Temu แอปฯ ช็อปปิงสัญชาติจีนที่เพิ่งเปิดตัวในประเทศไทยเมื่อไม่นานมานี้ กลายเป็นทอล์กออฟเดอะทาวน์ เพราะไม่เพียงแต่จะมีสินค้าราคาถูกมากมายให้เลือกแล้ว สิ่งที่พวกเขาทำได้ดีมาก ๆ เลยคือเรื่องความเข้าใจในจิตวิทยาผู้บริโภค ซึ่งถือว่าเป็นความลับเบื้องหลังความสำเร็จของ Temu เลยก็ว่าได้
ในโลกที่เต็มไปด้วยการแข่งขันของ e-Commerce การจะสร้างความโดดเด่นจนกลายเป็นตัวเลือกของลูกค้าที่เข้ามาเลือกซื้อถือเป็นความท้าทายอย่างมาก ไม่เพียงแต่ต้องมีนวัตกรรมที่ยอดเยี่ยม สินค้าที่หลากหลายให้เลือกซื้อ แต่ต้องเข้าใจพฤติกรรมการจับจ่ายซื้อของลูกค้าด้วย Temu คือการผสมผสานเทคโนโลยีขั้นสูงเข้ากับการสร้างสภาพแวดล้อมการช็อปปิงที่คล้ายคลึงกับกาสิโน ซึ่งทำให้ผู้บริโภคกลับมาใช้บริการซ้ำและใช้จ่ายมากกว่าที่ตั้งใจไว้
อัลกอริทึมอันชาญฉลาดของ Temu
หัวใจสำคัญของกลยุทธ์ของ Temu คืออัลกอริทึมเฉพาะที่ออกแบบมาเพื่อเรียนรู้และคาดการณ์พฤติกรรมผู้บริโภคได้อย่างแม่นยำ
อัลกอริทึมนี้ถูกพัฒนาอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้มีประสิทธิภาพสูงสุดในการดึงดูดผู้บริโภคตัวยง โดยวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมหาศาล ทั้งสิ่งที่ผู้บริโภคกำลังดู ระยะเวลาที่ใช้ในการดูสินค้า สิ่งที่ซื้อในที่สุด และแม้กระทั่งสิ่งที่ถูกทิ้งไว้ในตะกร้า
Temu สามารถปรับแต่งประสบการณ์การซื้อของให้เหมาะกับความชอบและรูปแบบของแต่ละบุคคลได้เลยด้วย
นอกจากนั้นแล้วยังใช้หลักการทางจิตวิทยาแบบกาสิโนเข้ามาช่วยด้วย
ถ้าเราเคยเห็นภาพกาสิโน (หรือคนที่เคยไป) จะทราบดีว่าจะเต็มไปด้วยแสง สี เสียง และสิ่งเร้าต่าง ๆ มากมายรอบตัว กลยุทธ์ที่ปล่อยให้ลูกค้าชนะบ้างเป็นครั้งคราวเพื่อดึงให้นักพนันอยู่ที่โต๊ะให้นานที่สุด Temu ก็มีกลยุทธ์ที่กระตุ้นทางจิตวิทยาที่คล้ายกันครับ
- สิ่งเร้าทางสายตาและเสียง: สีสันสดใสและการแจ้งเตือนแบบป็อปอัป เลียนแบบองค์ประกอบที่ดึงดูดความสนใจของกาสิโน ทำให้นักช็อปยังคงสนใจและได้รับการกระตุ้นอย่างต่อเนื่อง
- ดีลที่มีเวลาจำกัด: การลดราคาแบบด่วนและดีลประจำวันสร้างความรู้สึกเร่งด่วน คล้ายกับเกมที่มีเดิมพันสูง กดดันให้นักช็อปตัดสินใจก่อนที่โอกาสจะหมดไป
- รางวัลและสิ่งจูงใจ: เช่นเดียวกับที่กาสิโนเสนอสิทธิพิเศษและโบนัสให้กับสมาชิก Temu มอบส่วนลด คูปอง กงล้อหมุนเพื่อเอาส่วนลด และคะแนนที่สามารถแลกเป็นส่วนลดสำหรับการซื้อในอนาคต เพื่อตอบแทนการมีส่วนร่วมอย่างต่อเนื่องและจูงใจให้ใช้จ่ายเพิ่มขึ้น
- ทำให้การช็อปปิงเป็นเกม: ทุกการโต้ตอบบนเว็บไซต์ถูกออกแบบมาเพื่อให้รางวัลเล็ก ๆ น้อย ๆ หรือผลักดันให้ผู้บริโภคเข้าใกล้การซื้อมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นป็อปอัปที่แสดงว่าสินค้าใกล้จะหมดสต๊อก หรือคำแนะนำส่วนตัวตามประวัติการเรียกดู
ทุกองค์ประกอบเหล่านี้ล้วนมีไว้เพื่อเพิ่มการมีส่วนร่วมและกระตุ้นให้นักช็อปอยู่บนเว็บไซต์นานขึ้น เหมือนกับที่คนอาจลังเลอยู่ในคาสิโน เพราะหวังว่าจะได้รับชัยชนะในครั้งต่อไป
Temu เปิดตัวในอเมริกาเมื่อเดือนกันยายน 2022 ซึ่งนับถึงเดือนมกราคม 2024 ลูกค้าเพิ่มขึ้น 51.4 ล้านคน แต่ในช่วงเวลาเดียวกัน e-Commerce เจ้าใหญ่อย่าง Amazon ลูกค้าลดลง 2.6 ล้านคน (3.7%)
ขนาดว่า Amazon ที่เน้นลูกค้าระดับบนที่ยินดีจ่ายเงินเพิ่มเพื่อบริการ Prime (สมัครสมาชิกและได้รับสิทธิพิเศษต่าง ๆ) หลัก ยังโดน Temu ที่เน้นลูกค้าที่มีรายได้น้อยกว่าและเน้นราคาต่ำไปได้ แสดงว่า e-Commerce เจ้าเดิม ๆ ที่อยู่ในไทยที่เน้นกลุ่มลูกค้าที่คล้ายกับ Temu ต้องเตรียมรับมือกันให้ดีแล้ว
Temu ใช้เงินมหาศาลในการโฆษณา เสนอราคาที่ต่ำมาก โดยเชื่อมโยงกับผู้ผลิตจีนโดยตรง และค่อย ๆ ขยายไปสู่ตลาดระดับบนในอนาคต ใช้กลยุทธ์ที่ประสบความสำเร็จในจีนมาใช้ในสหรัฐฯ และเริ่มเปิดให้ผู้ขายจากสหรัฐฯ และยุโรปใช้แพลตฟอร์มได้ด้วย
การใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นและความภักดีของผู้บริโภค
ผลของกลยุทธ์ของทำให้นักช็อปไม่เพียงแต่เข้าแอปฯ Temu บ่อยขึ้นเท่านั้น แต่ยังใช้จ่ายมากขึ้นต่อการเข้าชม เมื่อเทียบกับเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซอื่น ๆ
การมีส่วนร่วมในระดับสูงนี้แปลงเป็นความภักดีของผู้บริโภคที่สำคัญ โดยผู้ซื้อครั้งแรกจำนวนมากกลายเป็นลูกค้าประจำ สิ่งนี้พิสูจน์ให้เห็นว่าการเข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคสามารถนำไปสู่ความสำเร็จอย่างมหาศาลได้อย่างแท้จริง
Lucy Clark นักช็อปวัย 27 ปีจากแมนเชสเตอร์ เล่าถึงประสบการณ์ครั้งแรกของเธอกับ Temu ให้กับสำนักข่าว BBC ฟังว่าเหมือนกับอยู่ในกาสิโนเสมือนจริง วงล้อรูเล็ตที่หมุนอยู่โฆษณารางวัลคูปองเงินสดที่น่าดึงดูด นาฬิกานับถอยหลังสัญญาว่าจะมีการจัดส่งฟรี และสัญลักษณ์สายฟ้าที่โฆษณาดีลส่วนลดแบบด่วนพุ่งผ่านหน้าจอของเธอ
แม้ว่า Clark จะรู้ว่าคุณภาพอาจไม่มีอะไรที่รับประกัน (ซึ่งส่วนใหญ่ของที่ขายก็จะคุณภาพอยู่ในระดับที่แค่พอใช้ได้) แต่เธอมองว่านี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของประสบการณ์การช็อปปิงเท่านั้น “คุณจะได้รับสิ่งที่ดีมากและเป็นดีลที่คุ้มค่า หรือไม่ก็ได้อะไรที่ไม่ค่อยดีนัก แต่ก็ไม่คุ้มค่าพอที่จะส่งคืน เพราะมันราคาต่ำกว่า 10 ปอนด์” เธอกล่าว
ข้อพิจารณาด้านจริยธรรม
ในขณะที่กลยุทธ์ของ Temu มีประสิทธิภาพอย่างปฏิเสธไม่ได้ แต่ก็ก่อให้เกิดคำถามเกี่ยวกับผลกระทบทางจริยธรรมของการออกแบบที่มีอิทธิพลชักจูงเช่นนี้ การสร้างสภาพแวดล้อมที่บางคนอาจโต้แย้งว่าเป็นการเอาเปรียบจุดอ่อนทางจิตวิทยา และเป็นการใช้กลยุทธ์เพื่อหลอกล่อลูกค้าที่ไม่รู้เท่าทันรึเปล่า
Temu เหมือนเดินอยู่บนเส้นบาง ๆ ของความถูกต้อง จุดตัดที่เต็มไปด้วยข้อถกเถียงระหว่างเทคโนโลยีและการคุ้มครองผู้บริโภค เป็นสัญญาณเตือนที่น่าคิดว่าในขณะที่อีคอมเมิร์ซยังคงพัฒนาต่อไป การอภิปรายเกี่ยวกับสิทธิและการคุ้มครองผู้บริโภคก็ต้องพัฒนาไปด้วยเช่นกัน
แม้ว่า Temu จะมีอำนาจมาก แต่บริษัทก็ต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายอยู่บ้าง แม้จะเพิ่งเปิดตัวได้เพียงไม่นาน Temu ก็ถูกจับตามองอย่างเข้มงวดภายใต้การตรวจสอบของหน่วยงานกำกับดูแลแล้วสำหรับการละเมิดข้อมูลและการเอาเปรียบช่องโหว่ทางการค้าในสหรัฐอเมริกา
นอกจากนี้ ยังมีการสอบสวนใหม่ ๆ เกี่ยวกับจริยธรรมของโมเดลธุรกิจของ Temu และบริษัทต้องต่อสู้กับข้อกล่าวหาร้ายแรงเกี่ยวกับการใช้แรงงานแบบผิดกฎหมายอย่างต่อเนื่อง โดยนักกฎหมายสหรัฐฯ เตือนว่าเว็บไซต์อาจขายสินค้าที่ผลิตจากแรงงานที่ถูกบังคับให้ทำงานอยู่
การเติบโตอย่างรวดเร็วของ Temu ในยุโรป โดยมีผู้ใช้ 75 ล้านคนในสหภาพยุโรป ซึ่งเกินเกณฑ์ 45 ล้านคนที่ทำให้กลายเป็นแพลตฟอร์มออนไลน์ขนาดใหญ่มาก (Very Large Online Platform – VLOP) ตามกฎระเบียบของสหภาพยุโรป หมายความว่าบริษัทจะต้องเผชิญกับการตรวจสอบที่เข้มงวดมากขึ้น
แม้ว่าในทางปฏิบัติ จำนวนสินค้ามหาศาลบนเว็บไซต์จะทำให้การตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอเป็นไปได้ยาก ในสหรัฐอเมริกา ความพยายามในการควบคุมการจัดการข้อมูลของ Temu ได้นำไปสู่การเรียกร้องจากนักกฎหมายให้สอบสวน หรือแม้กระทั่งแบนแอปฯ นี้ทั้งหมดไปเลย
ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมค้าปลีก
Elizabeth Clark ผู้ร่วมก่อตั้งและ CEO ของ Dream AI Ltd บริษัท AI ในสหราชอาณาจักรที่เชี่ยวชาญด้านอีคอมเมิร์ซ กล่าวว่าเธอเห็นภัยคุกคามจาก Temu ที่เกิดขึ้นแล้วในตลาดสหราชอาณาจักร เธอกล่าวว่า
คุณไม่สามารถแข่งขันด้านราคากับ Temu ได้ พวกเขาไม่ต้องลงทุนในด้านโลจิสติกส์หรือผู้ผลิต มันเป็น Shein และ Amazon เวอร์ชันที่เร่งความเร็วและราคาประหยัด
สำหรับแบรนด์ขนาดเล็ก กลยุทธ์การเติบโตเชิงรุกและราคาที่ต่ำมากของ Temu เป็นสิ่งที่เลียนแบบไม่ได้ ซึ่ง Clark ได้ส่งสัญญาณเตือนและเห็นลูกค้าของเธอต้องดิ้นรนเมื่อเผชิญหน้ากับยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซนี้โดยตรง
ตอนต้นปีที่แล้ว Temu แทบไม่มีตัวตนในสหรัฐอเมริกา แต่พอถึงปลายปี บริษัทบางแห่งไม่สามารถซื้อสินค้าได้ในราคาที่ Temu ขาย
และเรื่องนี้ก็กำลังจะเกิดขึ้นในบ้านเราด้วย
แม้ว่าตอนนี้หน้าตาและกลยุทธ์ดึงดูดทางจิตวิทยาต่าง ๆ ของ Temu อาจจะยังมีประสิทธิภาพ แต่ Vilma Todri ผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้านระบบสารสนเทศที่ Goizueta Business School แห่ง Emory University คิดว่าเมื่อเวลาผ่านไป ผู้บริโภคอาจเบื่อหน่ายหรือระมัดระวังมากขึ้นต่อวิธีการที่ Temu ทำให้การช็อปปิงเป็นเกมอยู่ตลอดเวลา “เมื่อผู้บริโภคคุ้นเคยกับกลยุทธ์การตลาดและธุรกิจที่ Temu ใช้มากขึ้น พวกเขาอาจจะเริ่มตั้งคำถามมากยิ่งขึ้นด้วย” เธอกล่าว
แต่ปัญหาก็คือว่าเรายังไม่ถึงจุดนั้น และเมื่อถึงจุดนั้นจริง ๆ Temu ก็อาจจะออกกลยุทธ์ใหม่ ๆ เพื่อดึงดูดเรากลับเข้าไปอีกรอบแล้วก็ได้
สำหรับ Lucy Clark และลูกค้าอีกหลายล้านคน Temu ยังคงน่าดึงดูดใจ แม้ว่าของเล่นสุนัขที่เธอซื้อจะมี “กลิ่นสารเคมีที่ไม่น่าพึงประสงค์” ตามที่เธอและแม่ของเธออธิบายให้ BBC ฟัง แต่น้องหมาของพวกเขาก็ชอบมัน บางชิ้นแตกหักไปแล้ว แต่ Lucy ก็อธิบายว่าเวอร์ชันที่มีราคาแพงกว่าก็คงจะประสบชะตากรรมเดียวกันอยู่ดี
นั่นคือเหตุผลที่ทำให้เธอยังคงอุดหนุน Temu ด้วยเหตุผลง่าย ๆ คือราคาที่ถูกมาก ๆ
และยิ่งในเศรษฐกิจแบบนี้ ถ้าให้คนทั่วไปเลือกระหว่าง สินค้าที่มีคุณภาพที่โอเคพอใช้ได้ในราคาแสนถูกมากกว่าสินค้าที่คุณภาพดีขึ้นมาหน่อยและราคาแพงขึ้น เชื่อเลยว่าอย่างแรกน่าจะขายได้เยอะกว่า
โดยสรุป
Temu ได้สร้างปรากฏการณ์ใหม่ในวงการอีคอมเมิร์ซด้วยการผสมผสานอย่างชาญฉลาดระหว่างเทคโนโลยี จิตวิทยา และการปรับตัวอย่างต่อเนื่อง การสร้างสภาพแวดล้อมคล้ายกาสิโนไม่เพียงแต่ดึงดูดผู้บริโภคเท่านั้น แต่ยังเพิ่มยอดขายอย่างมีนัยสำคัญ สร้างมาตรฐานใหม่ในกลยุทธ์การตลาด
อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จนี้มาพร้อมกับคำถามด้านจริยธรรมและความท้าทายด้านกฎระเบียบ ขณะที่ Temu ยังคงเติบโตและพัฒนา มันจะเป็นทั้งกรณีศึกษาของกลยุทธ์การตลาดที่ประสบความสำเร็จและจุดอภิปรายสำหรับแนวปฏิบัติทางการตลาดที่มีจริยธรรม
ในท้ายที่สุด อนาคตของการช็อปปิงออนไลน์อาจขึ้นอยู่กับการสร้างสมดุลที่ละเอียดอ่อนระหว่างนวัตกรรม ความพึงพอใจของลูกค้า และความรับผิดชอบทางสังคม ขณะที่บริษัทอื่น ๆ อาจพยายามเลียนแบบความสำเร็จของ Temu ผู้บริโภคและหน่วยงานกำกับดูแลจะต้องยังคงตื่นตัว เพื่อให้แน่ใจว่าการพัฒนาเหล่านี้จะไม่มาพร้อมกับต้นทุนที่สูงเกินไปสำหรับสังคม
ตอนนี้ Temu กำลังสร้างแรงกระเพื่อมสู่ตลาดในประเทศไทย ต้องดูกันต่อไปครับว่า e-Commerce เจ้าที่มีอยู่จะปรับตัวสู้ยังไง และอีกประเด็นที่น่าสนใจต่อจากนี้ (และอาจจะสำคัญมากกว่าด้วย) คือพ่อค้าแม่ค้าที่เคยขายสินค้าบน e-Commerce แบบเดิม ๆ จะต้องปรับตัวและสู้ยังไงกันต่อไป ต้องติดตามกันครับ