หลายคนที่ติดตามหน้าฟีดเฟซบุ๊กของผม (ยินดีด้วยครับที่คุณไม่ถูกพี่มาร์กปิดกั้น) อาจจะรู้แล้วว่า ตอนนี้ผมได้ติดตามคณะกรรมการ อพวช. มาที่ประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งถ้าใครไม่คุ้นกับตัวย่อนี้ ผมขอให้คุณนึกถึงอาคารทรงลูกเต๋าอันเป็นที่ตั้งขององค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ หรือตัวย่อ อพวช. นั่นเองครับ

คณะของเรานำทีมโดย ศ.ดร.นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ที่ควบคณะกรรมการ อพวช. ด้วย โดยหมุดหมายแรกที่พวกเราไปถึง คือ บริษัท ซิกงเทค จำกัด เพื่อไปรับฟังแนวคิดในการออกแบบศูนย์นวัตกรรมแห่งอนาคต สำหรับการเตรียมความพร้อมในการบริหารศูนย์นวัตกรรมแห่งอนาคตของ อพวช. ครับ

และภายในวันเดียวกัน คณะของเราก็ได้พูดคุยกับผู้บริหาร National Aviation Museum of Korea ในประเด็นการบริหารจัดการพิพิธภัณฑ์ เพื่อพัฒนานิทรรศการด้านเทคโนโลยีการบิน และเมื่อมาถึงที่นี่แล้ว เราก็ไม่พลาดที่จะได้ไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ National Aviation Museum of Korea (NAMOK) ครับ

มาเป็นหมู่คณะ ก็ต้องถ่ายรูปเป็นหมู่คณะครับ
สีหน้าของผมน่าจะบรรยายได้ดีที่สุดว่า เรื่องราวที่ได้ฟังมันน่าทึ่งขนาดไหน

หลังจากนั้นคณะของเราก็ไปเปิดหูเปิดตาที่พิพิธภัณฑ์ KOREA JOB WORLD ซึ่งเป็นศูนย์การเรียนรู้ขนาดใหญ่ในจังหวัดคยองกีโด ประเทศเกาหลีใต้ ที่นี่เป็นโลกจำลองนิทรรศการที่เกี่ยวกับอาชีพทั้งในปัจจุบันและอนาคตครับ ซึ่งจัดไว้หลากหลายโซนตามช่วงอายุของเด็ก ๆ ที่มีความรู้ความสนใจแตกต่างกัน ถ้าคุณนึกภาพไม่ออก (อีกแล้ว) ผมขอเปรียบเทียบว่า โซนเด็กเล็กของที่นี่ มันคือสิ่งที่บ้านเราเคยมีแล้ว (และเจ๊งแล้ว) นั่นก็คือ KidZania®️ ที่ Siam Paragon ครับ ซึ่งเรื่องนี้ผมก็ได้เล่าประสบการณ์พ่อแม่ที่มีต่อ KidZania®️ ให้คณะกรรมการ อพวช. ฟัง แล้วทุกคนลงความเห็นเบื้องต้นว่า น่าเอากลับมาทำใหม่โดยรัฐ เพราะเราเห็นด้วยตาแล้วว่าการ “มอบประสบการณ์ให้เด็ก” คือสิ่งที่วิเศษ

สำหรับโซนเด็กโต ผมมองว่าบ้านเรายังไม่เคยมีครับ แต่ที่นี่เขายกระดับประสบการณ์การทำงานให้จริงจังขึ้น อย่างฉากห้องพิจารณาคดีนี่มีบทบาทสมมติกันจริงจังเลย ทุกอย่างดูเคร่งขรึมมากกว่าโซนเด็กเล็ก และพอสำรวจไปเรื่อย ๆ ผมเห็นห้องอาชีพต่าง ๆ ของ JOB WORLD แล้วก็รู้เลยว่าทำไมเกาหลีถึงเจริญ ทำไมคนเกาหลีระดับโลกถึงกำเนิดขึ้น เพราะเขาให้ความสำคัญกับการ “เขียนภาพให้ชัด” ของชีวิตตั้งแต่เล็ก (และมันส่งผลให้ Direction ของประเทศก็เลยชัดเจนมายาวนานด้วย) ซึ่งเด็กวัยรุ่นโตสุดของกลุ่มเป้าหมายจะได้ทำ Career Planing ซึ่งเป็นกิจกรรม Interactive ที่ใช้ผลวิจัยมนุษย์จากมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ในเกาหลีมา “แนะแนว” ว่าเยาวชนคนนี้น่าจะเดินเส้นทางไหนในชีวิตได้ดี

ถ้าให้ผมสรุปสิ่งที่ได้พบจาก JOB WORLD ฉบับย่อแล้ว ผู้ใหญ่เกาหลีกำลังสอนเด็ก ๆ ว่า “จะทำอาชีพดี ๆ ได้นั้นไม่ยาก” ครับ

ขออภัยที่รูปส่วนนี้อาจจะมีไม่มาก เพราะหากจะลงเผยแพร่ ผมต้องเซนเซอร์ใบหน้าของเด็ก ๆ เยอะมาก รอติดตามใน Reels Style ที่จะมีทีมงานช่วยดูแลดีกว่าครับ

ต่อมาคณะของเราไปพบและพูดคุยกับ เอกอัครราชทูตวิชชุ เวชชาชีวะ และทีมสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล ซึ่งบันทึกโน้ตทั้งหมดต่อไปนี้ ผมได้บันทึกเอาไว้เอง และได้รับความกรุณาตรวจทานให้ทั้งหมดโดยท่านเอกอัครราชทูตครับ

Nui's Note in Korea
เอกอัครราชทูตวิชชุ เวชชาชีวะ ให้การต้อนรับคณะกรรมการ อพวช. ณ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล

Overview 2023

เกาหลีใต้กำลังประสบภาวะประชากรลดลง อัตราการเกิดของชาวเกาหลีใต้ต่ำกว่าไทยคือ อยู่ที่ราว 0.78 (ประเทศไทยเราอยู่ราว 1 ความหมายคือ แต่งงาน 2 มีลูก 1 ในขณะที่อัตราทดแทนตามธรรมชาติที่ทำให้จำนวนประชากรคงตัวคือ แต่งงาน 2 มีลูก 2) ทำให้เกาหลีใต้ประสบปัญหาขาดแคลนแรงงาน และต้องพึ่งพาแรงงานต่างชาติมากขึ้น ทั้งแรงงานที่มีทักษะและไร้ทักษะ

วิธีคิดของเกาหลีใต้

วิทยาศาสตร์ไม่ได้ลอยอยู่ในอากาศ แต่วิทยาศาสตร์ต้องตอบโจทย์เศรษฐกิจของประเทศและประชาชน ในขณะที่การศึกษาต้องตอบโจทย์ปัญหาปากท้อง ต้องยอมรับว่าสังคมเกาหลีใต้นั้นมีการแข่งขันสูง เพราะเขาดูความสามารถในการปฏิบัติ ใบปริญญาจึงไม่สำคัญเท่าความสามารถที่มีอยู่จริง และความสามารถของคนวัดจากความสามารถในการแข่งขันกัน ทำให้สังคมเกาหลีใต้มีการแข่งขันตลอดเวลา และมาตรวัดสูงสุดก็คือ คนเกาหลีใต้ต้องแข่งขันกับต่างประเทศได้ Product ที่เกาหลีใต้ทำ ต้องแข่งขันกับ Product ระดับโลกได้

นโยบายเศรษฐกิจจะมองไปข้างหน้าตลอด เพื่อได้ Growth Engine ตัวใหม่ ๆ มาขับเคลื่อนจังหวะต่อไป ซึ่งจะสะท้อนกลับมาเป็นโจทย์ว่า หลักสูตรการศึกษาต้องปรับพัฒนาอย่างไร บุคลากรสาขาใดควรสร้างขึ้นเพิ่ม ซึ่งภายใต้รัฐบาลปัจจุบัน เกาหลีใต้มุ่งสร้าง Growth Engine ตัวใหม่ ๆ อาทิ อุตสาหกรรมพลังงานนิวเคลียร์ (ทั้งส่งออกการก่อสร้าง บำรุงรักษา และรื้อถอนเตาปฏิกรณ์) อุตสาหกรรมอาวุธ … มุ่งกระเถิบจากอันดับ 8-9 ไปสู่อันดับ 4 ของโลก 

ส่วน Quantum Technology ก็วางไว้ว่าตัวเองจะครองอันดับ 4 ของโลกภายในปี 2578 (ค.ศ. 2035) และมุ่งเป้าเพิ่มบุคลากรด้านนี้สำหรับระดับปริญญาโท จากที่มีในปัจจุบัน 1,000 คนเป็น 10,000 คน และปริญญาเอกจาก 384 คนเป็น 2,500 คนภายในปี 2578 ส่วนกิจการอวกาศตั้งเป้าไม่เพียงส่งยานไปลงดวงจันทร์ในปี 2575 เท่านั้น แต่ต้องตอบโจทย์อุตสาหกรรมการผลิตที่เกี่ยวเนื่องของประเทศด้วย

เมื่อทุกอย่างที่เซ็ตธงแล้ว ก็ถูกนำมาพัฒนาบุคลากรให้ตอบโจทย์ชัดเจนครับ

สำหรับ Vision การพัฒนาเศรษฐกิจเกาหลีใต้นั้นเปลี่ยนแปลงจากภายใต้ระบอบทหารที่เน้นอุตสาหกรรมหนัก มาเป็นอุตสาหกรรม High-Tech และอุตสาหกรรมบันเทิงมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยในยุครัฐบาลพลเรือนในช่วงทศวรรษ 1990 

ช่วงแรก ผู้นำรัฐบาลทหารกำหนด Vision และดำเนินการพัฒนาอุตสาหกรรมหนักเป็นรากฐานให้เศรษฐกิจเกาหลีใต้ ทำให้กลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่หรือ “แชโบล” เติบโตมีกำลัง จนครอบครองตัวเลขราว 75 % ของมูลค่าเศรษฐกิจของประเทศในปัจจุบัน

ปัจจัยช่วยคือ การเกาะเกี่ยวกับตลาดและ Supply Chain ของสหรัฐอเมริกาในการผลิตและส่งออกสินค้าและบริการ ในขณะที่รัฐบาลทหารยังมีการเซนเซอร์สื่อมวลชนและการแสดงออกของประชาชนอย่างเข้มงวด (ในช่วงเวลานั้น) 

เมื่อรัฐบาลพลเรือนเข้ามาแทนที่และเข้มแข็งขึ้น ธุรกิจของกลุ่มแชโบลพัฒนาไปสู่ความ High-Tech ขึ้นเรื่อย ๆ ขณะที่มีธุรกิจใหม่ ๆ เกิดขึ้นจากบรรยากาศประชาธิปไตยและเสรีนิยมเบ่งบาน อาทิ อุตสาหกรรมบันเทิง K-Pop, K-Series, เกมออนไลน์ ฯลฯ โดยกลุ่มทุนใหม่ที่ไม่ใช่แค่แชโบล ได้สร้างสรรค์ผลักดันธุรกิจอุตสาหกรรมนี้ขึ้นจนมีมูลค่าเศรษฐกิจไม่แพ้อุตสาหกรรมของหลายบริษัทในเครือแชโบล

อย่างไรก็ตาม การตรวจสอบคอนเทนต์เหล่านี้ยังคงมีอยู่ แต่เปลี่ยนจากหน่วยงานเซนเซอร์ของรัฐมาเป็น Ethic Committee (ผมขอแปลว่า คณะกรรมการจริยธรรม) ของแต่ละสาขาธุรกิจครับ

รัฐบาลทหารของเกาหลีใต้ต่างจากรัฐบาลทหารในประเทศอื่น ๆ ตรงที่สามารถวางพื้นฐานการพัฒนาเศรษฐกิจได้ถูกทาง ซึ่งก็คืออุตสาหกรรมหนัก (Heavy Industry) ที่มีประสิทธิภาพและสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ ไม่ใช่อาศัยแค่ตลาดในประเทศ หรือได้รับการสนับสนุนจากรัฐ จนกลายเป็นอุตสาหกรรมเฒ่าทารกที่ไม่รู้จักโต (แต่จะโตเพื่อเรียกร้องเงินสนับสนุนจากรัฐไปเรื่อย ๆ) จนทำให้เหนี่ยวรั้งเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศ  

การวางรากฐานที่ถูกต้อง ทำให้กลุ่มธุรกิจแชโบลต่อยอดไปยังอุตสากรรมที่ประณีตขึ้นได้ เช่น กลุ่ม LG หรือ SK ส่วนหนึ่งต่างโตมาจากสาขาปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ ก็สามารถเปลี่ยนแปลงธุรกิจไปยังอุตสาหกรรม Biotechnology หรือเทคโนโลยีชีวภาพได้ครับ

Nui's Note in Korea
ผมบอกแล้วไงครับ มาเป็นหมู่คณะ ก็ต้องถ่ายรูปเป็นหมู่คณะครับ

เจริญแล้วไม่ใช่ว่าไม่มีปัญหา

ปัญหาหนึ่งคือความเจริญที่กระจุกตัวที่กรุงโซล (Seoul) เมืองหลวงของประเทศ แต่รัฐบาลเกาหลีใต้ก็พยายามกระจายความเจริญ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างเมืองใหม่ให้ส่วนราชการ บริษัทเอกชน มหาวิทยาลัย และอุตสาหกรรม โดยกระจายออกไปที่เมืองอื่น ๆ เช่น อินชอน (Incheon) เป็นศูนย์ธุรกิจการบิน และอุตสาหกรรมกับการวิจัยด้านเทคโนโลยีชีวภาพ, เซจง (Sejong) เป็นเมืองราชการใหม่   

เกาหลีใต้ยังไปลงทุนในเวียดนามอย่างต่อเนื่องและเข้มข้นมาก ปัจจุบัน มีบริษัทธุรกิจเกาหลีใต้ที่ลงทุนในเวียดนามแล้วกว่า 9,000 บริษัท มีนักศึกษาเวียดนามมาเรียนที่เกาหลีใต้เพื่อเอา Know-How ราว 70,000 คน โดยเน้นไปที่ด้านวิทยาศาสตร์ (ขณะที่มีนักเรียนไทยมาเรียนที่เกาหลีใต้เพียง 600 กว่าคนเท่านั้น)

Nui's Note in Korea

วิธีที่ปลัดกระทรวง อว. คือ ศ.ดร.นพ.สิริฤกษ์ เสนอคืออยากกันส่วนเด็กไทยที่ได้ทุนมาเรียนไว้ด้วยกันก่อนซักปี เพื่อเตรียมตัวก่อนปล่อยเข้าระบบเกาหลี (เหมือนนักเรียนทุนไทยในญี่ปุ่น) เพื่อป้องกันการให้ทุนแล้วขอกลับก่อน โดยเกาหลีใต้สนใจรับนักศึกษาต่างชาติ แต่นักศึกษาต่างชาติพึงรู้ว่า…

  1. การศึกษาเขาแข่งกันจริงจัง คุณแข่งไหวไหม ?
  2. การศึกษาเขาอยู่ใต้วัฒนธรรมเกาหลี ซึ่ง “อาจารย์เป็นที่สุด” (และอาจโหดสุดในการสอน) คุณเคารพอาจารย์เขาได้ไหม ?

เอกอัครราชทูตฯ จึงแนะนำว่าหน่วยงานไทยต้องมีการบริหารความคาดหวังของนักศึกษาก่อนมา เช่น ให้ศิษย์เก่าชาวไทยของมหาวิทยาลัยเกาหลีใต้มาเล่าประสบการณ์และให้ข้อมูล เพื่อผู้ที่สนใจมาจะได้เตรียมตัวว่าจะขยันและอดทนต่อการศึกษาและวัฒนธรรมการสอนของเกาหลีใต้ได้ไหม ? อย่างไร ? โดยเป็นการบอกให้รู้ก่อนเลยว่ามาแล้วต้องเจออะไรบ้าง

Nui's Note in Korea
ทริปนี้ดูเยอะ ถามเยอะ และตกลงกันตรงนี้เลยว่าจะกลับไปทำ เพราะหน้าเอกสารกำหนดการเดินทางระบุชัดว่า No Shopping / No Duty Free ชอบใจ! ผมถึงมาด้วยนี่ไง!

สำหรับปรากฎการณ์ผีน้อยไทยยังไม่ลดลง (ผีน้อยมาจากคำว่า ปินอย) และผีน้อยมีมาจากหลายชาติไม่ใช่แค่ไทย แต่ไทยมีผีน้อยเป็นจำนวนมากราว 35% ของผีน้อยทั้งหมด ซึ่งคนเกาหลีใต้ส่วนใหญ่ไม่ได้เห็นว่าผีน้อยเป็นปัญหา เพราะเขาต้องการแรงงานต่างชาติมาช่วย โดยเฉพาะในอุตสาหกรรม SMEs

อย่างไรก็ตาม การมีผีน้อยมาก ๆ ทำให้เจ้าหน้าที่ ตม. เข้มงวดต่อการเดินทางของคนไทยเข้ามาเกาหลีใต้ เพราะมีจำนวนมากที่อาศัยการท่องเที่ยวมาลักลอบทำงานแบบผิดกฎหมาย เพราะว่าแรงงานถูกกฎหมายมีต้นทุนที่สูงกว่า เช่น ต้องได้ค่าจ้างตามค่าแรงขั้นต่ำ (ซึ่งสูงมากเกือบ 60,000 บาทต่อเดือน) โดยนายจ้างต้องออกเงินสมทบเป็นค่าประกันสังคมให้ ฉะนั้น ธุรกิจเล็ก ๆ ในเกาหลี จึงชอบแรงงานผีน้อย

ชาวเกาหลีใต้ยังมีความรู้สึกที่ดีต่อชาวไทย เพราะไทยเคยส่งทหารมาร่วมรบในสงครามเกาหลี (เกาหลีใต้มี 2 กระทรวงที่ประเทศอื่น ๆ ไม่มีคือ กระทรวงกิจการชาติและทหารผ่านศึก / กระทรวงรวมชาติ โดยทุกวันนี้เขายังดูแลสวัสดิการให้ทหารไทยที่เคยมาผ่านศึก (และบุตร) ติดตามมาให้ถึงในประเทศเรา) สำหรับคนไทยมาอยู่ที่นี่ราว 200,000 คน แต่ไม่มีย่าน Thai Town ที่ชัดเจน ซึ่งมีย่านชุมชนชาวไทยที่กระจุกตัวกันอยู่หลายที่ ทั้งในกรุงโซล และตามเมืองอุตสาหกรรม ในขณะที่ย่างฮงแดในกรุงโซลก็มีซูเปอร์มาร์เก็ตขายเครื่องปรุง วัตถุดิบ และสินค้าไทย ชื่อ “หนองคาย” และมีร้านอาหารไทยบริเวณนั้นจำนวนมาก

Nui's Note in Korea
งานศิลปะชิ้นนี้ตั้งอยู่ในสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล เป็นผลงานของ  AlexFace™️ ศิลปินชาวไทย

แวะกลับมาเล่าต่อถึงยักษ์ใหญ่ : แชโบล

ต้องบอกว่า แชโบลเป็นกลุ่มทุนที่ได้ประโยชน์เต็มเม็ดเต็มหน่วยจากนโยบายภาครัฐ เพราะสร้างงานและสร้างคนได้มาก ซึ่งคนเกาหลีใต้เองก็รู้สึกทั้งรักทั้งชังกลุ่มแชโบล เพราะในแง่หนึ่ง แชโบลเป็นตัวสร้างความเจริญให้ประเทศ นำรายได้จากต่างประเทศเข้าสู่เกาหลีใต้ แต่ในอีกแง่หนึ่งก็ครอบงำธุรกิจและการจ้างงานที่ดี

