โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ออกมาแสดงความกังวลเกี่ยวกับความก้าวหน้าของ DeepSeek AI สตาร์ตอัป AI สัญชาติจีน ที่กำลังสร้างกระแสในวงการเทคโนโลยี เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ในระหว่างการประชุมกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรครีพับลิกัน โดยเขาระบุว่า “นี่คือสัญญาณเตือนที่ชัดเจนว่าสหรัฐฯ กำลังเสียเปรียบจีนในสงคราม AI”

DeepSeek มันค่อนข้างน่าทึ่งมากที่คนจีนทำสิ่งนี้ด้วยเงินทุนที่น้อยกว่ามาก และแม้ว่าเราจะมีนักวิทยาศาสตร์ที่ฉลาดที่สุดในโลกอยู่ที่ซิลิคอนวัลเลย์ แต่การที่มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นมันก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะมันอาจจะทำให้เราต้องเก่งขึ้น เราต้องเฉลียวฉลาดขึ้น และบางทีเราอาจพบวิธีที่จะทำสิ่งต่าง ๆ ได้ด้วยเงินที่น้อยลง…หวังว่าการเปิดตัว DeepSeek AI จากบริษัทจีน จะเป็นสัญญาณเตือนสำหรับอุตสาหกรรมของเราว่าเราต้องมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ในการแข่งขันเพื่อชัยชนะ

ถ้าเรื่องนี้เป็นความจริง และไม่มีใครรู้แน่ชัดว่ามันคืออะไร แต่ผมมองว่ามันเป็นเรื่องดี เพราะเราก็จะทำแบบนั้นได้เช่นกัน คุณจะไม่ต้องใช้เงินมาก แต่หวังว่าคุณก็จะได้ผลลัพธ์ที่เหมือนกัน

ทรัมป์ชี้ให้เห็น 3 ปัจจัยหลักที่ทำให้สหรัฐฯ เสี่ยงเสียเปรียบจีน

1. การพึ่งพาเทคโนโลยีจีน
แม้สหรัฐฯ จะนำหน้าในด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ แต่จีนกำลังพัฒนาเทคโนโลยีทดแทน (Substitution) อย่างรวดเร็ว เช่น ชิป AI ของ HiSilicon ที่ใช้ใน DeepSeek

2. การลงทุนของรัฐบาลจีน
ปักกิ่งทุ่มงบประมาณมหาศาลเพื่อสนับสนุนโครงการ AI ยุทธศาสตร์ชาติ ขณะที่สหรัฐฯ ยังขาดความชัดเจนในนโยบายระดับชาติ

3. ข้อมูลขนาดใหญ่
จีนมีข้อมูลอุตสาหกรรมและประชากรจำนวนมหาศาลที่สามารถใช้ฝึก AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

“เราต้องหยุดการรั่วไหลของเทคโนโลยีไปยังจีน และลงทุนใน AI มากขึ้น ไม่เช่นนั้นเราจะเสียตำแหน่งผู้นำให้กับพวกเขา” ทรัมป์กล่าว

ทรัมป์ไม่ใช่คนเดียวที่แสดงความกังวล

แซม อัลต์แมน (Sam Altman) CEO ของ OpenAI กล่าวในงานสัมมนาเมื่อเดือนกันยายน 2024 ว่า “DeepSeek เป็นคู่แข่งที่น่ากลัว เพราะพวกเขามีข้อมูลและทรัพยากรที่เราอาจเข้าถึงไม่ได้” R1 ของ DeepSeek น่าประทับใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาจากสิ่งที่ทำได้ในราคาที่เหมาะสม แต่เราจะส่งมอบรุ่นที่ดีกว่ามาก และการมีคู่แข่งรายใหม่ก็ถือเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นมาก ! ซึ่งเราจะนำ AI รุ่นใหม่ ๆ ออกมาแน่ ขณะที่ Elon Musk ผู้ก่อตั้ง Tesla และ SpaceX ก็เคยเตือนว่า

จีนมีศักยภาพที่จะแซงหน้าสหรัฐฯ ด้าน AI ภายใน 5 ปี หากเราไม่ปรับตัว

อีลอน มัสก์ (Elon Musk)

DeepSeek คือใคร

DeepSeek AI ก่อตั้งในปี 2023 โดยทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยชั้นนำของจีน เช่น Tsinghua และ Peking University โดยได้รับการสนับสนุนจากบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่อย่าง Tencent และ Alibaba โมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) ของ DeepSeek ที่ชื่อ DeepSeek-R1 ถูกฝึกด้วยข้อมูลภาษาจีน 90% และภาษาอังกฤษ 10% ทำให้มีความแม่นยำสูงในการประมวลผลภาษาและข้อมูลเฉพาะทาง เช่น การแพทย์และกฎหมาย ข้อมูลจาก South China Morning Post ระบุว่า DeepSeek ระดมทุนได้กว่า 500 ล้านเหรียญ ในรอบ Series B เมื่อเดือนเมษายน 2024 ซึ่งบางส่วนมาจากเงินกองทุนป้องกันความเสี่ยง (Hedge fund) และกำลังขยายตลาดไปยังอุตสาหกรรมหลักของจีน เช่น การแพทย์ โลจิสติกส์ สายการผลิต และล่าสุดคือการเปิดให้ใช้ฟรีทั่วโลก แบบ open source

อ่านเรื่องลึก ๆ ของ DeepSeek ที่นี่เลย

สรุป

DeepSeek AI อาจยังไม่ใช่คู่แข่งที่เหนือกว่า OpenAI ในวันนี้ แต่ความก้าวหน้าของมันคือสัญญาณเตือนที่ชัดเจนว่าสหรัฐฯ ต้องตื่นตัวและลงทุนใน AI มากขึ้น หากไม่ต้องการเสียตำแหน่งผู้นำเทคโนโลยีให้กับจีน ทรัมป์ปิดท้ายด้วยประโยคที่สะท้อนความกังวลของหลายคนในวงการเทคโนโลยีว่า “ถ้าเราไม่ลงมือทำวันนี้ พรุ่งนี้เราอาจต้องตามหลังจีนตลอดไป”