(Advertorial)

เราอาจรู้จัก Huawei ดีในฐานะผู้ผลิตสมาร์ตโฟน (โดยเฉพาะเรื่องกล้องของสมาร์ตโฟนที่เด่นมาก!) แต่เรื่องหนึ่งที่หัวเว่ยพยายามพัฒนาอยู่เสมอคือ Ecosystem ของตัวเองโดยการออกผลิตภัณฑ์ไฮเทคหลายอย่างให้ผู้ใช้ได้เลือกใช้กัน ซึ่งผลิตภัณฑ์ของหัวเว่ยแต่ละตัวก็มีนวัตกรรมไม่ธรรมดาครับ

นอกจากสมาร์ตโฟน Huawei P30 Pro เรือธงตัวท็อปในตอนนี้ (ในรูปคือสี Breathing Crytral) หัวเว่ยยังออกลำโพงตัวจิ๋วอย่าง Huawei Mini Speaker ที่สามารถพกติดตัวไปได้ทุกที่ ใส่กระเป๋าเอาไปใช้ตอนไปเที่ยว หรือใช้ตอนนำเสนองานก็ได้ ใช้พร้อมกัน 2 ตัวเป็นเสียงสเตอริโอก็ได้ แน่นอนว่ามันเป็น Bluetooth ก็ใช้กับอุปกรณ์ทุกแบรนด์ที่เชื่อม Bluetooth ได้นะ ไม่ใช่แค่ Huawei อย่างเดียว นอกจากนี้ยังมี Huawei Watch GT นาฬิกาอัจฉริยะตัวล่าสุดที่ฟังก์ชันเยอะ ใช้ได้ทั้งเชิงการออกกำลังกาย เพื่อช่วยแทร็กการเคลื่อนไหว หรือโน้มน้าวให้ไปออกกำลังกาย หรือจะใช้ในชีวิตประจำวัน แสดงการแจ้งเตือนต่างๆ โดย Watch GT มีแบตอึดในระดับสัปดาห์ แถมใช้ได้กับสมาร์ตโฟนทุกแบรนด์ด้วย

Huawei Mini Speaker

หัวเว่ยนั้นเป็นค่ายมือถือที่ออกลำโพงพกพาไร้สายมาแล้วหลายรุ่นนะครับ ซึ่ง Huawei Mini Speaker (รหัส CM510) ก็เป็นลำโพงตัวล่าสุดที่พยายามออกแบบให้เล็กที่สุด โดยที่ยังคงคุณภาพเสียงไว้ได้มากที่สุด ซึ่งหัวเว่ยก็ทำสำเร็จด้วย

Huawei Mini Speaker นั้นมีกำลังขับ 3 Watt นะครับ ซึ่งถือว่าให้กำลังขับมากเมื่อเทียบกับขนาดตัวของมัน เพราะลำโพงพกพาอื่นๆ ที่ตัวใหญ่กว่านี้ หลายรุ่นก็ให้กำลัง 3 Watt ครับ แต่จุดที่ทำให้ลำโพงตัวนี้แตกต่างจากรุ่นอื่นคือมันมี passive radiator ที่เป็นเหมือนหนังนุ่มๆ ซ่อนอยู่ด้านล่างของลำโพงเพื่อส่งเสียงเบสได้นุ่มลึกกว่าลำโพงพกพาทั่วไปครับ แม้ว่าไม่ได้ตื้บๆ ขนาดลำโพงใหญ่ แต่ก็สัมผัสได้ถึงบีทเพลงที่ชัดเจนแล้ว และอีกความสามารถเด่นคือลำโพงรุ่นนี้สามารถลิงก์ลำโพง 2 ตัวเข้าด้วยกันเพื่อสร้างเสียงสเตอริโอซ้าย-ขวาได้ด้วย ผู้ซื้อก็สามารถซื้อ Huawei Mini Speaker ไปใช้ตัวเดียว ให้เสียง Mono ปกติ หรือจะซื้อแบบแพ็กคู่ 2 ตัวไปเลยก็มีขาย ก็จะได้ราคาพิเศษกว่าการแยกซื้อทีละตัว

ในเรื่องของดีไซน์ Huawei Mini Speaker ใช้วัสดุผสมกันระหว่างอลูมิเนียมและพลาสติกในทรงกระบอกขนาดเล็ก ด้านบนเป็นช่องลำโพงสำหรับเสียงย่านกลาง-สูง ส่วนด้านล่างก็เป็นขาตั้งที่มี Passive Radiator ซ่อนอยู่ภายในเพื่อให้เสียงเบสสะท้อนกับพื้นโต๊ะออกมา เห็นอันเล็กๆ แบบนี้แต่ Huawei Mini Speaker ก็ได้มาตรฐานการกันน้ำที่ IPX4 ซึ่งก็สามารถทนฝน ทนเหงื่อได้ระดับหนึ่งเลยแหละ (ไม่ได้ลงน้ำได้นะ) ก็ไม่น่าจะพังง่ายๆ ซึ่งที่ตัวลำโพงก็มีช่องสำหรับรอยสายคล้องลำโพงด้วย เผื่อพกติดตัวไปไหนมาไหน

ด้านหน้าลำโพงจะมีไฟบอกสถานะการทำงาน และปุ่มควบคุมซึ่งมีเพียง 1 ปุ่มเท่านั้นที่ใช้เปิด-ปิดลำโพง หยุดเพลง สั่งเชื่อมต่อ 2 ลำโพง คือสั่งทุกอย่างจากปุ่มนี้ปุ่มเดียว แค่เราจะต้องจำให้ได้ว่าต้องกดกี่ครั้งถึงจะทำงานอะไรก็เท่านั้น นอกจากนี้ลำโพงตัวนี้ยังมีไมค์ในตัวครับ สามารถใช้เป็น Speaker Phone คุยโทรศัพท์ได้ ด้านหลังมีช่อง MicroUSB สำหรับเสียบชาร์จไฟ ชาร์จแบตเต็มใน 2 ชั่วโมงครึ่ง และใช้ฟังเพลงได้ยาว 4 ชั่วโมงครับ ก็ถือว่าไม่มากแต่ก็ไม่น้อยสำหรับลำโพงที่มีน้ำหนักเพียง 112 กรัมเท่านั้น แต่ไม่มีช่อง 3.5 mm นะ รับสัญญาณเสียงจาก Bluetooth ได้อย่างเดียว

Huawei Mini Speaker นั้นมีให้เลือก 2 สีคือสีดำ Graphite Black และสีเขียว Emerald Green ที่เราถ่ายโชว์ให้ดูในวันนี้ โดยมีค่าตัวอยู่ที่ 1,090 บาท ส่วนถ้าซื้อแพ็กคู่จะได้ราคา 1,990 บาท แต่หน้าร้านต่างๆ ที่เห็นก็ขายราคาถูกกว่านี้ครับ ลองไปถามกันได้

Huawei Watch GT

เมื่อหัวเว่ยเจ้าแห่งสมาร์ตโฟนออก Smart Watch มันก็ต้องไม่ธรรมดา ซึ่งนาฬิกาอัจฉริยะตัวล่าสุดของหัวเว่ยอย่าง Huawei Watch GT ก็อัดความสามารถมาเต็มครับ คือแบตอึดมาก ชาร์จครั้งหนึ่งใช้ได้มากกว่าสัปดาห์, เปลี่ยนหน้าปัดได้หลายแบบ, น้ำหนักไม่ทำร้ายข้อมือ, แสดงการแจ้งเตือนทุกอย่างจากมือถือซึ่งสามารถแสดงภาษาไทยได้ด้วย, เช็กได้ทุกอย่างที่เกี่ยวกับการออกกำลังกาย การนอนเต็มอิ่ม, แสดงสภาพอากาศ, อัตราการเต้นหัวใจ พร้อมบอกจำนวนก้าวที่เดิน โอยเยอะ แถมราคาไม่แพงด้วย (ที่สำคัญคือไม่ต้องเป็นสมาร์ตโฟนของ Huawei ก็สามารถใช้นาฬิกานี้ได้ด้วยนะ)

โดย HUAWEI Watch GT ที่ขายในไทยนั้นมี 2 รุ่นหลักๆ นะครับคือ Elegant Edition มาพร้อมหน้าปัดขนาด 42 มม. ขนาดกะทัดรัด เหมาะสำหรับข้อมือผู้หญิง หน้าจอสัมผัส AMOLED HD 1.2 นิ้ว ความละเอียด 390×390 พิกเซล รองรับการใช้งานยาวนาน 1 สัปดาห์ ส่วนสายนาฬิกาทำจากวัสดุฟลูออโรอีลาสโตเมอร์ (Fluroelastomer) ที่ให้ความทนทานและดูดี โดยมีตัวเรือนมีให้เลือก 2 สีคือสีดำ Magic Black Pearl และสีขาว Magic Pearl White และถ้ามองดีๆ ที่หน้าปัดสีขาว จะเห็นเหลี่ยมนาฬิกาที่ตัดด้วยเพชร เพื่อให้เกิดรอยเส้นตัดบางๆ 48 เส้น ส่งผลให้เกิดเอฟเฟ็คท์เป็นสีที่แตกต่างกันออกไปเมื่อแสงตกกระทบหน้าปัดในมุมที่แตกต่างกัน โดย Huawei Watch GT Elegant Edition นั้นเปิดตัวที่ราคา 5,990 บาท

ส่วนรุ่น Classic Edition มาพร้อมหน้าปัดขนาด 46 มม. หน้าจอสัมผัส AMOLED HD 1.39 นิ้ว ความละเอียด 454×454 พิกเซล อายุการใช้งานแบตเตอรียาวนานถึง 2 สัปดาห์ในลักษณะการใช้งานทั่วไป ส่วนสายทำจากหนังแท้สีน้ำตาลและบุด้านใต้ด้วยซิลิโคนเพื่อให้เหมาะกับการออกกำลังกายและคงความสวยงามคลาสิกในเวลาเดียวกัน ตัวเรือนทำจากสแตนเลสแท้ สวยงาม ซึ่ง Huawei Watch GT Classic Edition เปิดตัวที่ราคา 6,990 บาทครับ

 

 

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส