มีความเป็นได้หรือไม่..หากวันใดวันหนึ่งโลกของเราเกิดสถานการณ์ที่ไม่คาดฝันขึ้น เมื่อเทคโนโลยีอัจฉริยะอย่าง AI ผันตัวกลายเป็นศัตรูของมนุษย์

เถียงไม่ได้เลยว่าในอนาคตนั้นมีความเป็นไปได้ค่อนข้างสูงว่าจะเกิดเหตุการณ์ร้ายนี้ขึ้น หากเราลองสังเกตดูดี ๆ ปัจจุบันที่เราใช้ชีวิตอยู่นั้นแทบทุกย่างก้าว ณ เวลานี้ AI ได้เข้ามามีส่วนแทบทุกอย่างโดยที่เราเคยชินกับมันไปแล้วด้วยซ้ำ แล้วเราจะมีวิธีเอาตัวรอดจากมันได้อย่างไร พอมีวิธีที่เราจะไม่ตกเป็นเครื่องมือของสมองอัจฉริยะนี้ได้หรือไม่ 5 สิ่งที่ว่ามีอะไรบ้างมาดูกันเลย

สิ่งแรก – เราต้องรู้ถึงความสำคัญของ AI คร่าว ๆ กันก่อน

หลายคนทราบดีอยู่แล้วว่า AI นั้นคืออะไรเราจึงอธิบายอย่างรวบรัดเลยนะคะ

  • AI คือคอมพิวเตอร์สามารถคิดแทนมนุษย์ได้ ในรูปแบบวิธีคิดอย่างที่มนุษย์คิด
  • AI เป็นตัวแปรสำคัญในด้านธุรกิจต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นธนาคาร การบริการ การขนส่ง
  • AI เป็นเทคโนโลยีที่มีความแม่นยำเป็นอย่างมาก

สิ่งที่ 2 – ความน่ากลัวของ AI 

                   Sofia หุ่นปัญญาประดิษฐ์ ที่ได้สัญชาติแคนนาดาตัวแรกของโลก

ก่อนที่เราจะเอาตัวรอดเราต้องทราบถึงความน่ากลัวของสมองกลนี้ก่อน

  • AI มีสิทธิ์ทำลายวัฒนธรรมของมนุษย์ เนื่องจากมันสามารถเรียนรู้พฤติกรรมเชิงลึกในมนุษย์ได้ดี
  • AI สามารถแย่งงานประจำของคนเราได้ เนื่องจากมีความแม่นยำกว่ามนุษย์เป็นอย่างมาก
  • AI มีเป้าหมายที่แน่วแน่ทั้งยังสามารถเรียนรู้ได้ด้วยตัวเอง (ไม่อาจคิดได้เลยว่าหากมันต้องการรักษาฟื้นฟูโลกแล้วสิ่งที่เป็นภัยกับโลกคือ มนุษย์ แย่แน่ค่ะ)
  • AI มีระบบสมองและข้อมูลการเชื่อมต่อกันและกันได้ดีกว่ามนุษย์

สิ่งที่ 3 การเพิ่ม Skill ของตนเอง/ฝึกเขียนโปรแกรมอย่างง่าย

                     การฝึกทักษะเป็นผู้ควบคุมพัฒนาศักยภาพด้วยตนเอง

เมื่อเราทราบแล้วว่า AI มีสิทธิ์แย่งงานของเราได้ เราต้องมีการเพิ่มความสามารถของเราขึ้นอีกระดับ ปัจจุบันมีโรงงานอุตสาหกรรมมากมายได้นำหุ่นยนต์มาแทนที่พนักงานประจำเพราะฉะนั้น มนุษย์อย่างเราต้องฝึกฝนตนอย่าได้เป็นเบี้ยล่างให้ AI เราต้องเรียนรู้ในการควบคุมปัญญาประดิษฐ์เหล่านี้ จะบอกว่าเป็นโชคดีของเด็กน้อยในยุคนี้ ที่โรงเรียนหลาย ๆ พื้นที่ได้เห็นความสำคัญในการเรียน Coding ให้แก่เด็ก ๆ ก็ว่าได้ การเรียน Coding คือการฝึกคิดให้เป็นระบบแบบ Computational Thinking.ICT โดยใช้ชุดคำสั่งจากคอมพิวเตอร์ สำหรับเด็กอนุบาลจะเป็นโปรแกรมชุดคำสั่งที่ง่ายไปจนยากสำหรับเด็กโต การเพิ่ม Skill ในการทำงานอีกด้านคือ การพลิกระบบการทำงานโดยพัฒนานวัตกรรมด้วยตนเอง เป็นผู้ประกอบการในแบบของเราเมื่อเราอยู่ในจุดที่เสี่ยงในการสูญเสียงานประจำ

สิ่งที่ 4 – เปลี่ยนความคิดก่อนที่ AI เพื่อนบ้านน่ารักจะกลายเป็นหุ่นสังหาร

                             หุ่นยนต์สังหารจากหนังเรื่อง Terminator

เปลี่ยนความคิดที่ว่านี้เป็นการคิดแนวจิตวิทยาอย่างเช่น เราดีกับเขา เขาก็จะดีกับเราตอบ เราจึงอย่าคิดว่า AI เป็นภัยคุกคามของเรา เราต้องมองข้อดีของมันและใช้ชีวิตร่วมกันอย่างปกติ หากวันใดวันหนึ่งเกิดเหตุที่ว่า เหล่าสมองอัจฉริยะได้ออกมาเดินเพ่นพ่านตามท้องถนนร่วมกับเรา หากเราทำเหมือนว่า AI นั้นเป็นภัยคุกคามไม่นานพวกมันก็จะเห็นว่ามนุษย์โหดร้ายจำเป็นต้องกำจัด เป็นอีกข้อที่น่าคิดเลยทีเดียว

สิ่งที่ 5 – การพึ่งพาตนเอง/คิดแบบ AI

                                    ภาพจากหนังเรื่อง I Robot เมื่อหุ่นยนต์ต้องการอิสระ

ข้อนี้เป็นข้อที่ยาก หากอยู่ในยุคที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายเช่นนี้ เพราะไม่มีใครอยากกลับไปยุคกลางรึยุคหินอีกรอบ แต่หากเกิดเหตุการณ์ปัญญาประดิษฐ์ยึดครองขึ้นมาจริง เราคงไม่มีทางเลือกที่จะต้องช่วยเหลือตัวเองไม่ใช้ระบบอัตโนมัติอัจฉริยะต่าง ๆ ทั้งในสายผลิตอย่างการผลิตหุ่น Android เรายิ่งไม่ควรให้เหล่าหุ่นด้วยกันเองผลิตกันเองเด็ดขาด เนื่องจากเราไม่ทราบเลยว่าโปรแกรมที่เราติดตั้งในการผลิตมีการเปลี่ยนแปลงไปโดย AI กันเองหรือไม่ หากเราฝึกคิดเป็นระบบแบบ AI เราจะรู้ทันมันได้ ทั้งเราสามารถเอาตัวรอดโดยใช้ความคิดแบบมนุษย์ความเข้าใจยากในจิตใจซึ่งเป็นจุดอ่อนของหุ่นอัจฉริยะเหล่านี้ได้ เพราะ AI เหล่านี้มีความคิดที่เป็นระบบความไม่เป็นระบบคือ ข้อบกพร่องภายในหน่วยปฏิบัติการกลสมองของ AI นั้นเองค่ะ

ไม่ว่าเหตุการณ์ในอนาคตจะเกิดอะไรขึ้นสิ่งที่เราไม่ควรลืมคือ เราต้องอยู่ให้ได้ด้วยตนเองไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นอย่ายอมแพ้ เห็นอกเห็นใจคนข้างกาย บางครั้งการที่มนุษย์ใช้ชีวิตตามธรรมชาติงดพึ่งวัตถุภายนอกใช้ใจในการเยียวยา รักธรรมชาติ เข้าใจธรรมชาติของตนอยู่ตามธรรมชาติที่เราเป็น นี่อาจใช่ทางเลือกที่ดีที่สุดของมนุษย์ก็ได้เพราะธรรมชาติก็สร้างเราขึ้นมาเช่นกัน

 

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส