แบไต๋ได้มีโอกาสมาเยือนถึง Samsung Headquarters หรือ Samsung Digital City ที่ตั้งอยู่ในเมืองซูวอน ประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งเราก็ได้เห็นตั้งแต่ประวัติศาสตร์ของอุปกรณใช้ไฟฟ้า และ Semiconductor ตั้งแต่เริ่มจนปัจจุบัน และได้เห็นส่วนต่าง ๆ เยอะแยะมากมาย ตั้งแต่แผนก R&D ไปยันครัวทานข้าวของพนักงานเลยทีเดียว

มาถึงเราก็จะเจอกับ Central Park ซึ่งก็ตามชื่อเลยครับ เป็นจุดเชื่อมตึก R&D ทั้งหมดเข้าด้วยกัน เดินผ่านไปมากันได้ โดย Facility ทั้งหมดของซัมซุงตั้งอยู่ในเมืองซูวอนที่กินพื้นที่ขนาดใหญ่ถึง 1.72 ล้านตารางเมตร มีพนักงานที่ทำงานอยู่ที่นี่มากถึง 37,000 คนด้วยกันเลยทีเดียว เป็นสมาร์ตซิตี้ที่ถือว่ามีความสำคัญทางเศรษฐกิจอย่างมากในประเทศเกาหลีใต้

สิ่งแรกที่ได้เข้าไปเยี่ยมชมเมื่อมาถึงก็คือส่วนของ Samsung Innovative Museum หรือ SIM ที่มีการนำเอาประวัติศาสตร์ของเครื่องใช้ไฟฟ้ามาเล่าให้ฟังในรูปแบบ Walk Tour ตั้งแต่เริ่มต้นการคิดค้นหลอดไฟ เรื่อยมา และมีประวัติศาสตร์แบรนด์ของ Samsung ตั้งแต่ยุคแรกเริ่มด้วย สมัยตั้งแต่ยังมีโลโก้เป็นดาว 3 ดวง ซึ่งเป็นความหมายของชื่อ Sam – เลข 3 และ Sung ที่แปลว่าดาว จนมาถึงยุคโลโก้วงกลม และโลโก้ที่เป็นเพียงแค่ตัวหนังสือสีฟ้าอย่างเดียวในปัจจุบัน

โซนนี้เป็นโซนที่โชว์เคสประวัติศาสตร์ของวงการคอมพิวเตอร์ และ Semiconductor ซึ่งก็จะมีไทม์ไลน์การพัฒนาชิปเซตตั้งแต่ยุคแรก ๆ ของซัมซุงไล่มาจนถึงปัจจุบันด้วย

อีกอันที่น่าสนใจ และเป็นโซนที่ผมชอบมาก ๆ ก็คือวิวัฒนาการของโทรศัพท์มือถือตั้งแต่ยุคแรก! ซึ่งจุดนี้จะไม่ได้มีแต่ของ Samsung อย่างเดียว แต่จะมีตั้งแต่ยุค Nokia, Mobira Talkman และพวกอุปกรณ์ ‘ครั้งแรก’ บนสมาร์ตโฟนต่าง ๆ ด้วย เช่นมือถือที่มีกล้องถ่ายรูปตัวแรก มือถือจอทัชสกรีนตัวแรก เป็นต้น

ส่วนทางฝั่งตู้กระจกนี้จะเป็นไทม์ไลน์ ‘ครั้งแรก’ เหมือนกันแต่ก็จะเป็นของ Samsung นั่นเอง

นี่คือ Samsung Theatre ที่มีจอที่มีอัตราส่วนกว้างมากกก โดยทางซัมซุงก็ได้ทำคลิปโลกแห่งความสมาร์ตในอุดมคติของซัมซุงให้ชมครับ

eX Home

ทางฝั่งนี้จะเป็นโชว์เคส Ecosystem ของซัมซุงที่เรียกว่า eX Home ซึ่งเค้าก็จะเอาอุปกรณ์ต่าง ๆ มาเทสต์การใช้งานกันในนี้ด้วย แบ่งเป็นแกลเลอรีหลากประเภท ซึ่งตึกนี้จะอยู่ห่างจากตัวพิพิธภัณฑ์ประมาณ 5 นาที (นั่งรถ) โดยตัว eX Home ก็จะเป็นตึก ๆ นึงเหมือนกับเป็นบ้านหลังนึงเลย เล็ก ๆ แบ่งเป็นห้อง โดยภายในจะมีอุปกรณ์ IoT และ Smart Device ต่าง ๆ ของ Samsung อยู่มากถึง 298 ชิ้นเลยทีเดียว

โซนเอนเตอร์เทรน และเกมมิง

โซนเพลง และปาร์ตี้

โซนห้องนอน

โซนห้องนั่งเล่น และห้องครัว

และจุดสุดท้ายที่ทาง Samsung อนุญาตให้เข้าชมก็คือส่วนของ R&D ที่ทุกอย่างที่เป็นนวัตกรรม และเทคโนโลยีใหม่ ๆ รวมไปถึงโซลูชันต่าง ๆ นานา นั้นพัฒนาขึ้นในที่แห่งนี้แหละ รวมถึงเป็นจุดซัปพอร์ตพนักงานด้วย ยิม ฟิตเนส สระว่ายน้ำ ครัว Working Space อะไรก็ตามที่นี่มีครบ มียันโรงพยาบาล!

สำนักแรกที่ Samsung พาไปชมก็คือ C-Lab ที่ไม่ได้เป็นแล็บของ พี่ซี ฉัตรปวีณ์ แต่ย่อมาจาก ‘Creative’ ที่เป็น Department สำหรับการนำโครงการต่าง ๆ ที่ Samsung เห็นว่ามีความสามารถในการต่อยอดได้มาพัฒนาภายใต้คำว่า “Risk Free” ซึ่ง Samsung ก็ให้ระยะเวลาถึง 3 ปีเลย ในการทำผลงานออกมา

ตัวอย่างผลงานที่น่าสนใจก็คือการนำ Gear VR ในอดีตมาใช้กับผู้ที่มีวิสัยทัศน์ในการมองไม่ชัดจนเกือบบอด ซึ่งเจ้าตัว Gear VR ตัวนี้ก็จะเป็นเวอร์ชันที่ถูกเอาไปดัดแปลงนั่นเอง

ซึ่งจริง ๆ เราก็ได้เดินผ่านไปส่วนของ Smartphone Department ด้วยนะครับ แต่…. เราไม่สามารถเข้าไปชมได้เลย เพราะมีความลับทางการค้าอยู่เยอะ (ฮา)

จุดอื่น ๆ ที่น่าสนใจก็คือ ภายใต้ ส่วนของ R&D เนี่ย จะแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ก็คือส่วนของแผนก R3 R4 และ R5 ก็จะแบ่งออกเป็นส่วนในการพัฒนากันคนละด้าน

  • R3 ด้าน IT และเทคโนโลยีมือถือ
  • R4 ด้านดิจิทัล
  • R5 ด้านโทรศัพท์มือถือ

มีจุดซัปพอร์ตพนักงานเยอะมาก ร้านค้า ร้านข้าว ร้านอะไรเต็มไปหมด ซึ่งพนักงานที่นี่มีข้าวฟรีกินครบ 3 มื้อเลย ซึ่งมีอาหารที่น่าสนใจจากทั่วโลก รวมทั้งอาหารไทยด้วย

สระว่ายน้ำที่นี่เป็นไซส์โอลิมปิกเลยนะเนี่ย จริงจังมาก

ทัวร์ที่ Samsung พามาก็จะมีประมาณนี้ การที่ไปเห็นเมืองทั้งเมืองถูกแปรเปลี่ยนเป็น Smart City และล้อมรอบไปด้วยตึกต่าง ๆ ของซัมซุง เยอะแยะมากมายนี่เป็นอะไรที่น่าตื่นตามาก ๆ เลยล่ะครับ

ขอขอบคุณ Samsung Thailand อีกครั้งนะครับ สำหรับโอกาสหาชมได้ยากแบบนี้!

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส