หลังจากที่แอดเขียนบทความสรุป 5 ข้อเสียของ iPhone ที่เจอในชีวิตจริงจนทำให้ไม่อยากใช้ไอโฟนแล้ว ก็ได้รับเสียงตอบรับ (หรือพูดตรงๆ ก็โดนด่า) มหาศาล แอดมินซึ่งนั่งอ่านทุกคอมเมนต์จึงเรียบเรียงข้อมูลที่เห็นแย้งว่าทำไมถึงเลือก iPhone แม้ว่าจะมีราคาแพงกว่าสมาร์ตโฟนฝั่ง Android มาให้อ่านกันเป็น 5 ข้อดีของ iPhone ในครั้งนี้ครับ
1. iPhone ใช้แล้วภาพลักษณ์ดี ขายต่อได้ราคาดี
ปฏิเสธไม่ได้ว่า iPhone นั้นครองภาพลักษณ์เรื่องความเป็นสมาร์ตโฟนพรีเมี่ยม เป็นลัญลักษณ์ของความหรูหราในโลกไอทีมาอย่างยาวนาน แม้หลายคนจะปฏิเสธว่าไม่ได้เลือก iPhone เพราะเรื่องภาพลักษณ์ที่ดูดี แต่เชื่อเถอะว่าเมื่อถือ iPhone แล้วมันให้ความรู้สึกภูมิใจกับผู้ถือได้จริงๆ ซึ่งคำที่แทนค่านิยมนี้ได้ดีคือ “ทำไมไม่ซื้อ iPhone” ที่มักจะมีคนถามเสมอเมื่อรู้ว่า Android ที่ซื้อมานั้นถูกกว่าไอโฟนไม่เท่าไหร่ (แต่เรื่องนี้ดูจะเห็นได้ชัดในไทยมากกว่า เพราะฝรั่งก็ใช้ iPhone กันเป็นเรื่องปกติ ไม่ค่อยมีเรื่องภาพลักษณ์ว่าใช้แล้วดูดีมาเกี่ยว)
และอีกข้อดีสำคัญที่หลายคนมักจะพูดถึงคือราคาขายต่อมันไม่ลดลงมากนักเมื่อเทียบกับแอนดรอยด์ ทำให้ซื้อแล้วมีความคุ้มค่า เมื่อรุ่นใหม่ออกก็สามารถขายต่อได้ราคาดีอยู่
2. iPhone ได้รับอัปเดตเครื่องยาวนาน
อีกเรื่องหนึ่งที่คนใช้ iPhone ภูมิใจกันมากคือ iPhone นั้นได้รับการอัปเดตซอฟต์แวร์ที่ยาวนาน จนล่าสุด iOS 12 ยังอัปเดตได้ย้อนกลับไปถึง iPhone 5s ที่ออกตั้งแต่ปี 2014 ซึ่งการอัปเดตของไอโฟนนั้นก็เป็นที่ตื่นตาตื่นใจของผู้ใช้ เพราะแต่ละครั้งที่ได้อัป iOS ครั้งใหญ่ จะมีความสามารถใหม่ๆ เข้ามาเสมอ ต่างจากฝั่ง Android ที่สมาร์ตโฟนราคาถูกหน่อยก็จะไม่ได้รับอัปเดตเลย ราคากลางๆ ก็อาจจะได้อัปข้ามรุ่น Android สักเวอร์ชั่นหนึ่ง ส่วนตัวท็อปบางตัวอาจจะได้อัปข้ามไป 2-3 รุ่น ซึ่งก็เทียบไม่ได้กับ iPhone ที่อย่าง iPhone 5s ก็ได้อัปเดตมา 5 รุ่นแล้ว
3. iPhone มีแอปเยอะ หลากหลาย
แม้ว่าตอนนี้ Google Play Store ของแอนดรอยด์จะมีแอปเยอะมากแล้ว แต่เรื่องความหลากหลายต้องยอมรับว่าสู้ Apple App Store ไม่ได้จริงๆ โดยเฉพาะเรื่องเกมที่ฝั่ง iPhone มีเกมหลากหลายกว่ามาก แอปแต่งรูปก็มีเยอะกว่า แอป AR ก็ดีกว่า ก้าวล้ำกว่า แอปตัดต่อวิดีโอก็มีตัวดีๆ ให้เลือกเยอะกว่า
ถ้าแข่งแอปฟรี Android อาจจะมีเยอะนะครับ แต่แอประดับพรีเมี่ยมที่ต้องเสียเงินใช้ ฝั่งแอปเปิ้ลก็ยังทำได้ดีกว่า แอปเนี๊ยบกว่า เก่งกว่าอยู่ดี
4. iPhone ใช้กับ Apple Watch ได้
เรื่องที่อาจจะงงหน่อยสำหรับผู้ใช้ Android คือ Apple Watch นั้นเป็นข้อดีด้วยเหรอ ใช่ครับ มันเป็นจุดเด่นมากๆ ของ iPhone เลย คือการที่มันเป็นระบบเดียวที่ใช้ Apple Watch ได้ ซึ่งแม้ว่าเราจะด่า Apple Watch ว่าแย่แค่ไหนในช่วงแรกๆ ที่มันออกมา แต่ผ่านมา 4-5 ปีมันก็ได้พิสูจน์ตัวเองแล้วว่ามันคือ Smart Watch ที่ดีกลมกล่อมที่สุดในตลาดจริงๆ แม้หลายคนจะเถียงว่า Garmin ออกกำลังกายดีกว่า, Samsung ทำนาฬิกาสวยกว่า แต่นาฬิกาที่เป็นมาตรฐานในวงการคือ Apple Watch ที่แม้ไม่เน้นเรื่องการออกกำลังกายหนักแบบ Garmin แต่ก็มีฟังก์ชั่นออกกำลังกายมากพอให้คนทั่วไปใช้ แถมยังสามารถตรวจคลื่นหัวใจ และที่สำคัญมันเป็น Smart Watch ที่รองรับภาษาไทยได้สมบูรณ์ (Fitbit สอบตกเรื่องนี้ ใช้ภาษาไทยไม่ได้สักที)
ทำให้ผู้ใช้ iPhone เมื่อซื้อ Apple Watch มาใช้แล้ว ก็ยิ่งย้ายค่ายมาใช้ Android ยากเข้าไปใหญ่ครับ
5. iPhone มีประสิทธิภาพเครื่องแนวหน้า
แม้ว่าเรื่องแบตเตอรี่และการชาร์จไฟของ iPhone จะไม่พัฒนา, กล้องจะไม่ดีเท่าคู่แข่ง, การเชื่อมต่อเครือข่ายก็เป็นรอง Android แต่เรื่องที่ทุกคนซูฮกให้แอปเปิ้ลคือความจริงจังในการพัฒนาชิป Apple Ax Series ที่ทุกครั้งที่ออกมา จะได้คะแนนประสิทธิภาพดีที่สุดในตลาดเสมอ ซึ่งในปี 2018 ที่ผ่านมา Apple A11 ก็ทำผลงานได้ดีมากจนฝั่ง Android นั้นตามไม่ทันมาตลอดทั้งปี ซึ่งก็เพิ่งมีกระแสข่าวกว่า Snapdragon 855 จะแรงกว่า Apple A12 ตัวล่าสุดได้สักทีในช่วงปลายปี 2018 ที่ผ่านมานี้เอง ซึ่งเราก็รอดูในปี 2019 ว่ามือถือที่ใช้ Snapdragon 855 จะแรงได้สักแค่ไหน ซึ่งเรื่องความแรงนี้ก็เป็นความภาคภูมิใจของคนใช้ไอโฟนครับ
ชั่งน้ำหนักข้อดีและข้อเสียของ iPhone
5 ข้อดีของ iPhone
- iPhone ใช้แล้วภาพลักษณ์ดี ขายต่อได้ราคาดี
- iPhone ได้รับอัปเดตเครื่องยาวนาน
- iPhone มีแอปเยอะ หลากหลาย
- iPhone ใช้กับ Apple Watch ได้
- iPhone มีประสิทธิภาพเครื่องแนวหน้า
- iPhone ชาร์จก็ช้า แบตก็หมดเร็ว
- iPhone มีความสามารถด้านการเชื่อมต่อที่ล้าหลัง
- iPhone มีกล้องที่ดี แต่ไม่สุด ในขณะที่ราคาไปสุดทางแล้ว
- iPhone มีเรื่องระบบเสียงที่จัดว่าแย่ในกลุ่มเรือธง
- ลืมเรื่อง iOS มีแอปดี ระบบเสถียรไปได้เลย นั้นมันอดีต
ใครให้น้ำหนักเรื่องไหน ก็เลือกสมาร์ตโฟนที่เหมาะกับตัวเองดูนะครับ ส่วนแอดคงไปด้วยกันกับไอโฟนไม่ได้แล้ว T T