สนใจรุ่นนี้ เรามีรีวิวให้ดูด้วยนะ ตามไปดูได้เลย
Apple iPhone 14 (ราคา 32,900 บาท)
รุ่นนี้ รุ่นที่หลายคนรู้จัก แทบจะไม่ต้องแนะนำอะไรมากเลย เรามากันที่กล้องสายเรียลสมจริงกัน ก่อนไปกล้องสายฟรุ้งฟริ้ง สำหรับคนที่ชอบกล้องสมจริงและสีตรง รุ่นนี้ให้คุณได้ เรียกได้ว่า ไม่มีเกลี่ยใบหน้าอะไรให้เลย(สดเวอร์ บางคนก็รับไม่ได้ เช่น คนเขียน) หรือใครเป็นสาย Stories ก็รู้กันดีว่า Stories ใน iPhone นั้นชัดที่สุดแล้วในสมาร์ตโฟนปัจจุบัน เวลาใช้ฟิลเตอร์ในแอปกล้องต่าง ๆ ก็ทำได้ดีกว่า Android ค่อนข้างเยอะ และเมื่อพูดถึง iPhone แน่นอนว่าพวกเคสโทรศัพท์ Accessories ต่าง ๆ นั้นหาได้ง่ายมาก เราสามารถหาซื้อได้ตามร้านโทรศัพท์ทั่วไป เดินเข้าไปในร้านเคสโทรศัพท์ 80% ต้องมีเคสของ iPhone แน่นอน น้ำหนักของรุ่นนี้ก็แค่ 172 กรัมเอง นอกจากนี้ความสามารถที่หลาย ๆ คนอาจจะลืมกันไป นั่นก็คือ iPhone ในปัจจุบันนั้นแทบทุกรุ่น สามารถกันน้ำได้หมดแล้ว ซึ่งนั่นก็รวมถึง iPhone 14 ด้วยนั่นเอง
สเปกของ Apple iPhone 14
- หน้าจอ : Super Retina XDR OLED ขนาด 6.1 นิ้ว รีเฟรชเรท 120Hz รองรับ HDR10
- ชิปเซต : Apple A15 Bionic
- ขนาดความจุ : 128GB , 256GB , 512GB
- RAM : 6GB
- กล้อง
- กล้องเลนส์หลักความละเอียด 12MP (f/1.5)
- กล้องเลนส์ Ultrawide ความละเอียด 12MP (f/2.4)
- กล้องหน้าความละเอียด 12MP (f/1.9)
- ลำโพง : ลำโพงคู่ด้านบนและด้านล่างตัวเครื่อง
- แบตเตอรี่ : 3279 mAh พร้อมชาร์จไว 20W
- เครือข่าย : 3G , 4G , 5G
- ซอฟต์แวร์ : iOS
- น้ำหนัก : 172 กรัม
- วัสดุตัวเครื่อง : ขอบเครื่องอลูมีเนียมและกระจกด้านหลัง
- สี : Black, White, Red, Blue, และ Purple
OPPO Reno 8T 5G (ราคายังไม่เป็นทางการ 13,900 บาท)
สายฟรุ้งฟริ้งมาทางนี้ กับ OPPO Reno 8T 5G ไม่ต้องเกริ่นอะไรเยอะ เพราะเรารู้ ๆ กันดีว่า มือถือแบรนด์นี้มันเด่น มันปังด้านเซลฟีมากแค่ไหน รอบนี้เขาชูการถ่าย Portrait ละลายฉากหลังแบบเนียน ๆ และกล้องเลนส์หลักที่มีความละเอียดถึง 108 ล้าน เรียกได้ว่าคมชัดถึงไหนถึงไหนถึงกัน ถ้าพูดถึง OPPO แต่ไม่พูดถึงเรื่องชาร์จเร็วไม่ได้นะ เพราะเขาทำออกมาได้ดีมาตั้งแต่ไหนแต่ไร ในรุ่นนี้เขาให้ชาร์จเร็ว 67W SUPERVOOC มาให้ด้วย (เขาเคลมมาว่าชาร์จเต็ม 100% ภายใน 44 นาทีเลยนะ) หน้าจอก็ใหญ่ถึง 6.7 นิ้ว เอาไปดูซีรีส์นี่ฟิน ๆ เลย แต่บอกเลยว่าเครื่องใหญ่แบบนี้ น้ำหนักแค่ 171 กรัม เท่านั้นเอง (สำหรับรุ่นนี้นั้นจะเปิดตัวในไทยวันที่ 9 กุมภาพันธ์นี้ ราคาจึงยังไม่เป็นทางการ แต่คาดการณ์ไว้ว่าน่าจะประมาณ 13,900 บาท)
สเปก OPPO Reno 8T 5G
- หน้าจอ : AMOLED ขนาด 6.7 นิ้ว รีเฟรชเรท 120Hz
- ชิปเซต : Qualcomm Snapdragon 695
- ขนาดความจุ : 128GB , 256GB
- RAM : 8GB
- กล้อง
- กล้องเลนส์หลักความละเอียด 108MP (f/1.7)
- กล้องเลนส์ Microscope ความละเอียด 2MP (f/3.3)
- กล้องเลนส์ Depth ความละเอียด 2MP (f/2.4)
- กล้องหน้าความละเอียด 32MP (f/2.4)
- ลำโพง : ลำโพงคู่ด้านบนและด้านล่างตัวเครื่อง
- แบตเตอรี่ : 4800 mAh พร้อมชาร์จไว 67W
- เครือข่าย : 3G , 4G , 5G
- ซอฟต์แวร์ : Android 13 , ColorOS 13
- น้ำหนัก : 171 กรัม
- วัสดุตัวเครื่อง : ขอบเครื่องอลูมีเนียมและกระจกด้านหลัง
- สี : Midnight Black และ Sunrise Gold
vivo V25 (ราคา 13,999 บาท)
อีกหนึ่งรุ่นสายฟรุ้งฟริ้งที่จะไม่พูดถึงไม่ได้ นั่นก็คือ vivo V25 นั่นเอง รุ่นนี้เขาชูเรื่องกล้องหลังที่มีความละเอียดมาให้ถึง 64 ล้าน แถมมี OIS กันสั่นด้วย และกล้องหน้าความละเอียด 50 ล้านที่มี Eye AF Selfie ที่จะโฟกัสตาของเราตอนเซลฟี ทำให้สามารถถ่ายภาพออกมาได้คมชัด แบบไม่หลุดโฟกัส พร้อมกับฟีเจอร์ Natural Portrait ที่ทำให้สามารถถ่าย Portrait ออกมาได้สวยอย่างเป็นธรรมชาติ นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยี Color Changing ที่สามารถเปลี่ยนสีของฝาหลังเมื่อกระทบกับแสงแดด ทำให้กระจกของด้านหลังนั้นเปลี่ยนเป็นสีที่เข้มขึ้นได้ และน้ำหนักของรุ่นนี้หนักอยู่ที่ 186 กรัม ถือว่ายังไม่ได้หนักมาก รุ่นนี้เรามีรีวิวให้อ่านด้วยนะ
สเปกของ vivo V25
- หน้าจอ : AMOLED ขนาด 6.44 นิ้ว รีเฟรชเรท 90Hz รองรับ HDR10+
- ชิปเซต : MediaTek Dimensity 900
- ขนาดความจุ : 128GB , 256GB
- RAM : 8GB
- กล้อง
- กล้องเลนส์หลักความละเอียด 64MP (f/1.8)
- กล้องเลนส์ Ultrawide ความละเอียด 8MP (f/2.2)
- กล้องเลนส์ Macro ความละเอียด 2MP (f/2.4)
- กล้องหน้าความละเอียด 50MP (f/2.0)
- ลำโพง : ลำโพงเดี่ยวบริวณด้านล่างตัวเครื่อง
- แบตเตอรี่ : 4500 mAh พร้อมชาร์จไว 44W
