เนื้อหาที่น่าสนใจในงาน CREATIVE TALK CONFERENCE 2019 ในครั้งนี้คือ Marketing automation หรือการตลาดอัตโนมัติจากคุณแบงค์และคุณอรแห่งเว็บ คอนเทนต์ชิฟุ นำเสนอ ซึ่งเว็บแบไต๋ขอสรุปสาระสำคัญมาให้อ่านกันนะครับ
Marketing automation คือผสมแผนการและเทคโนโลยี เริ่มต้นจากเก็บข้อมูลเพื่อทำความเข้าใจลูกค้า แล้วสื่อสารกลับไปให้ลูกค้าที่ตรงกลุ่มและตรงเวลา เช่นเมื่อลูกค้ามาสมัครรับข่าวสาร ก็ส่งเมลขอบคุณ รวมถึงให้สิทธิพิเศษหาลูกค้า เพราะสถิติบอกว่าลูกค้าชอบอ่านเมลตอบรับการสมัครมากกว่าเมลการตลาดอื่นๆ หรือการส่งเมลเตือนลูกค้าและให้สิทธิพิเศษเมื่อลูกค้าเพื่อสินค้าในตระกร้าออนไลน์ แต่ไม่กดสั่งซื้อสักทีเป็นต้น
ทำไมถึงควรทำ Marketing Automation
- เพราะสามารถทำงานเดิมได้ในปริมาณซ้ำๆ เป็นจำนวนมาก เช่น ส่งจดหมายเชิญชวน และส่งตามไปอีกเมื่อถึงเวลาเพื่อ follow up ตามเงื่อนไขว่ามีการซื้อหรือไม่ซื้อ
- เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพมากขึ้น ยิงการตลาดตรงตามกลุ่มที่ระบุ
- เชื่อม Marketing กับเซลล์เข้าด้วยกัน
ก่อนเริ่มทำ MA ต้องมีข้อมูลก่อน ถึงจะทำได้ ข้อมูลมี 2 แบบคือ ลูกค้าป้อนเอง กับข้อมูลที่เราเก็บเอง เช่นลักษณะการใช้งานเว็บของเรา ซึ่งเมื่อมีข้อมูลจะทำให้ยิงข้อความเข้าถูกคนมากขึ้น
ความสามารถของ Marketing Automation ที่ควรใช้ในธุรกิจ
- จัดการ contact และจัดกลุ่มผู้ติดต่อ
- แทร็กข้อมูลการเยี่ยมชม แทร็ค engage แล้วให้คะแนน lead scoring ได้ เพื่อจัดกลุ่มว่าใครเหมาะกับเรา
- Email builder สร้างระบบเมลสื่อสารกับลูกค้า
- Form builder การสร้างฟอร์มเพื่อเก็บข้อมูล
- Landing page builder สำหรับสร้างหน้าเว็บเพื่อต้อนรับลูกค้า
- Dynamic content เพื่อสร้างเนื้อหาที่ต่างกันกับคนที่ต่างกัน เช่นข้อความสำหรับ CEO จะต่างจากคนทั่วไป
- Workflow จัดการเส้นทางของข้อความว่าจะเจออะไรบ้าง
- CRM เพื่อเปลี่ยนผู้ใช้เป็นลูกค้า
ซอฟต์แวร์ที่น่าสนใจเพื่อใช้ทำ Marketing Automation
ชุดชอฟต์แวร์สำหรับงาน Marketing Automation
- สำหรับ SME – ActiveCampaige แต่ไม่มีเวอร์ชั่นฟรี ส่วนถ้าอยากใช้ฟรีให้ลอง mailChimp
- สำหรับองค์กร – Salesforce, Marketo
นอกจากนี้ยังต้องมี Connector tools เพื่อเชื่อมข้อมูลจากแหล่งอื่นๆ มาวิเคราะห์ร่วมกันได้ เช่น Zapier (เชื่อม automation -> CRM) หรือ piesync ที่อันนี้จะซิงค์ 2-way ไปกลับระหว่าง Automation <-> CRM
ตัวอย่างการใช้ Marketing Automation
- Welcome program เมื่อมี user มาสมัคร ให้ส่งเมลไปถึง user ซึ่งสถิติบอกว่าคนชอบอ่านเมลนี้มากกว่าเมลการตลาดอื่นๆ
- Abandoned Cart ปัญหาใหญ่ของ e-commerce สถิติบอกมีคนทิ้งตระกร้าถึง 70% ซึ่งถ้ามีการเมลหรือส่งข้อความไปบอก ก็อาจจะทำให้คนกลับไปซื้อได้ถึง 10-15%
- Upsell ส่งข้อความเพื่อกระตุ้นให้ซื้อมากขึ้น หรือซื้อซ้ำ
- Lead Nurturing การฟูมฟักความสัมพันธ์ ให้คนที่มีรายชื่อแล้วสนใจเรามากขึ้น
- After sales ส่งข้อความไปนำเสนอบริการเพิ่มเติม หรือให้สิทธิพิเศษหลังจากซื้อ