ใครหลาย ๆ คนที่พึ่งจะซื้อกล้องมาอาจจะมีคำถามอยู่ในใจกันบ้างใช่ไหมล่ะครับว่าเราควรจะซื้อเลนส์อะไรเพิ่มจากเลนส์ Kit ที่กล้องแถมมาให้ดี เลนส์ที่ใช้ละลายหลังแบบที่คนนิยมกันเป็นแบบไหนหรืออยากได้เลนส์มุมกว้างเอาไว้ถ่ายภาพวิวต้องซื้อเลนส์ตัวไหนดี วันนี้เราจะมาหาคำตอบไปด้วยกันครับ
1. 50 mm. f/1.8
สำหรับมือใหม่ที่ยังไม่รู้ว่าตัวเองอยากได้ภาพแบบไหน ช่วง 50 mm ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจครับ เพราะเป็นระยะที่ใกล้เคียงกับตามนุษย์ทำให้สามารถวางเฟรมได้ไม่ยากเพราะเราน่าจะคุ้นตากับระยะนี้กันอยู่แล้ว
อีกทั้งยังมีรูรับแสงหรือค่า f ที่กว้างถึง f/1.8 ทำให้ถ่ายละลายหลังได้ดีเหมาะกับที่แสงน้อย จะเอาไปถ่าย Portrait ก็ดี ถ่ายวิวก็ได้ แถมส่วนใหญ่ราคาไม่แพง เรียกได้ว่าเป็นเลนส์เริ่มต้นที่ดีตัวหนึ่งเลยล่ะครับ
2. 35 mm. f/1.8
35mm เป็นระยะที่ชื่นชอบของช่างภาพหลาย ๆ คน เนื่องจากให้ภาพที่กว้างกว่า 50mm ทำให้เราเก็บบรรยากาศได้มากขึ้นแต่ก็ยังสามารถละลายฉากหลังได้อยู่เพราะมีรูรับแสงที่กว้างถึง f/1.8
หลาย ๆ คนมักจะใช้เลนส์ 35 mm ถ่ายในที่ ที่มีพื้นที่จำกัด เช่น คาเฟ่หรือร้านอาหาร ถ้าใช้ระยะ 50 mm ถ่ายอาหารหรือคนในร้านอาหารเราอาจจะต้องลุกขึ้นถอยหลังไปอีก 1-2 ก้าวถึงจะเก็บเฟรมได้ครบ แต่ถ้าเป็น 35 f/1.8 ตัวนี้จะนั่งถ่ายก็ยังไหวครับ
3. 85 mm. f/1.8
เลนส์สายน้าที่ช่างภาพ Portrait ระดับเริ่มต้นต้องมีกันทุกคน ด้วยระยะที่ไปทาง Tele อ่อน ๆ ทำให้ถ่ายคนออกมาสมส่วน และละลายฉากหลังได้มากกว่า 50 mm แต่ด้วยระยะที่แคบกว่าทำให้อาจจะต้องใช้พื้นที่ในการถ่ายกันสักนิดหนึ่งครับ
ถ้าต้องการถ่ายเน้นตัวแบบ เลนส์ 85 mm จะให้ภาพได้อย่างที่เหมือนมือโปรถ่ายกันเลยล่ะครับ สำหรับคนที่คิดว่าจะมาสาย Portrait อย่างจริงจัง เลนส์ตัวนี้ของมันต้องมีจริง ๆ
4. 16 mm. – 35 mm. f/2.8
ถ้าคิดว่าเลนส์ Kit ที่กล้องแถมมาระยะที่ได้ไม่ Wide สะใจ เลนส์ช่วง 16 mm. – 35 mm. จะมาตอบโจทย์ได้ตรงนี้ครับ ไม่ว่าจะถ่าย Landscape, Architecture หรืออะไรที่ต้องการความกว้างเป็นพิเศษก็สามารถใช้งานได้ดี เพราะเป็นเลนส์ซูมทำให้ใช้ช่วงเลนส์ได้หลากหลาย จะใช้ที่ 16 mm เก็บวิวกว้าง ๆ หรือจะใช้ที่ 35mm ถ่าย Street ก็ย่อมทำได้ครับ
5. 24 mm. – 70 mm. f/2.8
เลนส์อัปเกรดสำหรับคนที่ชอบเลนส์ Normal Zoom แบบเลนส์ Kit แต่อยากได้ความกว้างที่มากขึ้นกับค่ารูรับแสงที่คงที่ คนที่ใช้เลนส์ Kit คงจะรู้ดีกันอยู่แล้วว่าระยะที่เลนส์ให้มาส่วนใหญ่จะอยู่ที่ 28-70 จะกว้างก็กว้างไม่สุด แถมรูรับแสงยังอยู่ที่ f/3.5-5.6 อีก ยิ่งซูมก็ยิ่งทำให้ภาพมืดลง ถ้าแสงไม่พอก็ต้องดัน iso อีก ทำให้ภาพเกิด Noise ได้ง่าย
เลนส์ 24-70 f/2.8 สามารถจบปัญหาเหล่านั้นได้ครับ ด้วยช่วงระยะเริ่มต้นที่กว้างกว่า ที่ 24 mm. เราจะรู้สึกถึงความกว้างที่มากกว่าเลนส์ Kit จะให้ได้ แถมจะซูมไปที่ระยะ 70 mm รูรับแสงก็ยังคงที่ ที่ f/2.8 สุดยอดไปเลยใช่ไหมครับ แบบนี้จะถ่ายแนวไหนเลนส์ตัวนี้ก็สามารถทำได้หมดแถมได้รูรับแสงกว้าง และคงที่อีกด้วยนะ
6. 70 mm. – 200 mm. f/2.8
สำหรับช่างภาพที่ต้องการเลนส์ซูม Telephoto ระยะ 70 mm. – 200 mm. f/2.8 คงจะเป็นระยะที่ช่างภาพหลายคนอยากที่จะมีเอาไว้ครอบครองล่ะครับ ด้วยระยะที่สามารถซูมได้ถึง 200 mm. จะเอาไปถ่าย Landscape เพื่อดึงฉากหลังก็ดีงาม จะถ่าย Portrait ก็ได้ หรืออาจจะใช้ในงาน Motorsport ที่ต้องใช้กำลังซูมสูง ๆ เพื่อถ่ายรถในสนามแข่งก็ตอบโจทย์มาก ๆ
ซึ่งโดยปกติแล้วเลนส์ซูมทั่ว ๆ ไปถ้าซูมขนาดนี้ f คงจะไหลไปจนทำให้เราต้องดัน iso ช่วยกันแล้วใช่ไหมครับ แต่ถ้าเป็น f/2.8 ตัวนี้ล่ะก็ไม่ต้องห่วงเรื่อง noise จะขึ้นง่ายหรือสปีดชัตเตอร์ไม่พอกันไปได้เลยครับ
สรุป
เลนส์แต่ละตัวมีจุดเด่นจุดด้อยที่แตกต่างกันครับ ถ้าเรารู้ว่าตัวเองต้องการภาพแบบไหนเราก็จะตัดสินเลือกซื้อเลนส์ได้เหมาะกับงาน และความต้องการของเราได้ง่ายขึ้น แต่ไม่ใช่ว่าเลนส์ Wide ก็ต้องถ่ายแต่วิว เลนส์ 85 mm. f/ 1.8 ต้องเอาไปถ่าย Portrait เท่านั้นนะครับ เพราะจริง ๆ แล้วเราก็สามารถเอาเลนส์ Wide ไปถ่าย Portrait หรือจะเอาเลนส์ 85 mm. f/1.8 ไปถ่าย Landscape ก็ยังได้ สุดท้ายแล้วก็อยู่ที่เราว่าจะเลือกเอาเลนส์แบบไหนไปสร้างสรรค์ผลงานให้ได้อย่างที่เราต้องการ
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส