ก่อนหน้านี้เว็บแบไต๋เราเคยมีการจัด 5 Gadget ที่ได้ใจทีมงานเว็บแบไต๋ประจำปี 2016 กันไปแล้วนะครับ ที่นี้มาถึงอีกหนึ่งหมวดที่ผู้ใช้และแอดมินเองสนใจไม่น้อย คือสมาร์ทโฟนที่เน้นการถ่ายภาพครับ ซึ่งในปี 2016 ที่ผ่านมาถือว่าสมาร์ทโฟนกลุ่มนี้พัฒนาไปเยอะมาก ทั้งในแง่สีสันภาพถ่าย การถ่ายในที่มืด หรือฟังก์ชั่นการทำงานต่างๆ ที่ปรับให้ลงตัวมากขึ้นในปีนี้ และนี้คือสมาร์ทโฟน 5 รุ่นที่เราคิดว่าถ่ายรูปได้เจ๋งสุดๆ ในปี 2016 ครับ
Huawei Mate 9
- ถ่ายภาพขาวดำสวยงาม สีดำลงลึก Contrast ดีเยี่ยม มี OIS ด้วย
- ถ่ายภาพสีสดใสเป็นเอกลักษณ์ หาสมาร์ทโฟนอื่นสู้ยาก
- เครื่องใหญ่ จอ 5.9 นิ้ว อาจจะจับลำบากหน่อย
Huawei Mate 9 สมาร์ทโฟนรุ่นพี่ของ Huawei P9 มือถือเน้นถ่ายภาพที่สร้างกระแสได้แรงที่สุดประจำปี 2016 ที่หัวเว่ยยังคงเล่นใหญ่จับมือแบรนด์ถ่ายภาพระดับตำนานอย่าง Leica ร่วมกันพัฒนากล้องสำหรับสมาร์ทโฟนขึ้นมาเป็นรุ่นที่ 2 หลังผลตอบรับจาก P9 ออกมาดีมากจน Huawei และ Leica จูบปากจับมือตั้งแล็ปพัฒนาเทคโนโลยีถ่ายภาพเพื่อสร้างเทคโนโลยีเกี่ยวกับภาพในยุคต่อไป
เอกลักษณ์ของ Huawei Mate 9 คือกล้องที่มี 2 เลนส์ ตัวแรกเป็นเลนส์ขาวดำความละเอียด 20 ล้านพิกเซล f/2.2 ตัวที่ 2 เป็นเลนส์ถ่ายภาพสีตามปกติ ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล f/2.2 ทำให้การถ่ายภาพขาว-ดำของ P9 นั้นได้สีสันที่ลงลึก มีมิติกว่าขาวดำของสมาร์ทโฟนรุ่นไหนๆ เพราะเป็นใช้เซนเซอร์เฉพาะเพื่อภาพขาว-ดำเลย และในส่วนของการถ่ายภาพสีมาพร้อมระบบ Hybrid Zoom ที่นำรายละเอียดจากเซนเซอร์ขาว-ดำที่ละเอียดกว่าเซนเซอร์สีมาผสม ทำให้การซูมในระดับ 2 เท่ายังได้ภาพที่คมชัด
จุดเด่นสำคัญอีกอย่างคือโหมดสีสันสดใสของ Mate 9 ที่ทำได้เยี่ยมมาก สีสันสดอย่างมีอารยะ ไม่ได้สดแบบเร่งวุ้น เร่งสด ทำให้ภาพจาก Mate 9 นั้นพร้อมใช้งานทันทีโดยไม่ต้องแต่งภาพซ้ำ เอาไปโพสต์ทีนี้ชอบมีคนมาทักว่าขอรูปสดจากกล้องหน่อย ซึ่งอยากจะบอกว่ารูปที่โพสต์นั้นแหละคือรูปสดจากกล้องแล้ว ไม่ได้แต่งอะไรเพิ่มเลย
นอกจากนี้ Huawei Mate 9 ยังมีโหมดถ่ายรูปอีกมากมาย ทั้งโหมด Manual ที่เรียกว่า Pro Mode ก็สามารถควบคุม ISO, ความเร็วซัตเตอร์ได้ รวมถึงถ่ายรูปเป็นไฟล์ RAW ได้ แล้วยังมีโหมดถ่ายน้ำตก โหมดถ่ายดาวเป็นเส้น โหมดถ่าย Panorama ให้เลือกใช้ตามสะดวก ส่วนกล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล f/1.9 ก็ถ่ายแล้วฟรุ้งฟริ้งเป็นมาตรฐานอย่างที่สมาร์ทโฟนจีนทำได้ แถมมีโหมด Panorama selfie ทำให้ถ่ายกล้องหน้าด้วยเลนส์มุมกว้างขึ้นได้
Huawei Mate 9 ได้แก้จุดอ่อนสำคัญของกล้อง Huawei P9 ไป 2 จุดครับ คือใส่ระบบป้องกันภาพสั่นไหว OIS มาให้แล้ว พร้อมถ่ายวิดีโอสูงสุดได้ที่ความละเอียด 4K ด้วย ทำให้ Mate 9 มีปัญหาภาพเบลอจากมือสั่นน้อยลง วิดีโอก็ถ่ายได้นุ่มนวลและชัดขึ้นเพราะได้ OIS+4K ครับ
ราคา: 23,900 บาท (ซื้อพร้อมโปรจากค่ายมือถือจะได้ราคาถูกกว่านี้)
ฟันธงด้านถ่ายภาพรับไป 5 ดาว!
เรื่องสีสันสดใสแบบมีอารยธรรม ภาพคมชัดพร้อมใช้แบบไม่ต้องแต่งเพิ่มนี้ยากที่จะหาสมาร์ทโฟนตัวไหนกิน Huawei Mate 9 ได้ (ยกเว้น P9 ไว้ตัวหนึ่ง) ใช้แล้วติดใจมาก
iPhone 7 Plus
- ทำงานรวดเร็ว โฟกัสเร็ว เชื่อใจได้ว่าจะได้ภาพที่โอเคแม้จะรีบ
- ภาพถ่ายให้รายละเอียดครบถ้วน สามารถเอาไปตกแต่งต่อได้สวยงาม
- แอปกล้องมาตรฐานไม่มีโหมดภาพแบบพร้อมใช้งาน ภาพสดจากกล้องสีสันจืดชืดไปหน่อย
ถ้า Huawei Mate 9 คือจ้าวแห่งกล้องสมาร์ทโฟนที่ไม่ต้องแต่งภาพ iPhone 7 Plus ก็คือจ้าวแห่งสมาร์ทโฟนที่ต้องแต่งภาพแหละครับ ไม่ใช่ว่ากล้องของ iPhone 7 Plus นั้นไม่ดีนะครับ ถ้ากล้องไม่ดีคงไม่ได้มาติดอยู่ในรายการนี้หรอก เพียงแต่กล้อง iPhone 7 Plus ไอโฟ้น ไอโฟนมากๆ
จุดเด่นของ iPhone 7 Plus คือกล้อง 2 เลนส์ครับ เลนส์หนึ่งให้ภาพมุมกว้างเทียบเท่าเลนส์ 28 mm แบบที่ iPhone เคยถ่ายได้มาตลอด (ซึ่ง iPhone 7 จะมีแค่เลนส์ตัวนี้) มีรูรับแสง f/1.8 ส่วนเลนส์อีกตัวให้ภาพซูม 2 เท่าจากเลนส์ตัวแรก เทียบเท่าเลนส์ 56 mm f/2.8 ก็ทำให้ iPhone 7 Plus สามารถซูมภาพได้ 2 เท่าโดยไม่สูญเสียความละเอียด 12 ล้านพิกเซลไปครับ นอกจากนี้ iPhone 7 Plus ยังสามารถนำข้อมูลจาก 2 กล้องมาถ่ายภาพใน Portrait Mode เพื่อให้ได้ภาพหน้าชัดหลังเบลอแบบเนียนตาหน่อยก็ได้
ลักษณะภาพจาก iPhone 7 Plus นั้นเหมือนกับ iPhone รุ่นก่อนๆ เลย (ถึงบอกว่าไอโฟ้น ไอโฟน) คือให้สีสันถูกต้อง วัด White balance แม่นยำ โฟกัสเร็ว เปิดใช้งานได้รวดเร็ว แถมรุ่นนี้ถ่ายกลางคืนได้ดีขึ้นด้วย เพราะรูรับแสงกว้างขึ้น ระบบกันสั่นเทพด้วย ถ่ายวิดีโอได้นิ่มมาก ก็เป็นกล้องที่เชื่อใจได้เสมอมา
แต่ที่น่าเบื่อคือสีสันของมันครับ จืดชืดตลอดมา และคงตลอดไป สีสันแบบนี้เหมาะสำหรับเอาไปเข้าแอปแต่งต่อไปครับ ได้รายละเอียดครบถ้วน ซึ่งหลายครั้งเราก็ขี้เกียจแต่งนะ ช่วยมีโหมดสีสดใส ถ่ายแบบพร้อมใช้ได้เลยมาให้เลือกบ้างก็ได้นะ (โหมด Chrome ไม่นับ เพราะสีไม่สวยเท่าไหร่ เน้นสดขึ้นอย่างเดียว)
ส่วนกล้องหน้า 7 ล้านพิกเซล f/2.2 ก็แสดงภาพตามความจริงแบบฝรั่งครับ อยากฟรุ้งฟริ้งก็ต้องหาแอปแต่งเอา ส่วนโหมดพิเศษในการถ่ายภาพก็มีไม่เยอะ มีแค่ Panorama, slow motion, live photo, time lapse เหมือนไอโฟนรุ่นก่อนๆ ครับ ไม่มีโหมด Manual และถ่าย RAW ไม่ได้ด้วย ต้องลงแอปเพิ่มอย่างเดียว
ราคา: iPhone 7 Plus เริ่มต้น 31,500 บาท (ซื้อพร้อมโปรจากค่ายมือถือจะได้ราคาถูกกว่านี้)
ฟันธงด้านถ่ายภาพรับไป 4 ดาว!
เป็นกล้องที่เชื่อใจได้เสมอ เปิดกล้องเร็ว ทำงานเร็ว แต่ภาพออกมาจืดนี่สิ ใครชอบภาพแนวนี้ หรือชอบเอาไปแต่งต่อก็โอเคนะครับ
Samsung Galaxy S7, S7 edge
- สเปกกล้องขั้นเทพ ถ่ายกลางคืนได้อย่างดี
- ทำงานเร็ว โฟกัสไว โหมดถ่ายภาพเยอะ
- ระบบป้องกันภาพสั่นไหวทำให้ภาพวิดีโอดรอปไปหน่อย
ถ้าคิดถึงสมาร์ทโฟนที่ถ่ายภาพได้ดีเยี่ยมแห่งปี 2016 เราคงลืมตระกูล Samsung Galaxy S7 ไปไม่ได้ครับ ด้วยกล้องที่ปรับปรุงขึ้นอย่างมากในสมาร์ทโฟนเรือธงปีนี้ ทำให้ S7 กลายเป็นหนึ่งในสมาร์ทโฟนตัวโปรดของผู้รักการถ่ายภาพ
จุดเด่นของกล้อง Galaxy S7 นั้นจัดเต็มมาตั้งแต่สเปก ด้วยกล้องหลัง 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.7 นั้นยากที่จะหาใครสู้ด้วย โดยเฉพาะการถ่ายภาพในยามค่ำคืนที่ S7 ยังคงอยู่ในกลุ่มผู้นำมาตลอดปี ถ่ายวิดีโอ 4K ก็ได้ แล้วยังมีเทคโนโลยีอย่าง Dual Pixel Sensor ที่ใช้ในกล้อง mirrorless เพื่อช่วยค้นหาโฟกัสได้รวดเร็วขึ้น ในขณะที่กล้องหน้า 5 ล้าน f/1.7 ก็ทำให้ถ่ายภาพยามค่ำคืนได้ดี พร้อมเปิดไฟแฟลขจากจอได้ด้วย
กล้องของ Galaxy S7 นั้นทำงานได้อย่างดีจนเชื่อใจได้ว่าจะทำงานถ่ายภาพได้อย่างรวดเร็วในสถานการณ์เร่งด่วน โฟกัสไวจนมั่นใจว่าภาพจะคมชัด ภาพถ่ายที่ได้มีการวัดแสงที่ดี ปรับ White balance อย่างเที่ยงตรง มีโหมดการถ่ายภาพให้เลือกใช้มากมาย เช่น Motion Photo ที่เก็บภาพเคลื่อนไหวพร้อมกับการเก็บภาพนิ่ง (เหมือน Live Photo ของ iPhone), โหมด Hyperlapse ที่ทำวิดีโอเร่งความเร็วที่สามารถเคลื่อนไหวไปด้วยได้, Motion Panorama ที่บันทึกภาพเคลื่อนไหวแบบพาโนราม่าได้
ข้อสังเกตของกล้อง Galaxy S7 หลักๆ คือเวลาถ่ายวิดีโอก็ไม่ได้เปิดโหมดป้องกันภาพสั่นไหวเป็นค่ามาตรฐานด้วย แต่เมื่อเปิดแล้วคุณภาพวิดีโอจะดรอปไปหน่อย ซึ่งก็รอดูใน Galaxy S8 ที่น่าจะปรับปรุงในจุดนี้ครับ
ราคา: Galaxy S7 ราคา 23,900 บาทและ S7 Edge ราคา 26,900 บาท (ซื้อพร้อมโปรโมชั่นจากค่ายมือถือจะได้ถูกกว่านี้)
ฟันธงด้านถ่ายภาพรับไป 5 ดาว!
กล้องมือถือที่แทบจะสมบูรณ์แบบ เชื่อใจได้ เครื่องแรงด้วย
Google Pixel ชื่อรุ่นก็บอกแล้วว่าเน้นภาพ
- ถ่าย Auto ได้เทพที่สุดตัวหนึ่งของโลก HDR+ ทำให้เก็บรายละเอียดภาพได้เยอะ
- ได้สิทธิ์ใช้ Google Photo เก็บภาพต้นฉบับแบบไม่จำกัดฟรี
- แอปกล้องมาตรฐานลูกเล่นไม่เยอะ ถ่าย Manual ไม่ได้ ไม่มี OIS
Pixel มือถือรุ่นแรกที่แปะแบรนด์ Google อย่างเป็นทางการ ก็ทำให้วงการกล้องในสมาร์ทโฟนสั่นสะเทือนไม่น้อย ด้วยผลคะแนน DxOMark Mobile สูงที่สุดตอนนี้ที่ 89 คะแนน ที่แม้สเปกของกล้องเองจะไม่ได้ดีที่สุดเมื่อเทียบกับเรือธงด้านกล้องตัวอื่นๆ ทั้งความละเอียดภาพที่จัดมากลางๆ ที่ 12.3 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0 แต่ด้วยซอฟต์แวร์ด้านภาพและระบบ HDR+ ขั้นเทพของ Google ก็ช่วยให้เป็นสมาร์ทโฟนที่ถ่ายโหมด Auto ได้สวยที่สุดรุ่นหนึ่งครับ กดออกมาก็ได้ภาพที่สวยเลย สามารถเกลี่ยแสงในส่วนสว่างและส่วนมืดได้อย่างสมดุลย์ ให้ Dynamic Range หรือช่วงความสว่างภาพกว้างแบบที่หาสมาร์ทโฟนอื่นมาสู้ยากตอนนี้
แอปกล้องมาตรฐาน ไม่ได้มีลูกเล่นแฟนซีเยอะเหมือนสมาร์ทโฟนตัวอื่นๆ แถมไม่มีโหมดถ่ายภาพ Manual ด้วย ก็เป็นแอป Google Camera ที่ใช้ในกลุ่ม Nexus มาก่อนนั้นแหละครับ แต่ก็มีโหมดที่จำเป็นต้องใช้อย่าง Photo Sphere ที่ใช้ถ่ายรูป 360 องศา และโหมด Lens Blur ที่ใช้ถ่ายภาพหน้าชัด หลังเบลอมาให้เหมือนกัน
ที่น่าสนใจคือ Google Pixel นั้นมาพร้อมสิทธิ์ใช้ Google Photo เก็บภาพต้นฉบับแบบไม่จำกัด รวมถึงวิดีโอ 4K ที่ถ่ายจากเครื่องด้วย ซึ่งถ้าเป็นมือถือรุ่นอื่นๆ ภาพและวิดีโอจะถูกปรับให้กินพื้นที่น้อยลง ถึงจะได้สิทธิ์เก็บบน Google Photo แบบไม่จำกัดครับ
แต่ Google Pixel ยังขาดเรื่อง OIS หรือระบบป้องกันภาพสั่นไหวจากเลนส์ไป ซึ่งเวลาถ่ายวิดีโอจะใช้ซอฟต์แวร์เข้าช่วยทำให้กันภาพสั่นไหวได้ (EIS) แต่เวลาถ่ายภาพนิ่งก็ไม่มีตัวช่วยอยู่ดีครับ
ราคา: เริ่มต้นที่ $649 (23,000 บาท) แต่ไม่จำหน่ายอย่างเป็นทางการในไทย
ฟันธงด้านถ่ายภาพรับไป 5 ดาว!
นอกจากถ่ายภาพดีแล้วเครื่องยังแรง ทำงานเร็วปื้ดๆ ด้วยนะ แต่หาซื้อในไทยยากลำบาก
LG G5 se
- กล้อง 2 ตัว มี 2 ระยะเหมือน iPhone 7 Plus แต่เน้นถ่ายภาพมุมกว้าง
- ภาพจากกล้องมุมกว้าง กว้างมากจนแปลกตา ถือเป็นจุดเด่นรุ่นนี้
- แต่ภาพยามค่ำคืนมี Noise เยอะไปหน่อย Contrast ไม่เยอะ สีดำจืด
สำหรับสมาร์ทโฟนตัวสุดท้ายที่เน้นกล้อง และเราได้ลองกันในปีนี้คือ LG G5 se ครับ (ก็เพราะว่า LG G5 นั้นไม่ได้ขายในไทยอย่างเป็นทางการ เราเลยไม่ได้ลอง) ซึ่งความพิเศษของ LG G5 คือเป็นสมาร์ทโฟนตัวแรกๆ ที่มีเลนส์ 2 ตัว 2 ระยะครับ จะว่า iPhone 7 Plus เลียนแบบกล้อง 2 ตัวแบบนี้ก็ได้
เลนส์ตัวหลักของ LG G5 ถ่ายภาพด้วยมุมมอง 78 องศา 16 ล้านพิกเซล f/1.8 ส่วนเลนส์ตัวรองถ่ายกว้าง 135 องศา 8 ล้านพิกเซล f/2.4 ซึ่งเลนส์กว้างของ LG G5 นั้นกว้างมากสำหรับที่ภาพโค้งเหมือนเลนส์ตาปลาเลยแหละครับ เวลาถ่ายภาพหรือวิดีโอ ถ้าซูมระหว่างถ่าย เครื่องจะสลับกล้องให้อัตโนมัติ ส่วนกล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล f/2.0 ที่น่าชม LG คือมีโหมดพิเศษอย่าง Pop-out ใช้ 2 กล้องถ่ายรูปพร้อมกัน แล้วเอาภาพจากเลนส์มุมกว้างและมุมปกติมารวมในภาพเดียวกัน และโหมด Multiview ใช้ 3 กล้องถ่ายรูปรวมกล้องหน้ามาถ่ายพร้อมกันเพื่อรวมเป็นภาพเดียว ก็ได้มุมมองที่แปลกตาไปอีกแบบนะครับ นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์เสริมอย่าง Cam plus ที่เป็นเหมือนกริปทำให้จับมือถือถ่ายรูปง่ายขึ้น มีปุ่มหมุนให้ซูมภาพง่ายขึ้น พร้อมแบตเตอรี่เพิ่มอีก 1,200 mAh ด้วย ส่วนวิดีโอถ่ายได้ที่ความละเอียด 4K พร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหว OIS ด้วย
ที่นี้มาดูในเรื่องคุณภาพภาพถ่ายกันบ้าง ก็สรุปสั้นๆ ว่าสามารถถ่ายรูปกลางแจ้งและในที่ร่มให้สีสันได้ดี กล้องมุมกว้างให้ภาพที่แปลกตากว่ามือถือทั่วไปมาก แต่ถ้าถ่ายกลางคืนแสงน้อยๆ จะเห็น Noise ชัดเจน และสีสันของภาพไม่ได้มีเอกลักษณ์พิเศษ ส่วนสีดำของภาพดูจืด ไม่ได้ลงลึกเหมือนกล้องชั้นดี
ราคา: ประมาณ 15,900 บาทพร้อมของแถมอย่าง Cam plus
ฟันธงด้านถ่ายภาพรับไป 4 ดาว!
เด่นที่กล้องมุมกว้าง แต่ตกม้าตายตรงการถ่ายภาพกลางคืน และ Contrast ภาพต่ำไปหน่อย
สรุป เลือกใช้ให้เหมาะสมตามสไตล์การถ่ายภาพ
สมาร์ทโฟน 5 ตัวที่เรานำมาสรุปในครั้งนี้มีความพิเศษแตกต่างกันไปนะครับ ถ้าชอบกล้องแบบถ่ายแล้วใช้ได้เลย ความสามารถครบรอบด้าน แถมถ่าย RAW ก็ได้ Huawei Mate 9 ก็เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด ส่วนถ้าต้องการถ่ายภาพกลางคืนดีๆ ก็มี Samsung Galaxy S7 ให้เลือก แล้วถ้าต้องการภาพแบบสมดุล รายละเอียดภาพมาก ถ่ายง่าย ก็เป็น Google Pixel ครับ ส่วน iPhone 7 Plus ก็เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับสาย iOS แล้ว ไม่ได้มีทางเลือกอื่นเท่าไหร่