หลายคนอาจจะเห็นข่าวผ่าน ๆ ตาถึง Jagat แอปฯ ประหลาดที่ทำให้คนออกจากบ้านไปขุดหาเหรียญตามที่ต่าง ๆ เพื่อหวังว่าจะเอามาแลกเป็นเงินที่มูลค่านับแสน แต่ว่า Jagat มันคืออะไรกันแน่
Jagat คืออะไร
Jagat เป็นแอปพลิเคชันโซเชียลที่ให้ผู้ใช้งานแชร์พิกัด GPS ให้แก่คนที่อยู่ในรายชื่อ ‘เพื่อน’ แบบเรียลไทม์ และสามารถร่วมกันเล่นเกมบนแผนที่จริง ๆ ที่กางทับกับแผนที่ GPS เหมือนใน Google Maps ซึ่งนำมาแลกเป็นเงินได้ด้วย ข้อมูลจากเดือนธันวาคมปีที่แล้ว พบว่า Jagat มีผู้ใช้ทะลุ 10 ล้านคนไปแล้ว
Jagat เป็นผลงานพัฒนาของ Jagat Tech ที่มีสำนักงานอยู่ทั้งในอินโดนีเซียและสิงคโปร์ ก่อตั้งโดย แบร์รี บีเก็น (Barry Beagen) และ ลอย ซิง เจ๋อ (Loy Xing Zhe) บีเก็นกล่าวว่า “เราเชื่อว่าแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียควรพาผู้ใช้งานออกไปข้างนอกให้มากขึ้น และสำรวจโลกร่วมกับเพื่อนของพวกเขา” โดยบอกว่าต้องการจะสร้างโลกที่ผสมผสานโลกแห่งความเป็นจริงกับโลกเสมือนเข้าด้วยกัน
ล่าเหรียญบุกรุกพื้นที่ส่วนตัว
Jagat กลายเป็นจุดสนใจตามหน้าสื่อต่าง ๆ จากการที่ผู้พัฒนาออกแคมเปญล่าเหรียญจริง ๆ ที่ถูกนำไปซ่อนตามที่ต่าง ๆ ใน 5 พื้นที่ ได้แก่ กรุงเทพฯ พัทยา ภูเก็ต เชียงใหม่ และเชียงราย โดยบอกว่าหากเจอเหรียญก็จะสามารถนำมาแลกเงินจริง ๆ ได้ จนเกิดเป็นเทรนด์บนหน้าโซเชียล โดยเฉพาะบน TikTok
มูลค่าเหรียญก็แตกต่างกันออกไป เริ่มตั้งแต่ 500 – 200,000 บาท ขึ้นอยู่กับประเภทของเหรียญที่แบ่งเป็นเหรียญทองแดง เหรียญเงิน และเหรียญทอง รวมถึงความยากของการหาด้วย โดยเมื่อได้เหรียญก็สามารถนำรหัสหลังเหรียญไปกรอกในแอปฯ เพื่อแลกเป็นเงินสดเข้าบัญชี แต่หากหาไม่เจอและต้องการเบาะแสก็สามารถจ่ายเงินจริง ๆ เพื่อซื้อไอเทมสำหรับช่วยหาเบาะแสเพิ่มเติมได้
อย่างไรก็ดี ด้วยความที่เหรียญมักถูกนำไปซ่อนในพื้นที่แปลก ๆ เช่น ฝาท่อ หลังกำแพงบ้าน และซอกตึก จึงมีรายงานว่าผู้ใช้ Jagat เข้าไปตามล่าเหรียญในพื้นที่ส่วนบุคคลอย่างผิดกฎหมาย สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านในละแวกต่าง ๆ จนเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องออกมาเตือน ยิ่งไปกว่านั้นในประเทศอื่นอย่างอินโดนีเซีย ก็มีรายงานว่าผู้ล่าเหรียญเข้าไปงัดทำลายทางเดินเท้าและสวนสาธารณะเพื่อล่าเหรียญด้วย
ผู้พัฒนาพยายามแก้ไข
บีเก็นออกมาขอโทษในผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเกมล่าเหรียญ Jagat โดยบอกว่าจะมีการเปลี่ยนรูปแบบการเล่นเกมให้ผู้ใช้สร้างประโยชน์ให้กับพื้นที่สาธารณะมากกว่าการไปทำลายข้าวของและบุกรุกเข้าไปในพื้นที่ส่วนตัว
ส่วนหนึ่งของการปรับปรุงเกมล่าเหรียญบนแพลตฟอร์มก็คือการที่ Jagat จะส่งเสริมให้ผู้ใช้งานช่วยพัฒนาพื้นที่สาธารณะก่อนจึงจะนำเหรียญกลับมาให้ล่าอีกครั้ง ซึ่งในช่วงระหว่างนี้ก็จะพักการเล่นเหรียญไปก่อน
อย่างไรก็ดี นี่เป็นเพียงคำสัญญาสำหรับการล่าเหรียญในอินโดนีเซียเท่านั้น ยังไม่มีความเห็นของผู้พัฒนาเกี่ยวกับกรณีของไทยที่เกมหาเหรียญยังคงดำเนินต่อไป จนสร้างความวุ่นวายไปทั่ว
อันตรายหรือเปล่า ?
สิ่งที่น่าคิดแรกคือตัวแอปฯ ขอรันบนพื้นหลังและให้เปิดแสดงที่ตั้ง GPS หรือโลเคชันตลอดเวลา แม้แต่เวลาที่ไม่ได้ใช้แอปฯ อยู่ และพอมาดูที่การขออนุญาตเข้าถึงข้อมูลที่น่าตะหงิดใจก็คงจะเป็นการแชร์ข้อมูลสุขภาพที่ยังไม่ได้คำตอบว่าจะนำไปทำอะไรด้วย ยังดีที่การชำระเงินเป็นการชำระผ่านแพลตฟอร์มของร้านค้าแอปฯ ก็อาจสบายใจในส่วนของการเข้าถึงข้อมูลทางการเงินไปได้ส่วนหนึ่งด้วย
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบก็ยังไม่พบว่า Jagat มีการตรวจพบจากแพลตฟอร์มตรวจมัลแวร์เจ้าต่าง ๆ และก็ยังไม่เคยมีข่าวว่าข้อมูลรั่วไหลแต่อย่างใด อาจจะเป็นเพราะมันเป็นแอปฯ น้องใหม่ที่ต้องรอเวลาพิสูจน์ตัวเองก็เป็นได้
มาถึงจุดนี้แล้ว หลายคนอาจจะคิดว่าแอปฯ มันก็ดูน่าเชื่อถือ แถมยังมีฐานผู้ใช้นับ 10 ล้านคนทั่วโลก แต่เราก็เห็นแล้วว่าหลายแอปฯ ที่ยอดผู้ใช้หลักล้านก็ถูกนำไปซ่อนมัลแวร์เอาไว้จนคนโดนหลอกมาเยอะแล้ว
อีกทั้งการที่แอปฯ สัญญาจะแจกเงินจำนวนมากถึงหลักแสน ก็อาจทำให้หลายคนฉุกคิดขึ้นมาได้ว่า แล้วรายได้หลักของแอปฯ มาจากอะไร เอาเงินจากส่วนไหนมาแจกเป็นรางวัล นอกจากค่าไอเทมเพียงอย่างเดียว โดยเฉพาะในไทย หากนับจากมูลค่าเงินรางวัลและจำนวนเหรียญที่มีอยู่ถึง 800 เหรียญ รวมมูลค่ากันก็ทะลุ 1 ล้านบาทแล้ว ที่สำคัญผู้พัฒนาได้อะไรจากการทำสิ่งนี้ นอกจากการโปรโมตแอปฯ เพียงอย่างเดียว