ความสัมพันธ์ระหว่างแชโบลในกลุ่มบริษัทต่าง ๆ ด้านหนึ่งคือแข่งขันกันหนักมาก เพราะต่างมุ่งพัฒนาคุณภาพสินค้าและบริการให้ได้ลูกค้าจากต่างประเทศ นั่นก็เพราะว่าเขาแข่งกันเอง เพราะ “มองโลกเป็นตลาด” ไม่ใช่มุ่งแค่ตลาดภายในเกาหลีใต้เป็นสำคัญ โดย SMEs ส่วนหนึ่งก็อยู่ภายใต้แชโบล แต่อีกส่วนที่ไม่อยู่ รัฐบาลต้องเข้ามาช่วย โดยมีกระทรวง SMEs ช่วยดูแล แต่การดูแลของรัฐไม่ใช่การให้เปล่า หรือดูแลแบบเลี้ยงเฒ่าทารก เขามีกระบวนการคัดเลือกที่ตรวจสอบได้ เมื่อเลือกเข้ามาแล้วก็มีการวัดผล ประเมินผล เพื่อให้เอกชนพัฒนาประสิทธิภาพ (วัดด้วยการแข่งขันกับต่างประเทศได้) หากทำไม่ได้ก็เลิกสนับสนุน ซึ่งเขาไม่ได้ส่งเสริมแบบให้รางวัล แต่ “ลงโทษด้วย” เป็นจุดแข็งของสังคมเกาหลีใต้

ส่วนเรื่อง ‘ลิซ่า’ ที่คนเกาหลีกำลังเรียกร้องให้ค่ายเพลงเลิกเอาต่างชาติมา Debut จริงไหม ? ไม่น่าใช่ครับ เพราะตลาดหลักของ K-Pop ยังอยู่ใน Southeast Asia และยังตัดการพัฒนาศิลปินจากไทยไม่ได้แน่ ๆ ซึ่งข่าวประมาณนี้เกิด ขณะนี้ลิซ่ายังไม่ต่อสัญญากับ YG เลยเหมือนว่าบริษัทใช้มวลชนกดดันเล็ก ๆ ให้ต่อสัญญา แต่ทุกอย่างเป็นเพียงกระแสข่าว ยังไม่ใช่เรื่องสรุปครับ

ผมทิ้งท้ายเล็ก ๆ น้อย ๆ เกี่ยวกับสังคมเกาหลีใต้ที่ผมเจอในทริปนี้ ก่อนที่เราจะได้มาเล่ากันยาว ๆ ในคลิปของสื่อ beartai®️ ว่า

  • คนมาสาย ไม่รอ (แต่สังคมไทยรอคนมาสายแล้วค่อยประชุม จึงเป็นการให้รางวัลคนมาสายและลงโทษคนที่มารอ… ถูกไหมล่ะ ?)
  • ลึก ๆ คนเกาหลีใต้รู้สึกว่าแชโบลครอบงำเศรษฐกิจ แต่ก็เห็นว่าแชโบลช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เจริญเติบโต (เหมือนเป็น Love Hate Relationship เราจึงเห็นผู้ร้ายในซีรีส์เกาหลี มักเป็นประธานแชโบล และผู้ร้ายอีกตัวมักเป็นอัยการ)
  • คนเกาหลีใต้รู้ว่าการเข้าทำงานกับกลุ่มแชโบลได้ คือการสร้างหลักประกันให้ชีวิต จึงยอมแข่งขันหนักและทำงานหนักมาก
  • อาชีพบันเทิงก็มีคนอยากเข้ามาทำงานเยอะ การกวดวิชาในเด็กมีทุกเรื่องทุกสาขา รวมทั้งอาชีพบันเทิง ซึ่งทำเงิน

อย่าลืมนะครับ เรามีนัดกันทางคลิปของสื่อ beartai®️ เร็ว ๆ นี้ แล้วถ้าชอบก็ช่วยแชร์ด้วยนะครับ

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส