อีก 1 ก้าวสำคัญที่ภาคการขายออนไลน์หรือ E-Commerce ประเทศไทยกำลังเกิดขึ้น นั่นคือการเข้ามาลงทุนอย่างเป็นทางการของบริษัทจีนยักษ์ใหญ่อย่าง อาลีบาบา โดยแจ็ก หม่า ในฐานะผู้กระจายสินค้าในกลุ่ม CLMV (กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม) ด้วยการลงทุนกว่า 1.3 หมื่นล้านบาท ซึ่งประเทศไทยจะกลายเป็นศูนย์กลางในตรงนี้ผ่านการขนส่งในทุกช่องทางทั้งเครื่องบิน รถไฟ และไปรษณีย์ไทยในชื่อ “เขตส่งเสริมพิเศษ อี-คอมเมิร์ซ”

เขตส่งเสริมพิเศษ อี-คอมเมิร์ซ

ภาพจากฐานเศรษฐกิจ

เขตส่งเสริมพิเศษนี้จะมีเนื้อที่ 232 ไร่ ซึ่งอยู่บริเวณ ณ ถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 34 ถนนบางนา – ตราด อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งถูกพัฒนาโดยบริษัทดับบลิวเอชเอเวนเจอร์ โฮลดิ้ง จำกัด ด้วยเงินลงทุน 5 พันล้านบาท แบ่งเป็น 4 จุดคือ

  • ศูนย์กระจายสินค้า (A) เนื้อที่ 77,112 ตารางเมตร
  • ศูนย์กระจายสินค้า (B) เนื้อที่ 36,000 ตารางเมตร
  • ศูนย์กระจายสินค้า (C) เนื้อที่ 36,000 ตารางเมตร
  • เขตปลอดอากร (D) เนื้อที่ 40,000 ตารางเมตร
  • พื้นที่สำนักงานสำหรับผู้ประกอบการวิจัยและพัฒนา และสำนักงานศุลกากร 5,187 ตารางเมตร

สรุปเรื่องภาษีมูลค่าต่ำกว่า 1,500 บาท

ซึ่งทางกลุ่มอาลีบาบาก็ได้ลงทุนในพื้นที่ตรงนี้กว่า 13,480 ล้านบาท ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงมาก และเป็นที่น่าสนใจในเรื่องของเขตพื้นที่พิเศษ EEC ที่มีกฎหมายสนับสนุนนักลงทุนในการยกเว้นภาษาเงินได้นิติบุคคลสำหรับบางกิจกรรมได้นานสูงสุด 13 ปี เมื่อมีคุณสมบัติและข้อมูลครบถ้วน แต่อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ไม่เสียภาษีเมื่อมีมูลค่าต่ำกว่า 1,500 บาทคือการส่งของผ่านช่องทางไปรษณีย์ที่ทุกคนใช้กันอยู่ในปัจจุบันนี้ถูกใช้เป็นการค้าเชิงพาณิชย์ ซึ่งหลายประเทศได้เริ่มมีการเก็บภาษีตรงส่วนนี้แล้ว แต่ประเทศไทยยังอยู่ในขั้นตอนพิจารณาอยู่เพราะปัจจุบันมีการส่งสินค้าปีละมากกว่า 10 ล้านชิ้น

วิเคราะห์สิ่งที่จะเกิดขึ้นเมื่อศูนย์กระจายสินค้า Alibaba สร้างเสร็จ

อัตราการจ้างงานจะเพิ่มขึ้น

การเข้ามาของศูนย์กระจายสินค้านั้น หลายส่วนจะถูกดำเนินการโดยคนที่คอยควบคุมดูแลและจัดการ รวมไปถึงการขนส่งในปัจจุบันก็จะยังต้องใช้มนุษย์อยู่จึงทำให้เขาต้องมีการจัดจ้างแรงงานกว่า 10,000 อัตรา โดยขอให้รัฐบาลช่วยจัดหาแรงงานให้ ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นโอกาสที่ดีของคนที่กำลังมองหางานในอนาคต

สินค้าบางอย่างจะมีราคาถูกลง

โดยปกติสินค้าหลายชนิดที่ถูกนำเข้ามาจากประเทศจีนนั้น จะต้องเสียภาษีศุลกากร ก่อนจะนำมาจำหน่ายภายในประเทศ ทำให้ราคาสินค้าส่วนหนึ่งจะต้องเพิ่มขึ้นจากการเสียภาษี+ค่าขนส่งและต้นทุน แต่จากการมาของศูนย์กระจายสินค้า Alibaba ที่จะเป็นเขตปลอดภาษีนำเข้านั้น ก็จะทำให้สินค้าที่เข้ามามีมูลค่าเท่ากับต้นทุนรวมกับค่าขนส่ง ซึ่งนั่นหมายความว่าสินค้าเหล่านั้นจะมีราคาที่ถูกลงอย่างแน่นอน

การเข้ามาดำเนินการแบบเต็มตัวของ Alibaba

ปัจจุบันหลาย ๆ คนได้ใช้บริการสั่งซื้อสินค้าผ่านร้านค้าออนไลน์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Lazada Shopee หรือ JD Central แต่ก็มีอีกหลายคนที่สั่งสินค้าจากประเทศจีนผ่าน Alibaba ก็มีเช่นกัน และการจัดตั้งศูนย์กระจายสินค้า รวมไปถึงระบบการส่งเคลมภายใน 14 วันทำการก็จะสามารถใช้งานได้โดยง่าย นั่นหมายถึงเราจะมีทางเลือกในการซื้อสินค้าที่มากขึ้นกว่าเดิมนั่นเอง

อาจจะมี Alibaba’s delivery เกิดขึ้นในประเทศไทย

สิ่งที่หลาย ๆ คนอยากลองซักครั้ง นั่นคือการรับของโดยการส่งผ่าน Drone โดย Alibaba ซึ่งไม่แน่ว่าเราอาจจะได้เห็นในประเทศไทยในอนาคตอันใกล้นี้เมื่อกฎหมายไทยรองรับ

อ้างอิง: Pantip | Facebook

 

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส