BT พาส่องอาณาจักร Smart Factory น้ำผลไม้หลักสิบกับมาตรฐานการผลิตที่เห็นแล้วต้องว้าวแน่ ! ของดีโด้ (DeeDo) น้ำผลไม้สัญชาติไทยที่รู้จักและคุ้นเคยกันมานาน ด้วยเครื่องจักรอัตโนมัติที่ทันสมัย Smart ทุกขั้นตอนการผลิต ! ที่ควบคุมด้วย AI ไร้การสัมผัสและปลอดภัยทุกกระบวนการ เพื่อให้ทุกคนได้ดื่มน้ำผลไม้ที่สะอาด ปลอดภัย ในทุก ๆ ขวดแน่นอน พาส่องทีละขั้นตอนกันไปเลย
ก่อนจะบรรจุเครื่องดื่มลงขวดได้นั้น เรามาดูขั้นตอนการผลิตขวดกันก่อน เพราะการขึ้นรูปขวดก็ทำในโรงงานเดียวกันเลย โดยตัวขวดใช้พลาสติก PET (polyethylene terephthalate) ซึ่งเป็นพลาสติกที่มีข้อดีด้านความปลอดภัย แข็งแรง ทนต่อแรงกระแทกและเสียดสีได้ดี เหมาะกับการบรรจุอาหาร แถมยังรีไซเคิลได้ 100 % อีกด้วยนะ
ทุกขวดของดีโด้ ผลิตโดยเม็ดพลาสติก PET มาตรฐานฟูดเกรด นำมาอบลมร้อน และนำมาฉีดขึ้นรูปให้เป็นหลอดพรีฟอร์ม (Preform) ซึ่งหลอดพรีฟอร์มนี้จะถูกนำไปตรวจสอบความสะอาดและความปลอดภัยอีกหลายขั้นตอน ก่อนจะนำหลอดนี้ไปขึ้นรูปผ่านการอุ่นให้ร้อน และเป่าหลอดด้วยอากาศแรงดันสูงในห้องปิดที่ถูกควบคุมอุณหภูมิ เพื่อขึ้นรูปเป็นขวดดีโด้ไซซ์จริง ด้วยเทคโนโลยีทันสมัยที่ใช้ภายในโรงงานของดีโด้ ทำให้สามารถควบคุมคุณภาพได้สูงสุด ให้ทุกขวดสะอาด ปลอดภัย และไร้การปนเปื้อน 100%
ลองดูขั้นตอนที่ DeeDo ใช้ในการผลิตขวดแบบเน้น ๆ ได้ที่นี่เลย
ทีนี้ น้ำผลไม้ดีโด้ ผลิตจากโรงงานอัจฉริยะที่ Smart ทุกขั้นตอนการผลิตเลย ! เริ่มตั้งแต่การผสมสูตร ‘Smart Mixing’ ซึ่งในการผสมน้ำผลไม้ดีโด้นั้น ในโรงงานได้ใช้เทคโนโลยีผสมสูตรอัจฉริยะ ซึ่งจะใช้คอมพิวเตอร์ควบคุมสูตรในการผลิต ผ่านการกดควบคุมด้วยปลายนิ้วสัมผัส เพื่อให้ใส่อัตราส่วนของส่วนผสมที่มาตรฐานเท่ากันเป๊ะ ๆ คงความอร่อยเหมือนกันทุกขวด รวมไปถึงไม่ให้เกิดการปนเปื้อนในขั้นตอนการผลิตด้วย น่าเสียดายที่แม้แต่แอดมินเอง ก็ไม่รู้สูตรการผลิตน้ำผลไม้ดีโด้ของเขาเหมือนกัน
ต่อมาบรรจุลงขวดด้วยระบบ Smart Filling ที่มั่นใจได้ว่าไร้การปนเปื้อน 100% ขวดที่ผลิตเสร็จหมาด ๆ จากภาพก่อนหน้านี้ จะถูกส่งมาบรรจุน้ำผลไม้ต่อในโรงงานที่เดิมเลย โดยจะส่งขวดที่เป่าแล้ว เข้าเครื่องบรรจุที่ใช้วิธีการบรรจุแบบ Gravity Fill & Vacuum แปลว่าใช้แรงโน้มถ่วงและการดูดน้ำเข้าไปในขวดแบบรวดเร็ว ซึ่งทำให้การบรรจุน้ำผลไม้นั้นสามารถ บรรจุด้วยความเร็วสูง 600 ขวดต่อนาทีเลย
น้ำผลไม้ที่บรรจุผลิตเสร็จแล้ว ใช่ว่าจะเอามาให้เราดื่มเลยทันทีนะ ต้องผ่านการตรวจสอบคุณภาพอย่างแม่นยำด้วย Smart QC (Quality Control) ก่อน ซึ่งจะใช้คอมพิวเตอร์ในการตรวจจับคุณภาพในการผลิต ตั้งแต่ตรวจจับฝาปิดขวด และยังมีการตรวจสอบส่วนอื่น ๆ เช่นการรั่วซึม และความสมบูรณ์ของขวดด้วย โดยในขั้นตอนนี้ ถ้าขวดไหนไม่ผ่าน QC ซึ่งผ่านการตรวจละเอียดด้วยคอมพิวเตอร์ ก็จะถูกนำออกไปเลย หลังจากเสร็จหมดทุกขั้นตอนแล้ว ถึงได้สวมฉลากของขวดลงไปและตรวจสอบ ขั้นตอนนี้สามารถสวมฉลากได้ 320 ขวดต่อนาทีเลยด้วยนะ
น้ำผลไม้ดีโด้ที่ผลิตจนเสร็จ และผ่านการตรวจสอบคุณภาพอย่างเข้มข้นมาแล้ว ก็จะถูกลำเลียงไปห่อพลาสติก PE และใช้ความร้อนทำให้พลาสติกหดตัวลงเพื่อรัดขวดให้รวมกันเป็นแพ็ก จากนั้น ก็แพ็กลงกล่องด้วยแขนกลอัจฉริยะ Smart Packing บรรจุลงไปในกล่องด้วยระบบอัตโนมัติทั้งหมด ตั้งแต่การพับกล่อง, บรรจุ, ปิดกล่อง ไปจนถึงการจัดเรียงขึ้นพาเลตที่ใช้เวลาเรียงให้เต็ม 1 พาเลตได้ในเวลา 2.4 นาที เพื่อส่งขึ้นรถ และวางจำหน่ายในร้านค้าให้เราได้หาซื้อมาทานต่อไป
เรียกได้ว่าทุกขั้นตอนของน้ำผลไม้ดีโด้ Smart ในทุกขั้นตอน ไม่ว่าจะเป็นขั้นตอนการผลิตที่ผ่านการตรวจสอบ และควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์ในทุกขั้นตอน ยาวไปจนถึงการบรรจุลงกล่องส่งมาให้เราได้ดื่มกัน ไปจนถึงการร่วมดูแลโลกของโรงงานดีโด้ เพื่อลด Carbon Footprint ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อโลกนั้น ถือเป็นความว้าวอย่างหนึ่งของดีโด้ ในการเลือกที่จะไม่ปล่อยเกรดให้การผลิตเป็นไปแบบเรียบง่าย เรียกได้ว่า น้ำส้มหลักสิบ แต่ก็มีมาตรฐานเทคโนโลยีการผลิตระดับพันล้าน ปลอดภัย ไร้สัมผัส เพื่อส่งต่อความสดชื่นถึงมือผู้บริโภคทุกคนอย่างสมบูรณ์แบบ
ใครที่สนใจการผลิตที่ละเอียดยิบและสมาร์ตทุกขั้นตอนแบบนี้ได้ สามารถตามไปดูคลิปที่ DeeDo ทำมาให้ดูได้ผ่านลิงก์นี้ได้เลย (คลิปสั้น ๆ แต่ข้อมูลอัดแน่นมากนะ !)