ในยุคที่สมาร์ตโฟนกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน ตลาดที่อิ่มตัวด้วยดีไซน์และฟีเจอร์ที่คล้ายคลึงกัน ทำให้ความต้องการอุปกรณ์เฉพาะทางสำหรับผู้ใช้งานเฉพาะกลุ่มเริ่มเติบโตขึ้น ในปี 2018 ASUS ได้เปิดตัว ROG Phone สมาร์ตโฟนเกมมิงรุ่นแรกภายใต้แบรนด์ Republic of Gamers (ROG) ซึ่งสร้างความสนใจและคำถามมากมายเกี่ยวกับความจำเป็นของดีไซน์และฟีเจอร์ที่แตกต่างสำหรับเกมเมอร์โดยเฉพาะ แต่ในเวลาต่อมา ROG Phone ได้พิสูจน์ตัวเองและสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับวงการ แสดงให้เห็นว่าเกมมิงโฟนไม่ใช่แค่กระแส แต่เป็นอนาคตของการเล่นเกมบนมือถือ
กำเนิดราชาเกมมิง
ปี 2018 ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ เมื่อ ASUS ตัดสินใจเข้าสู่ตลาดสมาร์ตโฟนเกมมิงด้วย ROG Phone รุ่นแรก ที่มาพร้อมสเปกโดดเด่นและทลายกรอบความคิดเดิม ๆ เกี่ยวกับ “มือถือเล่นเกม”
แม้ว่า Razer Phone จะเปิดตัวพร้อมจอ 120Hz มาก่อน แต่ ROG Phone ก็มาพร้อมกับจอ AMOLED ขนาด 6 นิ้ว ที่รีเฟรชเรต 90Hz ซึ่งให้ภาพที่ลื่นไหลและสีสันที่สดใสกว่าจอ LCD ในขณะนั้น ประกอบกับการมาของเกมมือถือยอดนิยมอย่าง PUBG Mobile และ Fortnite ทำให้ ROG Phone ได้รับความสนใจมากขึ้น นอกจากนี้ ROG Phone ยังมาพร้อม AirTriggers ปุ่มสัมผัสที่ขอบจอ ทำงานคล้ายปุ่ม L1/R1 บนคอนโทรลเลอร์ ช่วยเพิ่มความแม่นยำในการควบคุมเกม และ AeroActive Cooler พัดลมระบายความร้อนที่ช่วยลดปัญหาเครื่องร้อนขณะเล่นเกมอย่างหนัก ซึ่งเป็นปัญหาทั่วไปของสมาร์ตโฟนในขณะนั้น
นวัตกรรมของ ROG Phone ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ตัวเครื่อง แต่ยังรวมถึงอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ เช่น TwinView Dock ที่เปลี่ยนมือถือเป็นเครื่องเล่นเกมสองหน้าจอ และ Kunai Gamepad ที่เปลี่ยนโทรศัพท์เป็นคอนโทรลเลอร์แบบเต็มตัว สร้าง Ecosystem สำหรับสมาร์ตโฟนเกมมิง
จากความสงสัยสู่กระแสตอบรับที่เพิ่มขึ้น
หลังจาก ROG Phone รุ่นแรกได้รับการตอบรับที่ดี ASUS ได้พัฒนา ROG Phone II ในปี 2019 ซึ่งมาพร้อมกับการปรับปรุงที่สำคัญหลายประการ เช่น จอ AMOLED 120Hz แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 6,000 mAh และราคาที่แข่งขันได้เมื่อเทียบกับ Razer Phone 2 ความร่วมมือกับ Tencent ในการปรับแต่งเกมอย่าง PUBG Mobile ให้รองรับ 120Hz ทำให้ ROG Phone II ได้รับความนิยมอย่างมาก โดยเฉพาะในประเทศจีน
ก้าวสู่ Esports อาวุธของนักกีฬาอาชีพ
ในช่วงปี 2020-2021 ASUS ได้ผลักดัน ROG Phone เข้าสู่เวที Esports อย่างจริงจัง ด้วยการเปิดตัว ROG Phone III ที่มาพร้อมจอ 144Hz และ AirTrigger 3 ที่ปรับปรุงให้แม่นยำยิ่งขึ้น เหมาะสำหรับเกมยิงมุมมองบุคคลที่หนึ่ง เช่น Call of Duty Mobile และ VALORANT นอกจากนี้ ASUS ยังได้สนับสนุนทัวร์นาเมนต์ Esports ระดับโลก ทำให้ ROG Phone ได้รับการยอมรับในวงการและได้รับความนิยมในหมู่ผู้เล่นเกมมือถือ รวมถึงผู้ที่ต้องการประสิทธิภาพสูงสำหรับการแข่งขัน
การแข่งขันดุเดือดและความท้าทายใหม่ ๆ
ในปี 2021 ASUS ได้เปิดตัว ROG Phone 5 Ultimate ที่มาพร้อม RAM สูงถึง 18GB และ Touch Sensor ด้านหลัง ซึ่งสามารถตั้งค่าเป็นปุ่มเพิ่มเติมได้ สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ ASUS ในการพัฒนาเทคโนโลยีสำหรับเกมมิง
เมื่อตลาดเกมมิงโฟนมีการแข่งขันสูงขึ้นจากแบรนด์ต่าง ๆ เช่น Red Magic, Black Shark และ Lenovo Legion เป็นต้น ASUS จึงได้ปรับตัวและพัฒนา ROG Phone อย่างต่อเนื่อง
ROG Phone 6 มาพร้อมชิป Snapdragon 8+ Gen 1 ที่เน้นประสิทธิภาพและการประหยัดพลังงาน พร้อมจอสัมผัส 720Hz ที่ตอบสนองรวดเร็ว ส่วน ROG Phone 7 Ultimate มาพร้อมระบบระบายความร้อนที่ได้รับการปรับปรุงและหน้าจอ PMOLED ด้านหลังสำหรับแสดงข้อมูลต่าง ๆ
แม้ว่า ROG Phone จะเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี แต่ก็ยังคงต้องเผชิญกับความท้าทายด้านการแข่งขันและส่วนแบ่งการตลาด
อนาคตของ ROG Phone
ASUS ยังคงมุ่งมั่นพัฒนา ROG Phone อย่างต่อเนื่อง โดยเน้นไปที่
- การใช้ AI เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการเล่นเกมและการจัดการพลังงาน
- การรองรับ Cloud Gaming เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเล่นเกมระดับ PC บนมือถือได้
- ความยั่งยืน โดยการใช้วัสดุรีไซเคิลและพัฒนาแบตเตอรี่ที่มีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น
- การสนับสนุน Esports เพื่อสร้างชุมชนและส่งเสริมการแข่งขัน
บทสรุปตำนานที่ยังคงดำเนินต่อไป
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ROG Phone ได้สร้างผลกระทบอย่างมากต่อวงการสมาร์ตโฟนเกมมิง ด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ROG Phone ได้เปลี่ยนแปลงวิธีที่เราเล่นเกมบนมือถือ และยังคงเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้ผลิตรายอื่น ๆ ในการพัฒนาสมาร์ตโฟนสำหรับเกมเมอร์ โดยล่าสุดในปี 2025 ได้เปิดตัว ROG Phone 9 Series เป็นที่เรียบร้อย ในราคาเริ่มต้นเพียง 29,990 บาท มีให้เลือกด้วยกัน 3 รุ่น คือ ROG Phone 9FE เป็นรุ่นเริ่มต้นราคาเบา ๆ ROG Phone 9 Pro รุ่นท็อปสเปกจัดเต็ม และ ROG Phone 9 Pro Edition รุ่นท็อปพิเศษที่มาพร้อมกับสเปกที่เหนือกว่าและอุปกรณ์เสริมแบบจัดเต็ม วางจำหน่ายแล้ววันนี้