ทีวีสำหรับ PS5 ที่ดีมีเงื่อนไขหลายอย่าง ไม่ใช่แค่มีพอร์ต HDMI แล้วจบ ทีวีที่เหมาะสมสำหรับ PlayStation 5 จะช่วยให้เกมลื่นขึ้นด้วย เพราะไม่ถูกจำกัดที่ 60 fps BT เลยสรุปสิ่งที่ต้องดูถ้าจะซื้อทีวีใหม่มาเล่นเกม ดังนี้

  1. รองรับ HDMI 2.1 เพราะจะส่งภาพ 4K HDR แบบไม่บีบอัดได้ และรองรับภาพเฟรมเรตสูง ถ้าเป็น HDMI 2.0 4K HDR จะถูกบีบอัดแบบ YUV ทำให้คุณภาพภาพดรอปเล็กน้อย (มองไม่ค่อยออกหรอก แต่มีผลกับจิตใจ 555)
  2. รองรับ VRR (Variable Refresh Rate) เพื่อที่จะสามารถปรับเฟรมเรตแปรผันตามคอนโซลได้ ซึ่งทำให้เฟรมลื่นขึ้นได้แทนที่จะจะถูกล็อกที่ 60 เฟรมต่อวินาที โดย PS5 รองรับ VRR ตั้งแต่ 48 – 120 Hz
  3. หน้าจอรองรับ 120 Hz หรือสามารถเปลี่ยนภาพได้สูงสุด 120 ภาพต่อวินาที เพราะ PS5 สามารถดันเฟรมมากกว่า 60 Hz ได้ แต่จะทำได้เมื่อทีวีนั้นรองรับ VRR เท่านั้น
  4. รองรับ HDR เพราะเกมใน PS5 เป็น HDR กันหมดแล้ว

ส่วนจะเป็นจอชนิด OLED, QLED, MiniLED หรืออื่น ๆ ก็แล้วแต่ชอบแล้วแต่งบเลยครับ แต่ถ้าพูดในเชิงเทคนิค ถ้าอยู่ในบ้านที่คุมแสงได้ ทำให้ห้องมืดได้ ก็เหมาะกับจอ OLED เพราะให้ Contrast สูงสุดในระดับพิกเซล แต่ถ้าอยู่ในห้องที่สว่าง คุมแสงตอนกลางวันไม่ค่อยได้ จอ OLED อาจจะสว่างสู้แสงไม่ไหว ก็ต้องดูเป็น QLED หรือ MiniLED เพราะเป็นจอที่ความสว่างสูงกว่า

สุดท้ายคือเรื่องความละเอียด ทีวีส่วนใหญ่ที่ขนาด 40 นิ้วขึ้นไป จะมีความละเอียด 4K แล้ว ทีวีไม่ค่อยมีความละเอียด 1440p ให้เลือกเหมือนมอนิเตอร์ แต่ PS5 ก็รองรับความละเอียด 1440p สำหรับการต่อกับมอนิเตอร์ครับ

แถมท้ายนิดหนึ่ง ถ้าจะซื้อทีวีสำหรับต่อเกมจากคอมพิวเตอร์ด้วย ให้ดูว่ารองรับ G-Sync หรือ FreeSync ด้วยจะโอเคครับ