- เครือข่าย : 3G , 4G , 5G
- ซอฟต์แวร์ : Android 12 , Funtouch OS 12
- น้ำหนัก : 186 กรัม
- วัสดุตัวเครื่อง : ขอบเครื่องพลาสติกและกระจกด้านหลัง
- สี : Elegant Black และ Sunrise Gold
Samsung Galaxy S23 (ราคา 30,900 บาท)
ปิดท้ายรุ่นสุดท้าย กับสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ที่พึ่งเปิดตัวไปตอนต้นเดือนกับ Samsung Galaxy S23 รุ่นที่เราเอามาแนะนำเป็นรุ่นเล็กสุดใน S23 Series แต่ถึงจะเป็นรุ่นเล็ก ประสิทธิภาพในด้านต่าง ๆ ก็ยังถือว่าเป็นมือถือที่ครบครันอีกรุ่นนึง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องกล้องที่มีความละเอียด 50 ล้าน และกล้องหน้า 12 ล้าน ที่ถือว่าอยู่ในคุณภาพที่ดี และสีของ S23 Series ปีนี้น่าจะถูกใจผู้หญิงหลาย ๆ คน (ผู้เขียนชอบสี Lavender มาก มันดูหวานมากก) ด้วยขนาดหน้าจอ 6.1 นิ้ว ที่ไม่ได้ใหญ่มาก บวกกับน้ำหนักของตัวเครื่องที่หนักแค่ 168 กรัม ทำให้เรื่องพกพานั้นเป็นเรื่องที่ง่ายมาก ๆ
สเปกของ Samsung Galaxy S23
- หน้าจอ : Dynamic AMOLED 2X ขนาด 6.1 นิ้ว รีเฟรชเรท 120Hz รองรับ HDR10+
- ชิปเซต : Qualcomm Snapdragon 8+ Gen 2
- ขนาดความจุ : 128GB , 256GB , 512GB
- RAM : 8GB
- กล้อง
- กล้องเลนส์หลักความละเอียด 50MP (f/1.8)
- กล้องเลนส์ Ultrawide ความละเอียด 12MP (f/2.2)
- กล้องเลนส์ Telephoto ความละเอียด 10MP (f/2.4)
- กล้องหน้าความละเอียด 12MP (f/2.2)
- ลำโพง : ลำโพงคู่ด้านบนและด้านล่างตัวเครื่อง
- แบตเตอรี่ : 3900mAh พร้อมชาร์จไว 25W
- เครือข่าย : 3G , 4G , 5G
- ซอฟต์แวร์ : Android 13 , One UI 5.1
- น้ำหนัก : 168 กรัม
- วัสดุตัวเครื่อง : ขอบเครื่องอลูมีเนียมและกระจกด้านหลัง
- สี : Phantom Black, Cream, Lavender และ Graphite
มือถือทั้ง 5 รุ่นนี้ มีความโดดเด่น ไม่เหมือนกัน สำหรับใครที่ชอบเซลฟีบ่อย ๆ ชอบกล้องสดที่มีความฟรุ้งฟริ้งในตัว แบบถ่ายจบในเครื่องไม่ต้องไปแต่งในแอป ก็คงแนะนำไปทาง vivo V25 และ OPPO Reno 8T 5G หรือใครที่ชอบสายสมจริง เรียล ๆ เคสมีให้เลือกเยอะ ก็คงต้องไปทาง iPhone 14 ส่วนคนไหนเป็นสายพกพา สายแฟชั่น เครื่องเบา ๆ ก็คงต้องไปทาง Samsung S23 และ Samsung Galaxy Z Flip 4 แล้วครับ
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส