ไฮไลต์เด็ด Mi Note 10 Lite

  • ดีไซน์ตัวเครื่องดูสวยดูรวยดูหรู ด้วยการดีไซน์แบบ 3D curved พร้อมใช้จอแบบ AMOLED แข็งแรงทนทานด้วยกระจกแบบ Corning Gorilla Glass 5
  • ให้กล้องหลังสี่ตัว Quad Camera ความละเอียดคุณภาพสูงสุดอยู่ที่ 64 ล้านพิกเซล รัปประกันภาพงาม ๆ ด้วยเซนเซอร์ Sony IMX686 ถ่ายวิดีโอแบบ 4K ได้ พร้อมมีฟีเจอร์สโลโมชันยื้อเวลาจริงได้ด้วย 960 เฟรม/วินาที
  • เล่นเกมได้ลื่น ๆ ด้วยชิปเซ็ต Snapdragon 730G
  • แบตเตอรี่อึด 5260 mAh มีฟาสต์ชาร์จมาให้ ชาร์จเต็มไวใน 64 นาที ใช้งานได้สองวันเต็มโดยที่ไม่ต้องชาร์จ

ณ เวลานี้ คงไม่มีสมาร์ตโฟนแบรนด์ไหนที่จะมี “ราคาคุ้มค่ากับสเปกทุกบาททุกสตางค์” ไปมากกว่า “Mi” แล้วละนะครับ มาดูกันดีกว่าว่าสมาร์ตโฟนในราคาหมื่นต้น ๆ สมัยนี้ โหดขนาดไหน!?

สเปกที่น่าสนใจของ Mi Note 10 Lite

  • หน้าจอ: 6.47 นิ้ว 3D Curved ประเภทหน้าจอ AMOLED
  • กล้องหน้า: ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.5
  • กล้องหลัง:
    • เลนส์ไวด์ ความละเอียด 64 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.9
    • เลนส์อัลตราไวด์ ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2
    • เลนส์มาโคร ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
    • เลนส์วัดระยะ ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
  • ชิปประมวลผล: Snapdragon 730G
  • RAM/ROM: 8GB/128GB
  • พอร์ตเชื่อมต่อ: USB Type-C, รูหูฟังแจ็ก 3.5 มิลลิเมตร
  • แบตเตอรี่: 5260 mAh รองรับฟาร์สชาร์จ
  • ความปลอดภัย: สแกนลายนิ้วมือใต้จอ
  • สีเครื่อง: ดำ Midnight Black, ขาว Glacier White และม่วง Nebula Purple

ราคานี้ได้จอ AMOLED!

ถ้าสมมุติคุณไม่รู้จัก Mi มาก่อนแล้วมาเห็นเครื่องนี้ในครั้งแรก จะเชื่อกันไหมครับว่านี่สมาร์ตโฟนราคาแค่หมื่นต้น ๆ? ต้องบอกว่าดีไซน์ของ Mi Note 10 Lite ทำออกมาได้น่าสนใจมากเลยนะครับ ดูสวย ดูแพง รูปลักษณ์มีความเป็นสากล และในเรื่องของสีตัวเครื่องก็ยิ่งส่งเสริมความสวยงามเข้าไปอีกเพราะมีให้เลือกด้วยกัน 3 สี ได้แก่ ดำ Midnight Black, ขาว Glacier White และม่วง Nebula Purple

แต่นอกจากนั้นเรื่องของหน้าจอก็เอาเรื่องไม่แพ้กัน เพราะมีขนาดอยู่ที่ 6.47 นิ้ว มีความละเอียดแบบ FHD+ 1080 x 2340 อัตราส่วน 19.5:9 มีหน้าจอแสดงผลอยู่ที่ 87.8% และยังเป็นหน้าจอประเภท AMOLED 3 Curved ก็จะมีความโค้งมากกว่าสมาร์ตโฟนหลาย ๆแบรนด์ พร้อมยังมีเซนเซอร์สแกนนิ้วมือบนหน้าจอและในด้านความทนทาน ตัวเครื่องก็ได้รับการปัองกันรอยขีดข่วนด้วยกระจก Corning Gorilla Glass 5 ครอบคลุมทุกส่วนของตัวเครื่อง หน้าจอ, ด้านหลังตัวเครื่อง หรือแม้แต่เลนส์กล้อง

กล้องหลัง 4 ตัว เลนส์หลัก 64 MP เซนเซอร์จาก Sony

ถัดมาเป็นเรื่องของกล้องกันบ้างนะครับ ก็ปฎิเสธไม่ได้จริง ๆ ว่าสิ่งนี้ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งในการตัดสินใจเลือกซื้อสมาร์ตโฟนไปแล้ว “ซึ่ง Mi Note 10 Lite ก็เข้าใจดีว่าสเปกของกล้องประมาณไหนถึงจะถูกใจหลายคนโดยยังคงความคุ้มค่าไว้ได้อยู่”

มาดูกันที่กล้องหลังกันก่อนเลยครับ Mi Note 10 Lite จัดมาให้ 4 เลนส์เลย (AI Quad Camera)

  1. เลนส์หลักอย่างไวด์ให้ความละเอียดมาที่ 64 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.9 พร้อมใช้เซนเซอร์จากทาง Sony IMX686 ก็มั่นใจได้เลยละว่าภาพที่ออกมาจะคมเก็บรายละเอียดครบ ไวท์บาลานซ์ไม่ผิดเพี้ยน
  2. ถ้ดมาก็จะเป็นเลนส์มาตรฐานใหม่ของสมาร์ตโฟนอย่างอัลตราไวด์ ที่ให้ความละเอียดมาที่ 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2
  3. อีกตัวจะเป็นเลนส์มาโครความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
  4. และปิดทายด้วยเลนส์วัดระยะ ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4

ส่วนกล้องหน้าและในยุคที่ใคร ๆ ก็หันมาเป็นครีเอเตอร์ได้อย่างไม่ยากเย็น Mi Note 10 Lite ก็ทำให้การถ่ายวิดีโอสนุกและสร้างสรรค์หลากหลายโมเมนต์เท่ ๆ ได้ด้วยความสามารถถ่ายวิดีโอความละเอียดระดับ 4K/30 fps และในความละเอียดระดับ 720p ยังถ่ายสโลโมชันที่ยืดเยื้อภาพให้ย้วยได้สูงสุดอยู่ที่ 960 fps ในกล้องหลัง

สเปกแรง Snapdragon 730G มาเอง, แบต 5260 mAh มีชาร์จไว 30W

ส่วนเรื่องของสเปก Mi Note 10 Lite ก็จัดแบบโหด ๆ มาให้ด้วย ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 730G ซึ่งตัว G ตามหลังไม่ได้มีไว้แค่ให้ชื่อรุ่นดูเท่ ๆ แต่ช่วยในเรื่องของประสิทธิภาพในการประมวลผลมากขึ้นโดยเฉพาะกับการเล่นเกม ระบายความร้อนได้ดีขึ้น เฟรมเรตเสถียรขึ้น พร้อมให้ภาพที่สวยงาม และก็ไม่ต้องกลัวแบตหมดง่าย ๆ เพราะ Mi Note 10 Lite มีขนาดแบตเตอรีอยู่ที่ 5260 mAh ที่หากนำไปใช้ในทั่วไปก็จะอยู่ได้ถึง 2 วันครับ และก็ยังรองรับการชาร์จไวที่ 30 W ซึ่งมีมาให้ในกล่องด้วยเลย (ซื้อเพิ่มทำไมเนอะ) โดยตั้งแต่ 0 – 100% จะใช้เวลาชาร์จอยู่ที่ 64 นาที

“คุ้มทุกบาททุกสตางค์”

โดยรวม Mi Note 10 Lite คือสมาร์ตในราคาหมื่นต้น ๆ ที่คุ้มค่าทุกบาททุกสตางค์เลยละครับ ไม่ว่าจะด้วหน้าจอ AMOLED บนตัวเครื่องที่มีดีไซน์สวยงามแบบ Curved 3D, กล้องหลังที่ให้มา 4 ตัว ไว้ใจได้ทั้งการถ่ายภาพที่มีเซนเซอร์ IMX686 จากทาง Sony พร้อมด้วยความละเอียดที่มากสุดอยู่ที่ 64 ล้านพิกเซล และในแง่ของการถ่ายวิดีโอก็ตอบโจทย์การสร้างสรรค์ผลงานของคนรุ่นใหม่มากทั้งความละเอียดภาพที่ถ่ายได้สูงสุด 4K/30 fps วิดีโอแบบสโลว์โมชันที่ทำได้ถึง 960 fps, ให้ชิปเซ็ต Snapdragon 730G ที่ผู้ใช้งานแอนดรอยด์ไว้ใจในคุณภาพและประสิทธิภาพ และปิดท้ายด้วยแบตเตอรี่ความจุ 5260 mAh มีฟาสชาร์จ 30W มาให้ แบตหมดก็เอาไปชาร์จ 64 นาทีแล้วก็นำกลับมาใช้งานต่อ

สำหรับใครที่สนใจ Mi Note 10 Lite รุ่น RAM 8GB/ROM 128GB สนนราคาอยู่ที่ 12,999 บาทโดยพร้อมวางจำหน่ายแล้วตั้งแต่วันที่ 28 พ.ค.นี้ โดยช่องทางออนไลน์ได้แก่ Lazada Shopee และ JD Central
ส่วนออฟไลน์หรือว่าหน้าร้าน Banana, TG, Jaymart และ Mi store หรือตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศได้เลยครับ

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส