(Advertorial)

ที่ผ่านมาภาพลักษณ์ของ Cisco บริษัทโซลูชั่นเครือข่ายยักษ์ใหญ่ของโลก นั้นจะผูกกับภาพขององค์กรขนาดใหญ่มาตลอดนะครับ อาจเพราะเทคโนโลยีส่วนใหญ่ของ Cisco นั้นออกแบบมาสำหรับหน่วยงานขนาดใหญ่ที่มีผู้ใช้เยอะๆ ทำให้มีราคาสูงตามความสามารถของโซลูชั่น แต่ไม่ใช่ว่าซิสโก้จะทอดทิ้งผู้ใช้ในกลุ่มธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง เมื่อไม่นานมานี้ซิสโก้ก็ได้เปิดตัว Cisco START โซลูชั่นที่นำเอาเทคโนโลยีและโซลูชั่นระดับ Enterprise  ของซิสโก้มาปรับให้เหมาะสมสำหรับผู้ใช้กลุ่ม SME และปรับราคาใหม่ให้เหมาะสมกับการใช้งานในองค์กรระดับเล็กและระดับกลางมากขึ้น เพื่อให้ผู้ใช้กลุ่ม SME สามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์จาก Cisco ได้ง่ายขึ้น

Cisco Meraki MX65 กล่องสารพัดความสามารถพร้อม WiFi ในตัว

Cisco START นั้นมีโซลูชั่นให้เลือกใช้หลากหลายมาก ขึ้นอยู่กับว่าองค์กรของเราต้องการระบบอะไร แต่วันนี้แบไต๋แนะนำระบบที่ทุกองค์กรต้องใช้ อย่างการจัดการอินเทอร์เน็ตก่อนเลย ซึ่ง Cisco Meraki จะตอบโจทย์เรื่องนี้ได้ครับ

ความปวดหัวของอินเทอร์เน็ตแบบเดิมๆ ในองค์กร

การติดตั้งอินเทอร์เน็ตให้ใช้องค์กร SME นั้นไม่ยากนะครับ หลายที่ก็ติดตั้งเหมือนอินเทอร์เน็ตบ้านเลยคือให้ ISP มาลากสายมาตั้ง Router ให้แล้วใช้เลย หรือบางที่อาจจะต่อ Access Point อีกตัวเพื่อกระจายสัญญาณและรองรับผู้ใช้ได้มากขึ้น แต่เราเชื่อว่าทุกองค์กรไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ก็อยากได้ความสามารถในการจัดการอินเทอร์เน็ต เช่น

  • ควบคุมเว็บที่ให้พนักงานเข้าถึงได้ เช่นห้ามเข้าเว็บเกม หรือเว็บโป๊ในองค์กร
  • ควบคุมความเร็วอินเทอร์เน็ตในแต่ละจุดให้เหมาะสม
  • บล็อก Bittorrent
  • ที่สำคัญ บล็อกเว็บที่อันตรายที่มีมัลแวร์ไม่ให้เปิดจากในองค์กรได้

แต่การติดตั้งอินเทอร์เน็ตแบบบ้านๆ เอาเราเตอร์จาก ISP มาตั้งแล้วใช้เลยมันไม่สามารถทำแบบนี้ได้ไงครับ เวลาโดนมัลแวร์ ไวรัสจากเครือข่ายก็พังกันไปหมดทั้งบริษัท เพราะไม่มีอุปกรณ์เครือข่ายที่สามารถจัดการปัญหาพวกนี้ได้ ครั้นจะทำเอง บริษัทที่ทำได้ก็ต้องมีแผนก IT ที่รู้เรื่องเครือข่ายมากหน่อย ถึงสามารถซื้ออุปกรณ์มาเซ็ตเองได้ แต่ถ้าอยากได้โซลูชั่นที่จัดการง่าย รู้เรื่องเน็ตเวิร์คพื้นฐานก็จัดการได้เลย และราคาไม่สูงมากนัก จุดนี้แหละที่ Cisco Meraki และ Cisco START สามารถเข้ามาช่วยได้

Cisco Meraki ระบบจัดการอินเทอร์เน็ตผ่าน Cloud

เมื่อเราถึงนึกระบบจัดการอินเทอร์เน็ต เราอาจจะคิดภาพว่ามีอุปกรณ์ 1 ตัวมาเสียบระหว่างเครือข่ายในองค์กร แล้วก็เข้าไปจัดการอุปกรณ์นี้ผ่านคอมพิวเตอร์ ถ้ามีสำนักงานหลายสาขาก็ต้องวิ่งไปที่สาขานั้นเพื่อจัดการอุปกรณ์ตัวนั้น แต่ Cisco Meraki ไม่ได้ทำงานทื่อๆ แบบนั้น จุดเด่นของ Meraki เลยคือการทำงานผ่าน Cloud หมายความว่าผู้จัดการเครือข่ายสามารถเข้าเว็บของ Cisco Meraki จากที่ไหนก็ได้ที่มีอินเทอร์เน็ต ไม่จำกัดแค่เครือข่ายภายในองค์กร แล้วสามารถจัดการอินเทอร์เน็ตของสำนักงานทุกสาขาได้จากแหล่งเดียว หรือสำหรับ SME ที่มีสำนักงานเดียวก็สามารถจัดการเครือข่ายของออฟฟิศได้จากนอกออฟฟิศ เปิดเข้ามาดูได้เลยว่าใครแอบโหลดบิต หรือโหลดเน็ตหนักๆ เวลาที่เราไม่อยู่

แล้ว Meraki ทำอะไรได้บ้าง เรายกตัวอย่างง่ายๆ ให้ดูครับ

จัดการความปลอดภัยในองค์กร

Meraki นั้นใช้ระบบรักษาความปลอดภัยเครือข่ายที่เรียกว่า Cisco Advanced Malware Protection หรือ AMP นะครับ ซึ่งเป็นฐานข้อมูลที่ Cisco มีทีมดูแลตลอดเวลา เมื่อเกิดภัยใหม่ๆ ขึ้นมาบนอินเทอร์เน็ต ทีมงานซิสโก้ก็จะวิเคราะห์และใส่ข้อมูลเข้าไปเพื่อให้ Meraki สามารถจัดการภัยใหม่ๆ ได้ตลอดเวลา เมื่อมีภัยร้ายที่ต้องติดต่อกันผ่านเครือข่ายอย่าง WannaCry หรือ Ransomware ไวรัสเรียกค่าไถ่ข้อมูลต่างๆ Meraki ก็สามารถบล็อกการเชื่อมต่อกับศูนย์สั่งการไวรัส (Command Center) หรือบล็อกการแพร่กระจายในเครือข่ายได้ด้วย

 

ที่เล่ามาไม่ได้บอกว่าการใช้งาน Cisco Meraki จะช่วยให้ปลอดภัยทั้งหมดแบบเครื่องคอมพิวเตอร์ไม่ต้องติดตั้งโปรแกรมฆ่าไวรัสแล้วนะครับ แต่การมี Cisco AMP ใน Meraki ก็ช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้หน่วยงานของเรามากขึ้น ข้อมูลสำคัญรั่วไหลออกไปได้ยากขึ้นด้วย

ปรับลดความเร็วอินเทอร์เน็ตสำหรับการใช้งานบางประเภท

ในระบบจัดการของ Meraki เราสามารถจัดการความเร็วอินเทอร์เน็ตสำหรับงานต่างๆ (Traffic Shaping) ได้ง่ายๆ ควบคุมได้หลายระดับ ทั้งความเร็วต่อ Wifi หนึ่งตัว (อุปกรณ์ของ Meraki สามารถปล่อยไวไฟได้พร้อมกันหลายๆ ชื่อ) หรือควบคุมเป็นรายผู้ใช้ไปเลยว่าจะให้คนหนึ่งใช้ความเร็วได้เท่าไหร่ แล้วยังสามารถกำหนดกฎ (Rule) ในการใช้งานได้ด้วย เช่นถ้าใช้บริการที่เกี่ยวกับเกม, BitTorrent หรือเข้า Facebook (ตามภาพประกอบ) ให้ปรับลดความเร็วในการใช้บริการพวกนี้ลงมา

มีแอป Meraki ให้ดูแลเครือข่ายจากที่ไหนก็ได้

นอกจากนี้ Meraki ยังช่วยติดตามการใช้งานทราฟิกต่างๆ ได้ด้วย ทำให้วิเคราะห์ได้ว่าอะไรที่ต้องใช้ข้อมูลเยอะ มีความสำคัญกับเครือข่ายของเรามาก จะได้ให้ความสำคัญในจุดนี้ แล้วลดแบนด์วิธจุดอื่นๆ ลง หรือมอนิเตอร์ว่าพนักงานคนไหนที่ใช้ข้อมูลมากๆ จะได้เข้าไปดูว่าใช้งานอะไรอยู่บ้าง เผื่อเจอเรื่องผิดปกติในองค์กรครับ

ซึ่งจุดเด่นอีกอย่างของ Meraki คือผู้ใช้ไม่ต้องนั่งป้อนเองว่าจะจัดการกับอะไรบ้าง ซึ่งบางทีมันก็ซับซ้อนเพราะต้องป้อนเว็บ ป้อน IP ป้อน Port สารพัดจะป้อน ถึงจะจัดการได้ แต่ Meraki จะมีหมวดหมู่บริการหลักๆ มาให้แล้ว ก็เลือกเข้าไปในกฎได้เลย ซึ่งถ้าบริการต่างๆ มันเปลี่ยนชื่อเว็บ หรือเปลี่ยนวิธีการระบุตัวตน Cisco จะอัปเดทมาให้ ทำให้ Meraki ยังสามารถควบคุมสิ่งที่เราระบุได้ตลอดโดยไม่ต้องเข้ามาดูแลบ่อยๆ

จัดการการเข้าสู่ระบบ Wifi ได้หลากหลาย

สำหรับใครที่ใช้อุปกรณ์ Meraki จัดการเรื่อง Wifi ด้วย ก็สามารถจัดการการเชื่อมต่อไวไฟได้หลากหลายมาก ที่เด่นคือสามารถทำหน้า Splash ที่จะเด้งหลังจากเชื่อมต่อไวไฟเสร็จแล้วได้ด้วย เพื่อโปรโมตบริษัท หรือล็อกอินด้วยวิธีหลากหลาย เช่นใส่รหัสที่กำหนดไว้ หรือจ่ายเงินเพื่อเข้าใช้ก็ได้ (หน้า Splash Page บางแบบจะต้องมีการกำหนดรายละเอียดการใช้งานกับระบบอื่นๆ ของ Cisco ด้วย)

นอกจากนี้ไวไฟของ Meraki ยังสามารถทำ Band Steering หรือการรวมคลื่น 2.4 GHz และ 5 GHz เข้าเป็นชื่อเดียวกันได้ด้วย ผู้ใช้ไม่ต้องนั่งเลือกเองว่าจะต่อคลื่นไหน ระบบเลือกให้เหมาะสมเอง ง่ายไหมล่ะ แถมอุปกรณ์ตระกูล Meraki บางรุ่นยังสามารถทำ Load Balance ได้ด้วย สามารถเอาเน็ต 2 เส้นมาเชื่อมต่อพร้อมกันเพื่อให้ความเร็วในการเชื่อมต่อสูงขึ้น หรือถ้าเน็ตเส้นไหนเสียไป ก็ย้ายการเชื่อมต่อไปอีกเส้นหนึ่งก็ได้

Site-to-Site VPN เชื่อมหลายสำนักงานให้อยู่ในเครือข่ายเดียวกัน

หนึ่งในเรื่องปวดหัวของการวางเครือข่ายคืออุปกรณ์อยู่คนละที่ คนละวงเครือข่ายกันครับ เช่นมีสำนักงาน 2 แห่ง เครือข่ายภายในก็แยกเป็น 2 วง เราก็ไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลใน NAS หรือฮาร์ดดิสก์ส่วนกลางได้ด้วยวิธีปกติ ก็ต้องวิ่งผ่านเว็บเข้ามา แต่ความสามารถ Site-to-Site VPN จะช่วยให้เครือข่าย 2 วงเหมือนอยู่ในวงเดียวกันได้ง่ายๆ ซึ่งสามารถคอนฟิกผ่านระบบตรงกลางได้เลย ไม่ต้องมานั่งคอนฟิกเราเตอร์ทุกตัวจากทุกสำนักงานเพื่อให้ใช้ VPN นี้

Meraki ให้บริการแบบสมัครสมาชิก

แน่นอนว่าด้วยความสามารถของ Cisco Meraki ที่ทำงานผ่านระบบ Cloud ของ Cisco เป็นหลัก รูปแบบการใช้บริการจึงแตกต่างจากอุปกรณ์ตามบ้านทั่วไปที่แค่ซื้ออุปกรณ์มาก็จบ แต่สำหรับ Cisco Meraki จะต้องสมัครสมาชิกเพื่อใช้บริการออนไลน์ด้วย ซึ่งแต่ละองค์กรก็ต้องการโซลูชั่นที่แตกต่างกัน เราจึงแนะนำให้ลองปรึกษาทีมงานของ Cisco เพื่อปรับรูปแบบผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสมกับความต้องการมากที่สุดครับ

ติดต่อ Cisco START
  • โทร: 02 263 7016
  • เว็บไซต์: Cisco START